ศรชล.สุราษฎร์ฯร่วมจำลอง
ศรชล.สุราษฎร์ธานี ร่วมจำลองการฝึกซ้อม แผนรักษาความปลอดภัยประจำท่าเรือระหว่างประเทศ "ISPS CODE "ท่าเทียบเรือบริษัท พี.เค, มารีน เทรดดิ้ง จำกัด
วันที่ 08 มีนาคม 2567
ที่ท่าเทียบเรือของบริษัท พี.เค.มารีน เทรดดิ้ง จำกัด (ท่าเรือ พี.เค.) ต.บางกุ้ง อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี น.อ.ณัฐพล สินพูลผล รอง ศรชล.จว.สุราษฎร์ธานี นายประกิต ประสิทธิ์ศุภผล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เพซรศรีวิชัย เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด น.ส.กัญกร ประสิทธิ์ศุภผล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการบริหาร บริษัท เพชรศรีวิชัยเอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด พร้อมเจ้าหน้าที่ ศรชล.สุราษฎร์ธานี ,หน่วยปฏิบัติการพิเศษก ,กองบังคับการตำรวจน้ำ , หน่วยปฏิบัติการพิเศษกองกำกับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี,ตำรวจภูธรเมืองสุราษฎร์ธานี,ทีม EOD, สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสุราษฎร์ธานี, ศูนย์ควบคุมความมั่นคงทำเรือ (PSCC), กองสืบสวนและปราบปรามกรมศุลกากร, ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสุราษฎร์ธานี,เจ้าหน้าที่กู้ภัย ร่วมจำลองการเหตุการณ์ ฝึกซ้อม แผนรักษาความปลอดภัยประจำท่าเรือระหว่างประเทศ "ISPS CODE "
โดยการฝึกซ้อมในครั้งนี้ ถือเป็นการปฏิบัติตามประมวลข้อบังคับว่ด้วยการรักษาความปลอดภัยของเรือ และท่าเรือระหว่างประเทศ หรือ INTERNATIONAL SHIP AND PORT FACILITY SECURITY CODE ภายใต้อนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยความปลอดภัยแห่งชีวิตในทะเล ตามสนธิสัญญาด้านความปลอดภัยทางทะเลสากลจากองค์การทางทะเลระหว่างประเทศ หรือ IMO (International Maritime Organization) กำหนดให้ท่าเทียบเรือระหว่างประเทศที่ให้บริการแก่
เรือบรรทุกสินค้าที่มีขนาดเกินกว่า 500 ตันกรอสขึ้นไป ต้องทำการฝึกซ้อมร่วมกับหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องทุก 18 เดือน เพื่อรักษามาตรฐานตามแผนการรักษาความปลอดภัยที่ท่เทียบเรือได้จัดทำไว้ และผ่านการพิจารณาเห็นชอบจากกรมเจ้าท่า ให้ใช้แผนรักษาความปลอดภัยดังกล่าว ในการดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับท่าเทียบเรือ เรือบรรทุกสินค้าที่เข้าเทียบท่าตลอดจน ชีวิต และทรัพย์สินของลูกค้าผู้ใช้บริการ รวมถึงบุคลากรของบริษัท ซึ่งทางบริษัทให้ความสำคัญต่อการปฏิบัติตามระเบียบ ข้อบังคับ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ในการรักษาความปลอดภัยของท่าเทียบเรือ ยกระดับสู่มาตรฐานสากล อันจะเป็นประโยชน์แก่ลูกค้าผู้ใช้บริการ บุคลากรของบริษัท และชุมชนโดยรอบ นำมาซึ่งความเชื่อมั่นในการป้องกัน และระงับเหตุร้ายที่อาจจะเกิดขึ้น ผ่านการบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยการฝึกซ้อมในครั้งนี้ จะเป็นประโยชน์ และสร้างความรู้ความเข้าใจ ให้แก่ผู้เข้าร่วมการฝึกซ้อมทุกท่าน สอดคล้องต่อแผนการรักษาความปลอดภัยของท่เรือระหว่างประเทศตามมาตรฐานสากลต่อไป
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น