“ไหว้ครูมวยไทยโลก”
ททท.จัดงาน “ไหว้ครูมวยไทยโลก”
ททท. จัดงาน “ไหว้ครูมวยไทยโลก ครั้งที่ 16” อย่างยิ่งใหญ่ ในวันที่ 16-17 มีนาคม 2567 ที่ วัดมหาธาตุ และวัดหลังคาขาว อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ดึงผู้ชื่นชอบมวยไทยจากทั่วโลกมาไหว้ครูมวยไทยสักครั้งในชีวิต
นายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว ททท. เป็นประธานแถลงข่าวการจัดงานไหว้ครูมวยไทยโลกครั้งที่ 16 ที่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย นางดวงเดือน สดแสงจันทร์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวังพระนครศรีอยุธยา ผู้แทนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ให้เกียรติเข้าร่วมงาน พร้อมด้วย นักแสดงชื่อดัง เดี่ยว - สุริยนต์ อรุณวัฒนกูล เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2567 ที่ห้องโถงธนะรัชต์ ชั้น 1 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย โดยงานนี้ ทาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา กรมศิลปากร สมาคมสถาบันศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวแบบไทย และสหพันธ์มวยไทยโลก ร่วมจัดงาน
ในปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “ครั้งหนึ่งในชีวิตการเรียนมวยไทย ต้องมาร่วมพิธีไหว้ครูที่ประเทศไทย” ระหว่างวันที่ 16-17 มีนาคม 2567 เวลา 16.00-21.00 น. ที่ วัดมหาธาตุ และวัดหลังคาขาว อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา เพื่อนำเสนออัตลักษณ์ไทย ผ่าน Soft Power (ซอฟท์พาวเวอร์) หวังดึงนักท่องเที่ยวคุณภาพ คาดสร้างรายได้ในพื้นที่กว่า 12 ล้านบาท
นายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว ททท. กล่าวว่า การจัดงานไหว้ครูมวยไทยโลกถือเป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างชาติที่มีความสนใจในมวยไทยเป็นอย่างมาก โดยปีนี้ได้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 16 หลังจากงดเว้นการจัดงานในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ผ่านมา เพื่อนำเสนออัตลักษณ์สำคัญของการฝึกมวยไทย ถ่ายทอดเรื่องราวศิลปะการต่อสู้ของไทยอันงดงาม ซึ่งสิ่งแรกที่นักมวยทุกคนต้องฝึกฝนและถือปฏิบัติสืบต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน คือ“การไหว้ครู” อีกทั้งเป็นการสร้างความเข้าใจให้กับชาวต่างชาติที่มีความสนใจต่อการเรียนรู้ศิลปะมวยไทยให้เห็นความสำคัญของพิธีไหว้ครู และตระหนักว่า “ครั้งหนึ่งในชีวิตการเรียนมวยไทย ต้องมาร่วมพิธีไหว้ครูที่ประเทศไทย”
นอกจากนี้ ยังเป็นแนวทางส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยใช้เครื่องมือ Soft Power of Thailand ซอฟท์พาวเวอร์ ออฟ ไทยแลนด์ ตามนโยบายของรัฐบาลอีกด้วย จากการจัดงานครั้งที่ผ่านมาได้รับการตอบรับอย่างดีจากนักมวยไทยทั่วโลก โดยมีนักมวยไทยชาวต่างชาติที่เข้าร่วมงานมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ประเทศบราซิล อัฟกานิสถาน ฝรั่งเศส อินเดีย และจีน โดยการนำกิจกรรมนี้กลับมาจัดอีกครั้ง ททท. เชื่อว่ายังคงจะได้รับการตอบรับจากนักมวยไทยชาวต่างชาติเช่นเดิม
