ติดตามภัยธรรมชาติ
เจ้าหน้าที่เกษตรอำเภอเบตงลงพื้นที่สำรวจติดตามภัยธรรมชาติ ตำบลยะรม และตำบลตาเนาะแมเราะ พร้อมแนะเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตร
วันที่ 18 พฤศจิกายน 2567 นางสาวอาภรณ์ รัตนพิบูลย์ เกษตรอำเภอเบตง มอบหมายให้นางสาวพรพรรณ มณีโชติ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ และนางสาววารุณี แซ่ลก นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ ลงพื้นสำรวจติดตามภัยธรรมชาติ แปลงของเกษตรกร ที่ได้รับความเสียหายด้านพืช จากอุทกภัยและดินสไลด์ ณ หมู่ที่ 3 ตำบลยะรม จำนวน 1 ราย พบต้นมังคุดและพื้นที่ทางการเกษตรบางส่วนได้รับความเสียหายจากดินสไลด์ และหมู่ที่ 2 ตำบลตาเนาะแมเราะ จำนวน 2 ราย พบต้นยางพารา ต้นทุเรียน และพื้นที่ทางการเกษตรบางส่วนได้รับความเสียหายจากดินสไลด์ แนวทางการเตรียมความพร้อมรับมือ
นางสาวอาภรณ์ รัตนพิบูลย์ เกษตรอำเภอเบตง กล่าวว่า เกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย โดยเฉพาะสวนไม้ผลซึ่งเป็นพืชที่ปลูกครั้งเดียวอยู่ได้นานหลายปี เกษตรกรจำเป็นต้องเตรียมความพร้อมรับมือกับปัญหาภัยธรรมชาติที่อาจเกิดขึ้นได้ทั้งภัยแล้ง ลมพายุ และน้ำท่วมไว้ล่วงหน้า ในการดูแลพื้นที่เกษตร ในกรณีที่ต้นไม้ได้รับผลกระทบจากพายุ สามารถที่จะฟื้นฟูได้โดยทำการตัดแต่งกิ่งที่ฉีกหัก หรือต้นไม้ที่โค่นล้มออกทันทีที่พื้นดินในบริเวณสวนแห้ง ขณะที่ดินยังเปียกชื้นอยู่ เกษตรกรไม่ควรนำเครื่องจักรกลเข้าไปในสวน เพราะจะทำให้โครงสร้างดินถูกทำลายและอัดแน่นได้ง่าย กรณีที่มีดินโคลนทับถมเข้ามาในสวน เมื่อดินแห้งให้ขุดหรือปาดเอาดินโคลนที่ทับถมออกจากบริเวณทรงพุ่มให้ลึกถึงระดับดินเดิม เพื่อให้การถ่ายเทอากาศดีขึ้น หากต้นไม้เอนลง ให้ใช้เชือกหรือลวดดึงลำต้นให้ตั้งตรง โดยยึดไว้กับหลักหรือไม้ผลต้นอื่น พร้อมตัดแต่งกิ่งออก 1 ใน 3 ของที่มีอยู่ ซึ่งจะช่วยให้ต้นไม้ผลฟื้นตัวเร็วขึ้น และเกษตรกรควรฉีดพ่นปุ๋ยทางใบให้แก่ไม้ผล และเมื่อดินแห้งเป็นปกติ ควรพรวนดินเพื่อเพิ่มออกซิเจนให้แก่รากพืช ซึ่งจะทำให้รากแตกใหม่ได้ดีขึ้น และควรใส่ปุ๋ยบำรุงต้นด้วย
ทั้งนี้ กรณีพื้นที่เกษตรได้รับความเสียหายสิ้นเชิง เกษตรกรจะได้รับความช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน และหลักเกณฑ์วิธีปฏิบัติปลีกย่อยเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือด้านการเกษตรผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน คือ เป็นเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตรก่อนเกิดภัย โดยจะได้รับความช่วยเหลือครัวเรือนละไม่เกิน 30 ไร่ แบ่งเป็น ข้าว ไร่ละ 1,340 บาท พืชไร่และพืชผัก ไร่ละ 1,980 บาท ไม้ผลไม้ยืนต้นและอื่น ๆ ไร่ละ 4,048 บาท
โยธิน ประชามติรัฐ/ข่าว
อับดุลมานะ ดอฆอ/ภาพ
อ.เบตง จ.ยะลา รายงาน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น