สตม. เด้งรับนโยบายรัฐบาล
สตม. เด้งรับนโยบายรัฐบาลต่างชาติผ่าน ตม.ขาออก ช่องออโต เริ่มสุวรรณภูมิ 15 ธ.ค.66
ตามข้อสั่งการของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่สั่งการ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ปรับปรุงระบบตรวจคนเข้าเมืองขาออก ให้พัฒนาระบบตรวจหนังสือเดินทางอัตโนมัติ หรือ Automatic Channel ที่สนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อเร่งระบายความหนาแน่นผู้โดยสารขาออกที่จะต้องรีบเดินทางขึ้นเครื่องบิน รวมถึงการใช้เทคโนโลยีตรวจผู้โดยสารขาออก เพื่อนำกำลังเจ้าหน้าที่ ตม. ไปเพิ่มในส่วนการตรวจขาเข้าแทน เป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการอำนวยความสะดวกตามนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวของรัฐบาล ซึ่ง นายเศรษฐาฯ นายกรัฐมนตรี ได้กำชับในการประชุมย่อย ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว ที่สนามบินสุวรรณภูมิอีกครั้ง ก่อนออกเดินทางไปประชุม APEC ที่ซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันอาทิตย์ที่ 12 พ.ย.66 ที่ผ่านมา
ล่าสุด วันที่ 14 พ.ย.66 พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม. ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า
ตามดำริ นายกรัฐมนตรี ตนได้มีการประชุมผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ผู้แทนกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 และ ศูนย์เทคโนโลยีตรวจคนเข้าเมือง รวมถึงบริษัทซึ่งรับผิดชอบระบบเทคโนโลยีตรวจคนเข้าเมือง และระบบ Automatic Channel เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อเร่งพัฒนาระบบรองรับการปฏิบัติตามนโยบายดังกล่าว โดยต่อไปคนต่างชาติที่เดินทางออกจากประเทศไทย ทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สามารถใช้ช่องทางตรวจหนังสือเดินทางอัตโนมัติ หรือ Automatic channel ได้ จากเดิมสามารถใช้ได้เฉพาะผู้ถือหนังสือเดินทางไทยเท่านั้น ซึ่งขณะนี้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองกำลังเร่งพัฒนาโปรแกรมเพิ่มเติม และปรับแก้ไขระเบียบคำสั่งที่เกี่ยวข้อง ให้สามารถทันใช้ในระยะเร่งด่วน 15 ธ.ค.2566 เพื่อให้ทันรองรับช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยในช่วงเร่งด่วนนี้ ยังคงใช้เครื่อง Automatic Channel ที่มีอยู่เดิมไปก่อน
แต่เชื่อว่า เมื่อเปิดรองรับการตรวจคนต่างชาติด้วยแล้ว จะเพิ่มขีดความสามารถในการระบายความหนาแน่นผู้โดยสารขาออกที่สนามบินสุวรรณภูมิได้คล่องตัวขึ้นเป็นเท่าตัว จากเดิมรองรับการตรวจผู้โดยสารขาออกราว 5,000 คน ต่อชั่วโมง เป็นประมาณ 12,000 คน ต่อชั่วโมง ทั้งนี้ ในการตรวจจะลดขั้นตอนการประทับตรา ขาออกลงไป แต่ยังคงสามารถตรวจสอบบุคคลที่มีหมายจับคดีอาญา บุคคลที่ศาลมีคำสั่งห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร และบุคคลที่อยู่เกินกำหนดอนุญาต หรือ overstay ได้เช่นเดิม
ส่วนการพัฒนาระยะต่อเนื่องนั้น สตม. ได้รับการสนับสนุนจาก บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) จัดซื้อระบบ Automatic Channel เพื่อทดแทนระบบเดิมที่มีอายุการใช้งานกว่า 12 ปี ที่ด่าน ตม.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และดอนเมือง ทั้งในส่วนขาเข้าและขาออก โดยในส่วนขาออกระหว่างประเทศจะติดตั้งที่สุวรรณภูมิ 40 เครื่อง จากเดิมมีแค่ 16 เครื่อง และติดตั้งทดแทนที่ขาเข้าระหว่างประเทศ 16 เครื่อง
ส่วนสนามบินดอนเมือง จะติดตั้งทดแทนที่ขาออกระหว่างประเทศ 8 เครื่อง จากเดิม 4 เครื่อง ส่วนขาเข้าระหว่างประเทศ 8 เครื่อง จากเดิม 4 เครื่อง เช่นกัน โดยจะมีระบบการทำงานที่ทันสมัย แม่นยำ และรวดเร็วกว่าเดิม ซึ่งมีแผนจะสามารถใช้งานได้ ภายใน ก.ค.2567
สำหรับการตรวจขาเข้าระหว่างประเทศ ยังจำเป็นต้องใช้เจ้าหน้าที่ในการคัดกรองตรวจสอบบุคคลเข้าราชอาณาจักรตามหลักความมั่นคงของประเทศ โดยในอนาคตเมื่อมีการติดตั้งเครื่อง Automatic Channel ที่ขาออกเพิ่มเติมได้แล้ว จะสามารถนำเจ้าหน้าที่มาเพิ่มกำลังช่องตรวจหนังสือเดินทางขาเข้าได้มากขึ้น ซึ่งจะสามารถรองรับการตรวจผู้โดยสารในช่วงเที่ยวบินหนาแน่นได้มากขึ้นด้วย
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น