บาร์เรียอัลท์ ผมเปลี่ยนไปแล้ว

บาร์เรียอัลท์ ลั่นผมเปลี่ยนไปแล้ว ก่อนดวล ไพเฟอร์ ศึก UFC 303 อาทิตย์นี้

มาร์ค-อันเดร บาร์เรียอัลท์ นักสู้แคนาดาแสดงความเชื่อมั่นจะสามารถสร้างความประหลาดไป พร้อมกับเล่นงานคว้าชัยชนะเหนือคู่แข่งรายต่อไปอย่าง โจ ไพเฟอร์ ก่อนจะขึ้นตะบันหน้ากันในศึก UFC 303 : PEREIRA VS PROCHÁZKA 2 ณ สังเวียน T-Mobile Arena ,ลาส เวกัส ,สหรัฐอเมริกา วันอาทิตย์ที่ 30 มิถุนายนนี้

นักสู้แคนาดาวัย 34 ปีเจ้าของสถิติชนะ 16 แพ้ 7 กล่าวถึงจุดเริ่มของตัวเองผ่านทาง UFCThailand หลังจากที่เคยผ่านประสบการณ์การเล่นอเมริกันฟุตบอลมาก่อน โดยเปิดเผยว่า “ผมมาจากแคนาดา ผมเล่นอเมริกันฟุตบอลมาก่อน ผมก็เหมือนกันชายทั่วๆไปที่ชอบเล่นกีฬาเป็นทีม แต่เมื่อผมโตขึ้น ผมมีความต้องการมากกว่านั้น ณ ตอนนั้นผมอ้วนนิดหน่อย ดังนั้นผมจึงหาทางที่จะทำร่างกายให้แข็งแกร่งและเพิ่มสกิลให้ตัวเองมากขึ้น จนกระทั่งผมได้มาพบกับยิม MMA และนับตั้งแต่นั้นมา ผมก็ไปที่นั่นและฝึกซ้อมแบบเอาเป็นเอาตายเป็นเวลา 6 เดือน”

“หลังจากนั้นผมรู้สึกเป็นตัวของตัวเอง ผมอยากทำอะไรที่มันมากกว่ากีฬา และพัฒนาตัวเองไปตามจังหวะ ซึ่งหลังจากนั้นผมก็ได้ขึ้นสู้ครั้งแรกในระดับสมัครเล่น และใช่แล้วอีก 10 ปีต่อมา ผมได้เข้าร่วมกับ UFC ผมมีทั้งช่วงเวลาที่ดีและยากลำบาก และทุกคนรู้ดีว่านั่นคืออาชีพของ ตอนนี้ผมเหมือนกับนักรบ ผมกำลังถูกทดสอบ การต่อสู้จะเป็นบททดสอบสำหรับเส้นทางของผม และผมรู้สึกเหมือนว่า ยิ่งผมมีความยากลำบากมากเท่าไร ผมก็จะยิ่งดีขึ้นมากเท่านั้น”

มาร์ค-อันเดร บาร์เรียอัลท์ เปิดตัวใน UFC ครั้งแรกในปี 2019 และแพ้คะแนนรวดทั้ง 3 ครั้ง โดยนักสู้เจ้าของฉายา “PowerBar” กล่าวถึงการผ่านช่วงเวลาอันยากลำบากของตัวเองในอดีตว่า 

“ผมเปิดตัวใน UFC ครั้งแรกด้วยวัย 34 ปีที่แคนาดาบ้านเกิดของผมด้วยความพ่ายแพ้ แถม 3 ไฟต์แรกของผม ผมแพ้หมดเลยด้วย ตอนนั้นหลังผมอยู่ในสถานการณ์หลังพิงฝา และผมก็กำลังต่อสู้เพื่อเส้นทางของผม และคุณน่าจะรู้ว่าตอนนี้หลายๆอย่างของผมเปลี่ยนไปแล้ว”

“ผมยังเป็นตัวของตัวเองและต่อสู้เพื่อสิ่งที่หวังไว้ ผมรู้ว่าผมสามารถทำงานให้เสร็จและก้าวไปข้างหน้าได้หลังจากนี้ ผมแค่เป็นตัวของตัวเอง ดังนั้น UFC รู้อยู่แล้วว่าผมทำอะไรได้บ้าง ก่อนหน้านี้ตั้งแต่ช่วงโควิด ผมได้สู้ใน เมน การ์ด 3 ไฟต์ติดต่อกัน ที่สังเวียน Apex ตอนนั้นมันไม่มีคนดู ผมจึงเหมือนนักแสดงมากกว่านักสู้ด้วยซ้ำ”

