ชิงจตุรมิตรคว้าแชมป์ร่วม

ชิงจตุรมิตร”ชมพูฟ้า” สวนกุหลาบ กับ “ชงโคสีม่วง” กรุงเทพคริสเตียน กินกันไม่ลงเสมอ 0-0 คว้าแชมป์ร่วม ทำสถิติซิวแชมป์สมัยที่ 14 เท่ากัน ส่วนคู่ชิงที่ 3 “ลูกแม่รำเพย” เทพศิรินทร์ ถล่ม “อินทรีแดง” อัสสัมชัญ เจ้าภาพหนหน้า 5-2

ฟุตบอลจตุรมิตรสามัคคี ครั้งที่ 30 ที่สนามศุภชลาศัย เมื่อวันที่ 18 พ.ย. เป็นการเล่นรอบชิงชนะเลิศ ระหว่าง “ชมพูฟ้า” สวนกุหลาบ ที่ชนะรวดมาในรอบแรก พบกับ “ชงโคสีม่วง” กรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย โดยที่ผ่านมาทั้ง 2 ทีมต่างคว้าแชมป์มาแล้วฝ่ายละ 13 ครั้ง หากใครชนะ จะกลายเป็นเจ้าของสถิติสูงสุดของรายการนี้ 14 สมัยทันที

เริ่มเกมแค่นาทีเดียว กรุงเทพคริสเตียนหวิดได้เฮ เมื่อมีโอกาสซัดจากระยะแค่ 10 หลา แต่ กวิน พิทักษ์สาลี นายทวารสวนกุหลาบ โชว์ซูเปอร์เซฟพุ่งปัดออกไปได้ จากนั้นนักเตะชงโคยังเป็นฝ่ายครองบอลได้เหนือกว่า แต่หาจังหวะพังประตูไม่ได้ จบ 45 นาทีแรกเสมอ 0-0

ครึ่งหลังผ่าน 15 นาที กรุงเทพคริสเตียนเสีย วิชัน อินอร่าม กองหลังตัวเก่งที่บาดเจ็บ ถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนาม ทำให้เกมพลิกกลับมาเป็นของสวนกุหลาบ ดันเกมบุกอยู่ข้างเดียว และเกือบได้ประตูถึง 2 ครั้ง นาที 73 จากฟรีคิก20 หลาของ อิระฟาน มะกุล บอลพุ่งทำท่าเสียบสามเหลี่ยม  แต่ ศุภณัฐ สุดาทิพย์ ผู้รักษาประตูคริสเตียนลอยตัวปัดออกไปได้ 

จากนั้นช่วงทดเวลา สวนกุหลาบหวิดเฮอีกครั้ง เมื่อได้จังหวะยิงเหน่งๆ แต่บอลชนคาน ก่อนกองหลังกรุงเทพคริสเตียนสกัดพ้นอันตราย หมดเวลาเสมอกัน 0-0 คว้าแชมป์ร่วมกัน โดยสวนกุหลาบทำสถืติเป็นแชมป์เดี่ยว 6 ครั้ง แชมป์ร่วม 8 ครั้ง ขณะที่กรุงเทพคริสเตียน แชมป์เดี่ยว 4 ครั้ง แชมป์ร่วม 10 ครั้ง

ส่วนคู่ชิงที่ 3 “ลูกแม่รำเพย” เทพศิรินทร์ เจ้าภาพ รัว 5 ประตูรวดแซงชนะ “อินทรีแดง” อัสสัมชัญ 5-2 โดยอัสสัมชัญได้ประตูจาก นำโชค กฤษณชาญดี นาที 12, 15 ส่วนเทพศิรินทร์ได้จาก ศ็อฟฟาน สันหรน นาที 26, 45+3, สิรวิชญ์ วงษ์ประไพ นาที 41, ปภาวิชญ์ ต่ออ่อน นาที 67 และ ธนศักดิ์ แก้วประสงค์ นาที 87

สำหรับฟุตบอลจตุรมิตรครั้งหน้า อัสสัมชัญจะเวียนมารับหน้าที่เจ้าภาพ ในปี 2568ั