“เจ้าเฟี้ยว” คว้าโควตา อลป.
“เจ้าเฟี้ยว” คว้าโควตาโอลิมปิกเกมส์สมัยที่ 2
“เจ้าเฟี้ยว” จุฑามาศ จิตรพงศ์ ปิดจ๊อบสวยให้กับทีมมวยเสื้อกล้ามไทย ด้วยการคว้าโควตาโอลิมปิกเกมส์สมัยที่ 2 ได้สำเร็จ และเป็นคนที่ 5 ของทีมกำปั้นไทยที่ได้ไปก่อนหน้่านี้ เจ้าตัวเปิดใจฝันแรกเป็นจริงแล้ว ขอขอบคุณสต๊าฟโค้ชและสมาคมมวยที่ทำให้ฝันเป็นจริง หลังจากนี้ก่อนถึงโอลิมปิกเกมส์อยากมีแมตช์ไปชกต่างประเทศบ่อยๆ เพื่อสร้างประสบการณ์ความแข็งแกร่ง ด้าน “เจ้าศรี” พ.ต.ท.วิจารณ์ พลฤทธิ์ หัวหน้าสต๊าฟโค้ช วางเป้าต้องพาน้องๆ ไปคว้าเหรียญโอลิมปิกเกมส์ให้ได้เหมือนที่ตนเคยได้มาแล้วเมื่อปี 2000 ที่ซิดนีย์ เหลือเลกสุดท้ายที่ไทยตนยังหวังจะคว้าให้ได้อีก 1 รุ่นหรืออาจให้ครบทั้ง 6 รุ่นไปเลย
การแข่งขันมวยสากลโอลิมปิกเกมส์ 2024 รอบคัดเลือก เลกแรก "World Qualifying Olympic Tournament 2024" ที่บุสโต อาซิซิโอ ประเทศอิตาลี เมื่อช่วงดึกวันที่ 11 มี.ค.เป็นการชกรอบชิงตั๋วโอลิมปิกเกมส์ หากใครชนะจะได้สิทธิ์ไปทันที โดยเหลือนักชกไทยขึ้นสังเวียนเพียงคนเดียวในรุ่น 54 กก. หญิง “เจ้าเฟี้ยว” จุฑามาศ จิตรพงศ์ พบ เชรา แม พาทริซิโอ จากสหรัฐฯ เริ่มยกแรกเจ้าเฟี้ยวที่ได้เปรียบรูปร่างช่วงชกไม่เข้าปะทะอาศัยการดักชกวงนอกได้อย่างจะแจ้ง แต่หมดยกเป็นฝ่านตาม 2-3 ยกสอง เจ้าเฟี้ยว ยังไม่ผลีผลามดักต่อยลำตัวสลับใบหน้าได้จังๆ หลายหมัดหมดยกสอง จุฑามาศ กลับมานำ 5-0 ยกสุดท้าย พาทริซิโอ เดินรุกไล่อย่างหนักพยายามตัดลำตัวแต่ เจ้าเฟี้ยว อาศัยดักจิ้มแล้ววนออกครบยก จุฑามาศ จิตรพงศ์ เป็นฝ่ายชนะ 5-0 คว้าตั๋วไปโอลิมปิกเกมส์ได้เป็นสมัยที่ 2 และเป็นคนที่ 5 ของทีมกำปั้นไทยที่ได้ไปก่อนหน้านี้
เจ้าเฟี้ยว กล่าวว่า ดีใจมากที่ฝันแรกเป็นจริงคว้าตั๋วไปโอลิมปิกเกมส์ได้ด้วยตัวเอง ต้องขอบคุณสต๊าฟโค้ชทุกคนที่ช่วยฝึกปรือจนตนกล้าแกร่ง ยอมรับก่อนชกรู้สึกกดดันพอสมควรเพราะเขาเป็นมวยอาชีพสไตล์เดินเข้าใส่ชวนทะเลาะไม่เลิกกอบกับตนมีอาการบาดเจ็บนิดหน่อยที่เท้า ที่สำคัญเหลือตนเพียงคนเดียวในการล่าตั๋วโอลิมปิก แต่พอยกสองมีความมั่นใจเพิ่มมากขึ้นเพราะเขาต่อยไม่โดนเมื่อไหร่ที่ประชิดตัวเขาจะออกหมัดเป็นชุดไม่หยุดทำให้ตนจับทางได้และไม่เข้าปะทะดักต่อยวงนอกอย่างเดียว ความสำเร็จครั้งนี้ขอมอบให้กับสต๊าฟโค้ชทุกคน รวมถึงสมาคมมวยที่ให้โอกาสตนมาชกในรายการนี้ ระยะเวลาที่เหลือก่อนปารีสเกมส์อยากมีแมตช์ไปชกต่างประเทศบ่อยๆ เพื่อสร้างประสบการณ์ความแข็งแกร่ง
ด้าน “เจ้าศรี” พ.ต.ท.วิจารณ์ พลฤทธิ์ ฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ และหัวหน้าสต๊าฟโค้ชมวยหญิง กล่าวว่า ได้มา 4 แล้วสำหรับโควตานักชกสาวไทยดีใจมากเราเตรียมตัวและต่อสู้กันมานานจากที่ทุกคนยังไม่ค่อยแข็งแกร่งเท่าไหร่จนประสบความสำเร็จ วางเป้าหมายต้องพาน้องๆ ไปคว้าเหรียญโอลิมปิกเกมส์ให้ได้เหมือนที่ตนเคยได้มาแล้วเมื่อปี 2000 ที่ซิดนีย์ ขอบคุณน้องนักมวยทุกคนรวมถึงทีมสต๊าฟทุกคนที่ช่วยกันทำงานจนก้าวไปสู่เป้าหมายแรก เหลือเลกสุดท้ายที่ไทยตนยังหวังจะคว้าให้ได้อีก 1 รุ่นหรืออาจให้ครบทั้ง 6 รุ่นไปเลย
ทั้งนี้ทีมมวยสากลไทย คว้าโควตาไปโอลิมปิก เกมส์ 2024 ได้ 4 คนแล้ว ประกอบด้วย ธิติสรรณ์ ปั้นโหมด (รุ่น51 กก.), จุฑามาศ รักสัตย์ (รุ่น50 กก.หญิง), ธนัญญา สมนึก (รุ่น60 กก.หญิง), จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง (รุ่น66 กก.หญิง)
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น