พปชร.หยัน รัฐบาลมีปัญญา

พปชร.หยัน รัฐบาลมีปัญญาแก้ปัญหาราคาข้าวตกต่ำแค่นี้เองเหรอ ถ้ารัฐบาล ไม่มีแนวทางแก้ปัญหาราคาข้าวตกต่ำ ยินดีให้ลอกแบบตามที่พรรค พปชร. เคยทำมาสำเร็จ

วันนี้ (7มี.ค.2568) พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า  ตามที่เกษตรกรชาวนาได้รับความเดือดร้อนเนื่องจากราคาข้าวตกต่ำ  และรัฐบาลได้ผลักไส ให้ชาวนา เปลี่ยนจากการปลูกข้าวไปปลูกกล้วยแทนโดยคิดว่า ราคากล้วยดีกว่าราคาข้าว  แสดงถึงการเข้าถึงปัญหา และปัจจัยในการก่อให้เกิดปัญหาราคาข้าวตกต่ำ และการช่วยเหลือเกษตรกรชาวนา ของรัฐบาลไม่มีความละเอียดเพียงพอและไม่เข้าใจถึงปัญหาอย่างลึกซึ้ง
       ในช่วงนี้ ข้าวนาปรังออกมาในตลาดเป็นจำนวนมาก  ประกอบกับ ความสามารถในการแข่งขันของไทยในตลาดโลกทำให้ราคาข้าวตกต่ำ แทนที่รัฐบาลจะมองให้ลึกถึงปัญหาและเข้าใจความเดือดร้อนของชาวนาอย่างแท้จริง  กลับไป แนะนำให้ชาวนาเปลี่ยนจากการปลูก“ข้าว”ปลูก“กล้วย” แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ และ ความสามารถในการแก้ไขปัญหาของรัฐบาล  ถ้ารัฐบาลไม่มีความรู้ความสามารถเพียงพอ  ทางพรรคพลังประชารัฐยินดีให้ลอกนโยบาย และการแก้ไขปัญหาราคาข้าวตกต่ำในรัฐบาลที่ผ่านมาทำแล้วได้ผล
          การช่วยเหลือความเดือดร้อนของชาวนาเบื้องต้นในระยะสั้น  ในรัฐบาลนี้ ให้เงินช่วยเหลือเกษตรกรชาวนาไร่ละ 1,000 บาท  ไม่เกินรายละ 10 ไร่ เกษตรกรหนึ่งรายจะได้เงินช่วยเหลือ ไม่เกิน 10,000 บาท ซึ่งไม่เพียงพอต่อการขาดทุนของชาวนา  ซึ่งเดิมรัฐบาลสมัยพรรค พปชร. เป็นแกนนำ  ได้ให้เงินช่วยเหลือเกษตรกรชาวนาไร่ละ 1,000 บาท  ไม่เกินรายละ 20 ไร่ เกษตรกรหนึ่งรายได้เงินช่วยเหลือ ไม่เกิน 20,000 บาท ซึ่งเพียงพอที่จะบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้นของชาวนาได้ในระดับหนึ่ง
           นอกจากการช่วยเหลือทางด้านการชดเชยทางการเงินแล้ว  รัฐบาลจะต้องมีแผนระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว ในการแก้ไขปัญหาราคาข้าวตกต่ำ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาพันธุ์ข้าว ให้มีผลผลิตต่อไร่สูงขึ้น  พัฒนารูปแบบและวิธีการปลูกให้เห็นได้ผลผลิตสูงขึ้น  การใช้เทคโนโลยีเทคโนโลยีสมัยใหม่เพื่อลดต้นทุนและทดแทนการใช้แรงงาน   ส่งเสริมให้มีการปลูกข้าวคุณภาพดีและมีราคาสูงและเป็นที่นิยมของตลาดโลก  กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงการต่างประเทศต้องให้การสนับสนุนและเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก  การจับกลุ่มหรือจับคู่ค้า เพื่อแลกเปลี่ยนสินค้าเข้ากับสินค้าที่นำเข้าเพื่อสร้างราคาหรือลดการขาดดุล  เป็นต้น
