“พล.อ.ประวิตร” ห่วงใย

“พล.อ.ประวิตร” ห่วงใยกำลังพล ทั้งสวัสดิการและความปลอดภัย   ขอให้ อดทน อดกลั้น  และดำเนินการทำการตามยุทธวิธี  ระเบียบกฎหมายและที่สำคัญให้ยึดประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นหลัก

วันนี้ (6 มิ.ย.2568) พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรคพลังประชารัฐ  กล่าวว่า “กรณี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้มีแถลงการณ์ จำนวน 2 ฉบับ   ในแถลงการณ์รัฐบาลไทยทั้งสองฉบับ  ไม่มีการประท้วงที่ พล.ต.เนี๊ยะพงษ์ ผบ.พล.ร.43 ประเทศกัมพูชา  นำทหารและครอบครัวแต่งเครื่องแบบและชุดประจำชาติขึ้นมาร้องเพลงบนปราสาทตาเมือนธม ประเทศไทย เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์  2568  ตลอดจนการประท้วงเหตุการณ์ปะทะระหว่างทหารไทยและทหารกัมพูชาซึ่งเกิดขึ้นบนพื้นแผ่นดินไทย เป็นเหตุให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิตหนึ่งราย เมื่อวันที่ 28 พ.ค. 2568 ซึ่งไม่เป็นไปตามข้อมูลที่ทางกัมพูชาพยายามกล่าวอ้างในเอกสาร   การประชุม และ สื่อต่างๆ  ตลอดจนการขุดสนามเพาะ หรือคูเรต ในเขตพื้นที่ no man land ซึ่งไม่สามารถทำได้ตามกฏหมายระหว่างประเทศ  ซึ่งเหล่านี้เป็นข้อเท็จจริง ที่เกิดขึ้นจริง
ที่จะต้องปรากฏบนแถลงการณ์ของรัฐบาลไทยเพื่ออาจจะต้องใช้เป็นพยานหลักฐาน  หากมีการต่อสู้คดีในวันข้างหน้า   ซึ่งเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องสำคัญ  ที่ฝ่ายค้านและประชาชนทวงถามมาตลอด  เพราะจะ เป็นพยานหลักฐานสำคัญในการต่อสู้คดีในภายภาคหน้า  หากไม่มีจะเข้ากฏหมายปิดปาก“
        ”นอกจากนี้  การเผาศาลาตรีมุข  ซึ่งก่อสร้างโดยทหารไทย  ในสมัยพลเอกชาติชาย  ชุณหะวัณ เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีข้อเคลือบแคลงสงสัย  เพราะหลังจากที่พล.อ.เมาโซ๊ะพัน รอง ผบ.สส. กัมพูชาไปตรวจเยี่ยมกำลังพลและพบว่าทหารไทยจำนวนหนึ่งไปทำบุญกับพระสงฆ์บริเวณศาลาตรีมุข  สามเหลี่ยมมรกต เมื่อวันที่ 27 ก.พ. 2568 และมีการโต้เถียงกัน  และอีกไม่กี่วัน  ศาลาดังกล่าวก็ถูกเผาหมดไปทั้งหลัง
        รัฐบาลควรยกอำนาจการตัดสินใจให้ฝ่ายทหารหรือกองทัพภาคที่ 2 เป็นผู้ตัดสินใจเพราะ อยู่ใกล้ชิดพื้นที่ และสถานการณ์มากกว่า  ไม่ว่า จะเป็นการวางกำลัง  การดำเนินยุทธศาสตร์ทางทหาร  ตลอดจนปิดด่านทั้งหมด  เพื่อสร้างความได้เปรียบเชิงยุทธศาสตร์  ซึ่งเรื่องดังกล่าวพลเรือนอาจจะไม่มีความเข้าใจ  และการปิดด่านยังเป็นการคุ้มครองความปลอดภัยประชาชนชาวไทยที่เดินทางเข้าออกผ่านช่องทางดังกล่าวอาจจะถูกทหารกัมพูชากลั่นแกล้งจับกุม และเอาตัวไปดำเนินคดีเพื่อเป็นการต่อรองกับรัฐบาลไทย  หากไม่สามารถ ปิดด่านได้   รัฐบาลไทย  ควรต้องตัดการขายน้ำมันให้กัมพูชา เพราะน้ำมันเป็นยุทธปัจจัยประการหนึ่ง   ฝากย้ำพี่น้องประชาชน พึงใช้ความระมัดระวังในการส่งข้อมูลข่าวสาร  เพราะอาจจะกระทบความมั่นคงและการแก้ไขปัญหาสถานการณ์ของฝ่ายมั่นคงและเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานได้“
        พล.ต.ท.ปิยะฯ  ” กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ   ได้โทรศัพท์หาพลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2  เพื่อให้กำลังใจในฐานะที่ แม่ทัพ เคยเป็นอดีตผู้ใต้บังคับบัญชามาก่อน  ขอให้ ดูแลกำลังพล  ทั้งสวัสดิการและความปลอดภัย   ขอให้ อดทน อดกลั้น  และดำเนินการทำการตามยุทธวิธี  ระเบียบกฎหมายและที่สำคัญให้ยึดประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นหลัก  จักรักษาผืนแผ่นดินไทยไว้ด้วยชีวิต ตามที่เคยได้ปฏิญาณตนไว้ต่อหน้าธงชัยเฉลิมพลและองค์พระมหากษัตริย์“

ความคิดเห็น

ข่าวฮอตชัดทุกกระแส

วิเคราะห์ เจาะลึก วัตถุมงคลหลวงพ่อพัฒน์ วัดห้วยด้วน

ทนายอนันต์ชัย โพสต์ FB ระบุ

ฟุตบอลสูงอายุชิงถ้วย ร.10 68 ทีมร่วมฟาดแข้ง

“ธรรมาภิบาล”เร่งหารือ กกต.ให้จัดการเลือกตั้งใหม่

ชมรมทหารพราน ค่ายปักธงชัย แจกข้าวสาร อาหารแห้ง ณ​ ชุมชนชาวคลองลัดภาชี

ราชกรีฑาสโมสรจัดศึกกีฬาม้าแข่งไร้พนันชิงชัยแบบนิวนอร์มัล

ไทย ต้านไม่ไหว พ่ายญี่ปุ่น 0-7