เปิดฉาก!! สังเวียน

เปิดฉาก!! สังเวียน "ศึกแชมป์มวยไทยรากหญ้าเยือนถิ่นรายอ" ในพื้นที่ จชต. กระตุ้นเศรษฐกิจ-ปลุกกระแสมวยไทย ดันศิลปะการต่อสู้ สู่ Soft Power ของโลก

วันที่ 17 สิงหาคม 2567 เวลา 20.30 น. ณ สนามมวยชั่วคราว อาคารพระเศวตสุรคชาธาร (สนามช้างเผือก) เทศบาลนครยะลา อำเภอเมือง จังหวัดยะลา นายซูการ์โน มะทา เลขาธิการพรรคประชาชาติ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดยะลา เขต 2  เป็นประธานในพิธีเปิด "ศึกแชมป์มวยไทยรากหญ้าเยือนถิ่นรายอ" สานสัมพันธ์เพื่อสร้างสุขและกระตุ้นเศรษฐกิจชายแดนใต้ จัดชึ้นระหว่างวันที่  16-17 สิงหาคม 2567 ภายในงาน ยังมี นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานกิตติมศักดิ์ในกิจกรรมครั้งนี้ด้วย นอกจากนี้ยังมี พันตำรวจโท วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) นายอำนาจ ชูทอง  รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา นายธนาวิทย์ ไชยานุพงษ์ นายกสมาคมกีฬามวยไทย มรดกไทย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดยะลา  ทีมผู้จัดงาน แฟนมวย ประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมกิจกรรมอย่างคึกคัก

นายซูการ์โน มะทา กล่าวว่า การจัดการแข่งขันมวยไทยในจังหวัดยะลาภายใต้ชื่อ “ศึกแชมป์มวยไทยราก

หญ้าเยือนถิ่นยาลอ" สานสัมพันธ์

เพื่อสร้างสุขและกระตุ้นเศรษฐกิจชายแดนใต้ ในครั้งนี้ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะนำความสุขและสามารถช่วยจุดประกายให้กับเยาวชนท้องถิ่นมีความรักและมุ่งมั่นในการออกกำลังกาย ได้เล่นกีฬาต่อไป นอกจากทำให้เยาวชนในพื้นที่หวัดชายแดนภาคใต้ ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และ 4 อำเภอ

ของสงขลา มีโอกาสได้แข่งขันมวยไทยแล้ว ยังทำให้พี่น้องประชาชนได้มีโอกาสชมกีฬามวยและยังช่วยประชาสัมพันธ์จังหวัดยะลา

ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างขึ้นอีกด้วย

สำหรับกิจกรรมในครั้งนี้เป็นการตอบสนองนโยบายของรัฐบาลที่ได้ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมศักยภาพ ด้านการกีฬาของประเทศโดยเฉพาะอย่างยิ่งกีฬามวยไทย ซึ่งถือเป็นกีฬาประจำชาติและเป็นกีฬาชนิดเดียวในโลกที่มีชื่อของประเทศอยู่ในชื่อกีฬา  รัฐบาลจึงได้มีนโยบายที่จะส่งเสริมกีฬามวยไทยโดยใช้กีฬามวยไทยเป็นเครื่องมือในการเผยแพร่วัฒนธรรมและกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ โดยมีแนวทางที่สำคัญ คือส่งเสริมให้มีการจัดการแข่งขันกีฬามวยไทยอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี กระจายไปตามจังหวัดต่างๆให้ครอบคลุมทั่วทั้งประเทศและเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศเกิดการจ้างงานและสร้างรายได้ให้กับบุคคลในวงการมวย ไม่ว่าจะเป็นนักมวย ครูมวยผู้ตัดสิน ค่ายมวย และผู้จัดการแข่งขันกีฬามวยได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น การแข่งขันครั้งนี้จะช่วยยกระดับมวยไทยให้เกิดเป็นวิถี “วัฒนธรรมและค่านิยม” ของคนในชาติ เพื่อสนองนโยบายรัฐบาลที่ต้องการดันให้มวยไทยไปไกลระดับโลก โดยปลุกกระแสมวยไทยจากศิลปะการต่อสู้ของคนไทยให้กลายเป็นซอฟต์พาวเวอร์ของโลกต่อไป

ทั้งนี้วันที่ 16 สิงหาคมที่ผ่านมา เป็นการชิงแชมป์มวย 14 คู่ จาก 30 ค่ายมวย ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส และ 4 อำเภอของสงขลา  และวันที่ 17 สิงหาคม เป็นมวยไทยรากหญ้า จากค่ายมวยเกียรติเพชร ทั้งหมด 10 คู่ ที่เคยผ่านเวทีชิงแชมป์มวยภาคใต้ และเวทีมวย 7 สี

โยธิน ประชามติรัฐ/ข่าว

อับดุลมานะ ดอฆอ/ภาพ

อ.เบตง จ.ยะลา รายงาน