        ทางพรรคพลังประชารัฐ เคยเสนอ รัฐบาลสมัยที่แล้ว โครงการปุ๋ยคนละครึ่ง  เพื่อเป็นการเสริมและลดต้นทุนให้แก่เกษตรกรชาวนาชาวสวน  โดยจะสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการซื้อปุ๋ยของเกษตรกรครึ่งหนึ่งตามราคาจริงและ ส่งเสริมการผลิตปุ๋ยในประเทศเพื่อให้เกิดอุตสาหกรรมต่อเนื่อง แต่รัฐบาลกลับเพิกเฉยไม่สนใจในความเดือดร้อนของชาวนาชาวไร่
        ทางรัฐบาลคงจะอยู่ในห้องแอร์ ไม่เคยลงไปในนา ในสวน เลยไม่เข้าใจว่าเกษตรกรที่ปลูกปลูกข้าวและปลูกกล้วยเป็นคนละกลุ่มกัน  พื้นที่และลักษณะการปลูกเป็นคนละแบบ  อุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้ในการปลูก ก็คนละแบบกัน  การเปลี่ยนข้าวให้เป็นสวนกล้วย ต้องปรับสภาพดิน  ขุดร่องน้ำ ทำคันเนินดิน  การหาหน่อกลัวยและพันธุ์กลัวยที่ตลาดโลกต้องการไม่ใช่เรื่องง่าย  ค่าใช้จ่ายในการปรับแปลงนาให้เป็นส่วนกล้วยมีราคาหลายหมื่นบาท  และกว่าจะปลูกกล้วยได้ผลผลิตใช้เวลาไม่ต่ำกว่าหนึ่งปี ตลาดตลาดข้าวที่เคยขายอยู่ก็คนละตลาด  ปัญหาเชิงซ้อนมากมาย  และที่สำคัญในระหว่างที่ผลผลิตกล้วยยังไม่ออก  ชาวนาจะเอาอะไรกิน  
        พล.ต.ท.ปิยะฯ กล่าวว่า การที่รัฐบาลคงแข็งค่าเงินบาทให้ในระดับที่สูงเกินความจำเป็นมีผลกระทบต่อรายได้ชาวนา ชาวไร่ และเกษตรกรตลอดจนผู้ส่งออกก็จะทำให้รายได้ที่ออกมาเป็นสกุลเงินตราต่างประเทศมีมูลค่าลดลงเมื่อแลกเปลี่ยนเงินในประเทศ  ซึ่งจากมีหลายคนในรัฐบาล ยังไม่มีความเข้าใจเรื่องเงินบาทแข็งค่าและ ผลกระทบอย่างเพียงพอ
           ทางพรรคพลังประชารัฐ เคยแก้ไขปัญหานี้ได้ผลมาแล้ว  ถ้ารัฐบาล ไม่มีแนวทางแก้ปัญหาราคาข้าวตกต่ำ พรรค พปชร.ยินดีให้ลอกแบบตามที่พรรค พปชร. เคยทำมาสำเร็จ
          การคำแนะนำเช่นนั้นแสดงถึงการไม่มีความรู้ความสามารถในการแก้ไขปัญหาราคาข้าวอย่างแท้จริง  ก็ควร
เปิดทางให้พรรคการเมืองอื่นเป็นแกนนำในการบริหารประเทศจะดีกว่าไหม  ระวังเดินไปที่ไหนจะโดนชาวไร่  ชาวนาเขาแจก“กล้วย”เอา

ความคิดเห็น

ข่าวฮอตชัดทุกกระแส

วิเคราะห์ เจาะลึก วัตถุมงคลหลวงพ่อพัฒน์ วัดห้วยด้วน

ทนายอนันต์ชัย โพสต์ FB ระบุ

ฟุตบอลสูงอายุชิงถ้วย ร.10 68 ทีมร่วมฟาดแข้ง

“ธรรมาภิบาล”เร่งหารือ กกต.ให้จัดการเลือกตั้งใหม่

ชมรมทหารพราน ค่ายปักธงชัย แจกข้าวสาร อาหารแห้ง ณ​ ชุมชนชาวคลองลัดภาชี

ราชกรีฑาสโมสรจัดศึกกีฬาม้าแข่งไร้พนันชิงชัยแบบนิวนอร์มัล

ไทย ต้านไม่ไหว พ่ายญี่ปุ่น 0-7