นางดวงเดือน สดแสงจันทร์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวังพระนครศรีอยุธยา ผู้แทนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า “มวยไทย” เป็นหนึ่งใน Soft Power ของประเทศไทย ซึ่งได้รับความนิยมจากชาวต่างชาติเป็นจำนวนมาก จึงนับเป็นโอกาสอันดีของจังหวัดพระนครศรีอยุธยาที่ได้รับเกียรติให้เป็นพื้นที่การจัดงาน “ไหว้ครูมวยไทยโลก ครั้งที่ 16” และเป็นที่ยอมรับกันว่าพระนครศรีอยุธยาเป็นเสมือนหมุดหมายของนักเดินทางทั่วโลกที่ต่างอยากมาเยี่ยมเยือน เนื่องด้วยเป็นเมืองมรดกโลกที่มีประเพณีและศิลปวัฒนธรรมอันโดดเด่นงดงาม มีศักยภาพพร้อมรองรับนักท่องเที่ยว อีกทั้งเป็นหนึ่งในจังหวัดต้นแบบที่มี Soft Power ครบทั้ง 5 ด้าน ไม่ว่าจะเป็น อาหาร (Food), แฟชั่น (Fashion), ภาพยนตร์ (Film), เทศกาล (Festival) และศิลปะการต่อสู้ (Fight) ซึ่งสิ่งเหล่านี้ เป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี
ภายในงานพบกับกิจกรรมที่น่าสนใจ โดยมีไฮไลต์สำคัญ ได้แก่ พิธีไหว้ครูมวยไทยในวันที่ 17 มีนาคม 2567 ซึ่งเป็นการรวมตัวของนักมวยไทยทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติที่จะเข้าพิธีสวมมงคลโดยปรมาจารย์ครูมวยไทยและรำไหว้ครูมวยไทย โดย ผู้นำรำไหว้ครู ได้แก่ พระจันทร์ฉาย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม แชมป์เวทีมวยราชดำเนิน 2 สมัย รุ่น 105 ปอนด์, เมืองไทย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม แชมป์ประเทศไทย ปี 2560 รุ่นไลท์เวท, กวนอู อโยธยาไฟท์ยิม ชนะน็อคนักมวยชาวญี่ปุ่นในศึกเกียรติเพชรดูเปอร์ไฟต์ และ ซุปเปอร์เล็ก เกียรติหมู่ 9 แชมป์สนามมวยเวทีลุมพินี แชมป์รายการวันแชมเปียนชิพ ขึ้นรำไหว้ครูนำนักกีฬามวยไทยพร้อมเที่ยวชมนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับมวยไทย กิจกรรมสาธิตหัตถศิลป์ที่เกี่ยวกับศิลปะการต่อสู้ ของไทย ได้แก่ การสักยันต์ การเขียนยันต์ การตีดาบอรัญญิก กิจกรรมสาธิตการฝึกสอนมวยโบราณ (มวยไชยา มวยโคราช มวยท่าเสา และมวยลพบุรี) สนุกสนานเพลิดเพลินกับการแสดงทางวัฒนธรรมและกิจกรรม การละเล่นพื้นบ้าน แวะช้อป ชิม ชิลล์ อาหารพื้นบ้านอยุธยา ณ ตลาดย้อนยุค รวมถึงการออกร้านของสถาบันสอนมวยไทยที่มีชื่อเสียงและการจำหน่ายสินค้าเกี่ยวกับมวยไทย เป็นต้น
ทั้งนี้ ททท. หวังว่าการจัดงานครั้งนี้จะช่วยส่งเสริมและกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวชาวไทย และต่างชาติผ่านการสร้างสรรค์กิจกรรมโดยใช้ Soft Power เป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างการจดจำ ความประทับใจ พร้อมกับยกระดับกิจกรรมท่องเที่ยวนานาชาติ และขยายฐานตลาดคุณภาพอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังเป็นโอกาสที่ดีในการประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ของประเทศไทยสู่สายตาชาวโลก ซึ่งในปีนี้คาดการณ์ว่าจะมีนักมวยไทยเข้าร่วมงานไม่น้อยกว่า 500 คน และสร้างรายได้ในพื้นที่ระหว่างช่วงการจัดงานราว 12.25 ล้านบาท
สำหรับผู้ที่สนใจเข้าร่วมงาน สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.thailandfestival.org หรือ โทร. 1672 Travel Buddy
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น