“แม็คโคร-โลตัส” ผนึกกำลัง
“แม็คโคร-โลตัส” ผนึกกำลังขับเคลื่อนธุรกิจปี 2567 บนวิถีความยั่งยืน ชูองค์กรเคียงข้างสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อมที่ดี
กรุงเทพฯ 28 กุมภาพันธ์ 2567
บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) โดย “แม็คโคร” ผู้นำธุรกิจค้าส่ง และ “โลตัส” ผู้นำธุรกิจค้าปลีก เดินหน้าสานต่อเจตนารมณ์ด้านความยั่งยืน ปี 2567 ขับเคลื่อนโครงการต่างๆ มากมาย ที่ครอบคลุมทุกมิติทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการ (Environmental, Social and Governance: ESG) ด้วยความมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ให้สังคมอย่างต่อเนื่อง ตอกย้ำต้นแบบองค์กรที่ให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน เพื่อก้าวสู่องค์กรที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน และลดขยะฝังกลบให้เป็นศูนย์ ภายในปี 2573
แม็คโครและโลตัสให้ความสำคัญกับการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมผ่านโครงการสำคัญมากมาย โดยปี 2566 ที่ผ่านมา มีการดำเนินการ ด้านพลังงานสะอาด 1) ติดตั้งโซลาร์เซลล์บนหลังคา (Solar Rooftop) ที่แม็คโครและโลตัสรวม 560 สาขา ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้มากกว่า 92,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ซึ่งปี 2567 ตั้งเป้าติดตั้งให้ครอบคลุมทุกสาขา 2) รถพลังงานสะอาด เริ่มทดสอบใช้รถหัวลากไฟฟ้าที่ศูนย์กระจายสินค้าแบบค้าส่ง และรถกระบะขนส่งสินค้าพลังงานไฟฟ้า ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยปี 2567 มีการใช้งานรถขนส่งพลังงานไฟฟ้าแล้ว 20 คัน วางแผนเพิ่มกว่า 300 คัน หรือกว่า 150,000 เที่ยวต่อปี ภายใน 2 ปีข้างหน้า ซึ่งจะลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าได้ถึง 2,500 ตันต่อปี หรือเทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้ถึง 114,000 ต้น ขณะที่โลตัสมีการเปิดตัวสถานีสับเปลี่ยนแบตเตอรี่อัจฉริยะสำหรับมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า นำร่องที่โลตัสไฮเปอร์มาร์เก็ต และโลตัส โก เฟรช 34 สาขาทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล พร้อมทั้งเปิดบริการสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ในโลตัส ไฮเปอร์มาร์เก็ตรวม 100 สาขา ครอบคลุมทุกภาคในประเทศไทย ทั้งในกรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และต่างจังหวัดที่เป็นหัวเมืองใหญ่และเมืองท่องเที่ยว เพื่อสนับสนุนการใช้พลังงานทางเลือกที่สร้างมลพิษเป็นศูนย์
ด้านการลดขยะอาหารไปสู่ฝังกลบ แม็คโครและโลตัสได้เปลี่ยนอาหารส่วนเกินให้เป็นประโยชน์ โดยบริจาคอาหารที่จำหน่ายไม่หมดแต่ยังรับประทานได้ให้กับผู้ยากไร้และองค์กรการกุศล ประมาณ 220,000 กิโลกรัม ส่วนอาหารที่รับประทานไม่ได้แล้วถูกบริจาคให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เพื่อนำไปทำเป็นอาหารสัตว์จำนวนกว่า 1,420,000 กิโลกรัม และทำปุ๋ยมอบให้แก่ชุมชนโดยรอบสาขา 925,000 กิโลกรัม นอกจากนั้น ยังได้บริจาคอาหารส่วนเกินกว่า 490,000 กิโลกรัม เพื่อนำไปเพาะเลี้ยงแมลงโปรตีน (Black Soldier Fly - BSF) สำหรับเป็นอาหารสัตว์ทางการเกษตรเพื่อลดต้นทุนอาหารเลี้ยงสัตว์ให้กับเกษตรกรอีกด้วย
นอกจากนี้ ด้านการทำธุรกิจอย่างยั่งยืน แม็คโครและโลตัสมุ่งสานต่อพันธกิจในการเป็นแพลตฟอร์มแห่งโอกาส ที่สนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อย (SME) และเกษตรกรไทยให้มีรายได้ โดยพัฒนาศักยภาพให้สามารถแข่งขันในตลาดได้ ผ่านการจัดโครงการต่างๆ มากมาย นำโดยโครงการ Direct Sourcing รับซื้อผลิตผลทางการเกษตรและสินค้า SME โดยตรงจากเกษตรกรและผู้ประกอบการรายย่อยทั่วประเทศ เพื่อสร้างรายได้ และโอกาสในการเติบโตที่ยั่งยืน มีแผนเพิ่มปริมาณการรับซื้อสินค้าเกษตรและสินค้า SME ทุกปี, กิจกรรมจับคู่เจรจาทางธุรกิจ (Business Matching) ที่เปิดโอกาสให้เกษตรกรและผู้ประกอบการรายย่อยนำเสนอสินค้า จำหน่ายผ่านสาขาของแม็คโครและโลตัสรวมกว่า 2,600 แห่งทั่วประเทศ และช่องทางออนไลน์ อีกทั้งจัดกิจกรรม “SME FOODIES’ PARADISE ตลาดนัด SME สัญจร” ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐในหลายพื้นที่ สร้างโอกาสในการกระจายสินค้าให้ผู้ประกอบการ SME และเกษตรกรไทย
การดำเนินธุรกิจที่มุ่งสู่การเป็นองค์กรยั่งยืนของทั้งแม็คโคร-โลตัส เป็นการผนึกกำลังครั้งสำคัญที่สานต่อเจตนารมณ์ด้านความยั่งยืน โดยยึดมั่นในปรัชญาสามประโยชน์ คือ ไม่ว่าจะไปทำธุรกิจที่ไหน ต้องคำนึงถึงประโยชน์ต่อประเทศนั้นๆ ประชาชน และบริษัท ควบคู่ไปกับการคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม การกำกับดูแลกิจการที่ดี และผู้มีส่วนได้เสียอย่างรอบด้าน มุ่งสู่การบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) อีกทั้งบริษัทฯ ยังมุ่งเดินหน้าเคียงข้างเกษตรกรอย่างต่อเนื่องในหลากหลายมิติ พร้อมส่งเสริมศักยภาพ ขีดความสามารถของเกษตรกรไทย และผู้ประกอบการรายย่อยให้เติบโตไปด้วยกัน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น