นอกจากนี้ มาร์ค ยังกล่าวถึงคู่แข่งรายต่อไปอย่าง โจ ไพเฟอร์ นักสู้อเมริกัน เจ้าของสถิติชนะ 12 แพ้ 3 ก่อนที่จะดวลกันในวันอาทิตย์นี้ว่า  

“การต่อสู้หนล่าสุดของผม ครั้งสุดท้ายของฉันในเดือนมกราคม ผมดวลกับนักสู้มีแรงกิ่ง 15 อันดับแรก และผมก็แพ้แบบไม่เป็นเอกฉันท์ แต่ผมก็ได้ประสบการณ์ที่ดีมากสำหรับไฟต์นี้ และนั่นคือเหตุผลว่าทำไมตอนนี้ผมถึงพร้อมมากๆ และแทบรอการขึ้นสังเวียนไม่ไหวแล้ว”

“โจ คือคู่แข่งที่ยอดเยี่ยมและอันตราย  เขาคือนักสู้ที่แข็งแกร่ง เขาทำหน้าที่ได้ดีมากกับไฟต์ของเขาที่ได้รับชัยชนะในศึก UFC ผมคิดว่ามันถึงเวลาที่เหมาะสมสำหรับผมและ โจ เพื่อพิสูจน์ว่าใครดีกว่ากัน ผมเชื่อว่าเขาจะต้องพบกับความยาก แต่เขาก็เป็นเพื่อนที่ดีเสมอ”

สุดท้ายนักสู้จากแคนาดา ก็ไม่ลืมที่ฝากข้อความไปยังแฟนๆชาวไทย รวมทั้งเล่าประสบการณ์เมื่อครั้งเดินทางมาฝึกซ้อมมวยไทยถึงดินแดนต้นตำรับว่า 

“ประเทศไทย คือหนึ่งในสถานที่ที่ผมไปสัมผัสมาแล้วด้วยตัวเองเมื่อปี 2011 ผมไปฝึกซ้อมที่ ไทเกอร์ มวยไทย ณ จังหวัดภูเก็ต เป็นเวลา 1 เดือน นั่นเป็นประสบการณ์ที่ดีมาก ผมไปเพื่อไปพบกับ เดฟ ที่เขาเป็นคนบ้านเดียวกับผม เขาเคยเป็นแชมป์มวยไทยที่นั่นด้วย เขาเป็นหนึ่งในคู่ซ้อมที่ดีของผม เขาย้ายกลับมาอยู่เมืองไทยเมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว และตอนี้ผมก็แทบรอไม่ไหวแล้ว ที่จะกลับไปที่ประเทศไทยอีกครั้ง”

“สำหรับแฟนๆชาวไทยและแฟนๆ UFC Thailand ขอบคุณสำหรับการติดตาม และขอให้ผมต่อไป ติดตามการเดินทางของผม ผมคิดว่าผมสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนมากมาย เพียงแค่คุณเป็นตัวของตัวเอง และต้องไล่ล่าความฝันอย่าหยุดยั้ง ผมก็สัมผัสได้ถึงการสนับสนุนทั้งหมดจากทุกที่ ขอบคุณทุกคน ขอบคุณแฟนๆ ชาวไทยครับ”

สำหรับศึก UFC 303 : PEREIRA VS PROCHÁZKA 2 จะระเบิดศึกกัน ณ สังเวียน T-Mobile Arena ,ลาส เวกัส ,สหรัฐอเมริกา วันอาทิตย์ที่ 30 มิถุนายนนี้ คู่หลักของรายการเริ่มเวลา 09.00 น. ตามเวลาประเทศไทย 

แฟนหมัดมวยชาวไทยติดตามชมได้ทางช่อง TRUE SPORTS HD3 (668) และแอปพลิเคชั่น UFC Fight Pass รายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://www.ufc.com/event/ufc-303


ความคิดเห็น

ข่าวฮอตชัดทุกกระแส

วิเคราะห์ เจาะลึก วัตถุมงคลหลวงพ่อพัฒน์ วัดห้วยด้วน

ทนายอนันต์ชัย โพสต์ FB ระบุ

“ธรรมาภิบาล”เร่งหารือ กกต.ให้จัดการเลือกตั้งใหม่

ฟุตบอลสูงอายุชิงถ้วย ร.10 68 ทีมร่วมฟาดแข้ง

ชมรมทหารพราน ค่ายปักธงชัย แจกข้าวสาร อาหารแห้ง ณ​ ชุมชนชาวคลองลัดภาชี

ราชกรีฑาสโมสรจัดศึกกีฬาม้าแข่งไร้พนันชิงชัยแบบนิวนอร์มัล

ไทย ต้านไม่ไหว พ่ายญี่ปุ่น 0-7