กรมสรรพสามิตภาค 7
“กรมสรรพสามิตภาค 7 รุดเข้าขอโทษ มอบกระเช้า คณะกรรมการหมู่บ้านพฤกษาวิวล์ 44 ”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.00.น. วันที่ 12/11/67 ที่สำนักงานนิติหมู่บ้านพฤกษาวิลล์ 44 ทางด้าน
นายวิศิษฐ วชิรวิรุฬห์ ผู้อำนวยการสำนักงานสรรพสามิตภาคที่ 7
พร้อมด้วยนายประสงค์ ศิริมณฑล สรรพสามิตพื้นที่นครปฐม 2 และว่าที่ร้อยตรี ประจวบ ประยูรพรหม ผู้อำนวยการส่วนกฎหมาย สำนักงานสรรพสามิตภาคที่ 7 และนายณัฐศักดิ์ แก้วสุนทร นิติกรชำนาญการ
พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สรรพสามิตที่เป็นข่าว โดยมี จ.อ.ธนากร พัฒนเดช นักวิชาการ สรรพสามิตปฏิบัติการ, นายกฤษดา เผ่าพงษ์ เจ้าพนักงานสรรพสามิต, นายสราวุธ ธรรมศร พนักงานขับรถยนต์ และ นายอุดร ประนันทัง พนักงานขับรถยนต์ เข้ามาตรวจบุหรี่ภายในหมู่บ้านพฤกษาวิลล์ 44 ต.บางเตย อ.สามพราน จ.นครปฐม ได้เดินทางเข้ามาชี้แจงพร้อมแจ้งรายละเอียดและขอโทษต่อคณะกรรมการนิติบุคคลของหมู่บ้าน ในกรณีเข้าไปภายในหมู่บ้าน จังหวัดนครปฐม (เขตพื้นที่สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่นครปฐม 2)พร้อมด้วยนายสราวุฒิ คล้ายสาย ประธานหมู่บ้าน และนายฉัตรชัย เทศนิยม ที่ปรึกษาหมู่บ้าน
1. ประเด็นการเข้าหมู่บ้านโดยไม่ได้รับอนุญาตนั้น ขอเรียนว่า เจ้าหน้าที่สรรพสามิตได้เข้าตรวจตามแผนป้องกันและปราบปรามสินค้าหนีภาษี ซึ่งเป็นการเข้าตรวจร้านค้าที่ได้รับอนุญาตและร้านค้าต่างๆ เพื่อไม่ให้มีการขายสินค้าผิดกฎหมาย ซึ่งในวันดังกล่าวขณะถึงทางเข้าหมู่บ้าน พบว่ามีรถขับเข้าไปและไม้กั้นไม่ได้ มีการปิดไว้ จึงได้ขับรถผ่านเข้าหมู่บ้านตามปกติ พร้อมกับได้เข้าตรวจสอบร้านขายสินค้าของชำจำนวน 3 ร้าน พบว่าร้านแรกที่เข้าตรวจนั้น ไม่พบว่ามีสิ่งผิดกฎหมาย ในส่วนของใบอนุญาตการจำหน่ายสุราและยาสูบ พบว่าหมดอายุแล้ว แต่จากการตรวจสอบข้อมูลได้ความว่าทางร้านได้ดำเนินการยื่นขอใบอนุญาตแล้ว แต่ในวันยื่นคำขอใบอนุญาตเกิดเหตุขัดข้องของอุปกรณ์การพิมพ์ ทางสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่นครปฐม 2 จึงไม่สามารถพิมพ์ใบอนุญาตให้ในวันดังกล่าวได้ แต่ได้ดำเนินการพิมพ์และจัดส่งให้ทางไปรษณีย์ตอบรับแล้ว ปรากฎว่าไปรษณีย์ตีกลับไปยังสำนักงาน เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อมูลให้ทางร้านค้าทราบ ซึ่งในภายหลังทางร้านค้าได้ติดต่อขอรับใบอนุญาตดังกล่าว ณ สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่นครปฐม 2 ในส่วนของการตรวจร้านค้าร้านที่สอง พบว่ามีตู้แช่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไว้สำหรับจำหน่าย แต่ไม่พบ เจ้าของร้านหรือผู้ดูแลร้านแต่อย่างใด จากการสอบถามผู้อยู่อาศัยภายในหมู่บ้าน จึงทราบว่าขณะนั้นเจ้าของร้านไม่อยู่ที่ร้าน จึงมิได้ดำเนินการตรวจสอบต่อ ซึ่งจากการตรวจสอบในภายหลังพบว่าในวันที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจ ใบอนุญาตขายสุราของร้านค้าดังกล่าวหมดอายุแล้ว และได้มาขอใบอนุญาตฉบับใหม่ในภายหลัง (วันที่ 8 พฤศจิกายน 2567) และการตรวจร้านค้าร้านที่สาม จากการสอบถามเจ้าของร้าน พบว่าร้านค้าดังกล่าวมิได้จำหน่ายสุราและยาสูบแต่อย่างใด โดยในประเด็นการเข้าไปในหมู่บ้าน โดยไม่ได้ขออนุญาต เจ้าหน้าที่ได้มีการทำความเข้าใจกับนิติบุคคล และได้กล่าวขอโทษในเหตุซึ่งเกิดจากความเข้าใจผิดของเจ้าหน้าที่แล้ว
