“ศรายุทธ”นั่งนายกยิม 3 สมัย
“ศรายุทธ”นั่งนายกยิม 3 สมัย
ปักหมุดคว้าตั๋วอลป.ที่สหรัฐฯ
สมาคมกีฬายิมนาสติกเลือกนายกสมาคมจบอย่าง แฮปปี้เอนดิ้ง อย่างไร้คู่แข่ง ส่งผลให้ “น.ต.ศรายุทธ พัฒนศักดิ์” นั่งเบอร์ 1 เป็นสมัยที่ 3 ติดต่อกัน ยืนยันเสียงดังฟังชัดก่อนวางมือขอสร้างประวัติศาสตร์นำนักกีฬายิมนาสติกคว้าตั๋วโอลิมปิกเกมส์ 2028 อีก 4 ปีข้างหน้าที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ให้สำเร็จตามเจตนารมณ์
ที่ห้องรัชดาบอลรูม โรงแรมเอส.ซี.ปาร์ค นาวาตรี ศรายุทธ พัฒนศักดิ์ นายกสมาคมกีฬายิมนาสติกแห่งประเทศไทย เป็นประธานเปิดการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2566 พร้อมจัดให้มีการเลือกตั้งนายกสมาคมฯ คนใหม่ หลังจากที่ชุดเก่าได้หมดวาระในการบริหารงาน โดยมีตัวแทนสโมสรสมาชิกเข้าร่วมประชุมกันเป็นจำนวนมาก แต่ผู้ที่มีสิทธิ์ออกเสียงในการยกมือเลือกนายกสมาคมคนใหม่มีจำนวนทั้งสิ้น 39 คน และเดินทางมาร่วมประชุมเลือกตั้งจำนวน 30 คน ที่เหลือติดภารกิจอยู่ต่างจังหวัดจึงไม่สามารถเดินทางมาได้ ในการนี้ น.ส.ศศิธร สุคนธ์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายนิติกรของการกีฬาแห่งประเทศไทย เข้าร่วมสังเกตการณ์และให้คำปรึกษาในกรณีหากมีการทำผิดกฎ หรือ เกิดการละเมิดสิทธิ์ รวมทั้งทำการควบคุมการประชุมเลือกตั้งให้อยู่ในกรอบอย่างถูกต้อง ในฐานะที่ กกท.เป็นนายทะเบียนกลาง
การเลือกตั้งครั้งนี้ ที่ประชุมได้เลือก ผศ.ดร.รำไพ ศูนย์จันทร์ เป็นประธานในการเลือกตั้งชั่วคราว จากนั้นได้เปิดโอกาสให้ตัวแทนสมาชิกสโมสรเสนอชื่อนายกสมาคมคนใหม่ โดยในที่ประชุมได้เสนอ น.ต.ศรายุทธ พัฒนศักดิ์ เพียงผู้เดียว และไม่มีการเสนอชื่อผู้อื่นลงแข่งขัน พร้อมกันนี้ยังได้รับเสียงสนันสนุนมากถึง 29 เสียง (ตัวแทนของสโมสรทหารอากาศ ได้งดออกเสียง) ทำให้ น.ต.ศรายุทธ พัฒศักดิ์ ได้กลับมาดำรงตำแหน่งนายกสมาคมกีฬายิมนาสติกแห่งประเทศไทยอีกสมัย เป็นสมัยที่ 3 ติดต่อกัน (สมัยปีแรก ปี พ.ศ. 2558-2562 / สมัยที่ 2 ปี พ.ศ. 2562-2566 / สมัยที่ 3 ปี พ.ศ. 2567- )
หลังการได้รับความไว้วางใจให้นั่งดำรงตำแหน่งนายกสมาคมกีฬายิมนาสติกแห่งประเทศไทย เป็นสมัยที่ 3 ติดต่อกัน น.ต.ศรายุทธ พัฒนศักดิ์ ได้กล่าวขอบคุณสโมสรสมาชิกที่ให้ความไว้วางใจ พร้อมกันนี้ได้ยืนยันอีกด้วยว่า ส่วนตัวบริหารงานสมาคมกีฬายิมนาสติกมาแล้ว 8 ปี มีการพัฒนาศักยภาพขององค์กรอย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับการส่งเสริมนักกีฬา ด้วยการสร้างชื่อเสียงคว้าเหรียญทอง และ คว้าแชมป์ในรายการระดับนานาชาติ รวมถึงสร้างผลงานเป็นที่ประจักษ์ในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ทุก ๆ ครั้ง อีกด้วย
ส่วนแผนงานหลังจากนี้ สมาคมฯมีภาระกิจต้องเร่งดำเนินการสานต่อหลายรายการ นอกจากส่งนักกีฬาไปเก็บตัวฝึกซ้อมที่ต่างประเทศแล้ว ยังต้องเตรียมส่งเข้าร่วมแข่งขันรายการเวิลด์คัพ , รายการชิงแชมป์เอเชีย และ เตรียมความพร้อมอย่างหนักกับการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพปลายปีหน้า ที่สำคัญทุกองคาพยพต้องเดินหน้าไปอย่างมีประสิทธิภาพ เพราะเป้าหมายใหญ่ก่อนวางมือ หวังสร้างประวัติศาสตร์นำนักกีฬายิมนาสติกไทย คว้าตั๋วไปเข้าร่วมแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2028 ระหว่างวันที่ 14 – 30 กรกฏาคม 2571 ที่ นครลอสแองเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา ให้ประสบความสำเร็จ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น