2. สำหรับประเด็นการเข้าตรวจค้นร้านค้า ขอเรียนว่า เนื่องจากบริเวณชั้นล่างของบ้านได้มีการเปิดเป็นร้านขายของชำ เจ้าหน้าที่สรรพสามิตจึงมีอำนาจในการตรวจค้นสิ่งผิดกฎหมายในบริเวณร้านค้าได้ ในเวลาทำการปกติ ตามมาตรา 123 แห่งพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 เพื่อเป็นการตรวจสอบสินค้าที่ไม่ได้คุณภาพตามมาตรฐานความปลอดภัย ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพของประชาชน โดยไม่ต้องมีหมายค้น ทั้งนี้ ประเด็นที่ทำให้เจ้าของร้านและผู้อยู่ในบ้านตกใจ ทางสรรพสามิตพื้นที่ได้ทำการตักเตือนเจ้าหน้าที่สรรพสามิต มิให้ปฏิบัติเช่นนี้อีก และเจ้าหน้าที่สรรพสามิตได้ขอโทษทางเจ้าของร้าน โดยทางเจ้าของร้านไม่ได้ติดใจในเรื่อง ที่เกิดขึ้นแล้ว
*มาตรา 123 ในการปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจ ดังต่อไปนี้
(1) เข้าไปในโรงอุตสาหกรรมหรือคลังสินค้าทัณฑ์บน สถานประกอบการ หรือสถานบริการในระหว่างเวลาทำการ เพื่อตรวจสอบหรือควบคุมให้การเป็นไปตามพระระราชบัญญัตินี้
(2) ค้นสถานที่หรือยานพาหนะใดๆ ที่มีเหตุอันควรสงสัยว่ามีการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ หรือมีสินค้าที่หลีกเลี่ยงการเสียภาษีซุกซ่อนอยู่ ในเวลาระหว่างพระอาทิตย์ขึ้นถึงพระอาทิตย์ตก เว้นแต่การค้น ในเวลาดังกล่าวยังไม่แล้วเสร็จจะกระทำต่อไปก็ได้ หรือในกรณีฉุกเฉินอย่างยิ่ง เมื่อได้รับอนุมัติจากอธิบดีแล้วจะค้นในเวลาใดก็ได้
(3) มีหนังสือสอบถามหรือเรียกบุคคลใดมาให้ถ้อยคำหรือให้ส่งบัญชี เอกสาร หลักฐาน หรือสิ่งอื่นที่จำเป็นมาประกอบการพิจารณาได้ ทั้งนี้ ต้องให้เวลาบุคคลนั้นไม่น้อยกว่าเจ็ดวันนับแต่วันที่ได้รับคำสั่งนั้น
(4) นำสินค้าในโรงอุตสาหกรรม คลังสินค้าทัณฑ์บน หรือสถานประกอบการในปริมาณพอสมควรไปเป็นตัวอย่างเพื่อตรวจสอบ
3. ทั้งนี้ ขอยืนยันว่า กรมสรรพสามิตได้มีการกำหนดขั้นตอนการปฏิบัติในการเข้าตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ซึ่งต้องมีการแต่งชุดเครื่องแบบและแสดงบัตรประจำตัวก่อนเข้าตรวจค้นทุกครั้ง รวมถึงปฏิบัติตามระเบียบและหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด อย่างไรก็ดี หากประชาชนท่านใดทราบเบาะแสหรือพบเห็นการกระทำความผิดของเจ้าหน้าที่สรรพสามิต หรือ สินค้าที่ต้องเสียภาษีสรรพสามิต สามารถแจ้งโดยตรงได้ที่กรมสรรพสามิต หรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ทุกแห่งทั่วประเทศ หรือสายด่วน 1713 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือ อีเมลล์ excise_hotline@excise.go.th