ชุด ปส.ร้อยเอ็ดจับ 3 นักบิน

ชุด ปส.ร้อยเอ็ดจับ 3 นักบินจากอำนาจเจริญพร้อมยาบ้าแสนกว่าเม็ด

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 30 ต.ค.66 ชุด ปส. ภ.จว.ร้อยเอ็ดโดย พ.ต.ท.สมนึก ปัญญารมย์ ร่วมกับชุดสืบสวน สภ.สุวรรณภูมิ นำโดย พ.ต.อ.ประวิทย์ โทหา ผกก.สภ.สุวรรณภูมิ จับกุมนายภิรมย์หรือร็อค ศรีบัวลาและพลทหารอภิชาติหรืออ๊อฟ ศรีบัวจันทร์  พร้อมของกลางยาบ้า 4,000 เม็ด ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น ซึ่งจากการขยายผลผู้ต้องหาทั้งสองยอมรับว่าไปรับยาบ้าที่ ต.มะอึ อ.ธวัชบุรี และยังสืบทราบอีกว่าคืนวันที่ 3 ต.ค.จะมี"นักบิน"จากอำนาจเจริญนำยาบ้ามาวางในเขต อ.ธวัชบุรี โดยนักบินจะใช้รถยนต์ยี่ห้อ toyota สีเทา จังหวัดมุกดาหาร

ชุด ปส.ภ.จว.ร้อยเอ็ด นำโดย พ.ต.อ.วีระ หางนาค ผกก.สืบสวนฯ,พ.ต.ท.สุวิทย์ ปะกำแหง รอง ผกก.สืบสวนฯ,พ.ต.ท.ไพรัตน์ บุปผา รอง ผกก.สืบสวนฯ พ.ต.ท.สมนึก ปัญญารมย์ สว.สืบสวน จึงวางแผนร่วมกับชุดสืบสวน สภ.ธวัชบุรี

โดยให้พ.ต.ท.สมนึก ปัญญารมย์ นำเจ้าหน้าที่ประกอบด้วย ร.ต.อ.ไพรทูล ศรีมหาพรม,ร.ต.อ.บุญญฤทธิ์ วังหอม,ร.ต.อ.ประหยัด รจนัย,ร.ต.อ.อนัน คชรมย์,ร.ต.อ.จักรกฤษ เหลาไชย,ร.ต.ท.สุรพล โพธิ์คำ,ร.ต.ท.ทรงศักดิ์ บุญวิเศษ,ร.ต.ท.ภูวัทนนท์ พิมพ์ประชา,ด.ต.ธเนช ยิ่งกำแหง,ด.ต.ภิญโญ วรรณยศ,ด.ต.จันดี มาศสำโรง,ด.ต.ธนกฤต ศรีวันทา,ด.ต.ปัญญา สีดามาตย์  แบ่งกำลังขับรถสำรวจตามเส้นทางที่คาดว่าเครือข่ายยาบ้าหรือนักบินจะนำยาบ้ามาส่งมอบให้ โดยให้ชุดสืบสวน สภ.ธวัชบุรี นำโดย พ.ต.ท.วัชรินทร์ สัตยาคุณ รองผกก.สส.ฯ,พ.ต.ต.วิเชียร โพธิโชติ สว.สส.ฯ,ด.ต.วิทยา พิมพ์มหา ดักซุ่มอยู่บริเวณบายพาสโพนทอง ต.มะอึ อ.ธวัชบุรี

กระทั่งเวลา 23.30 น.วันที่ 3 พ.ย.66 พบรถยนต์ toyota สีเทา มุกดาหาร ขับจาก อ.ธวัชบุรี เลี้ยวขวาไปเส้นบายพาสธวัชบุรีไปทางบายพาสโพนทอง จนท.จึงขับรถตามไปอย่างกระชั้นชิดพร้อมกับประสานให้ชุดสืบสวน สภ.ธวัชบุรี เตรียมสกัดที่แยกบายพาสโพนทอง  

เมื่อรถคันดังกล่าวติดไฟแดงที่แยกบายพาสโพนทอง บ้านโนนเดื่อ หมู่ 5 ต.มะอึ อ.ธวัชบุรี เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมใช้ยุทธวิธีโดยขับรถยนต์ปิดด้านหัวด้านท้ายและด้านข้างเพื่อไม่ให้รถยนต์ของผู้ต้องหาเคลื่อนที่ไปได้พร้อมกับแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจเมื่อเปิดประตูรถพบนายกั๊ก มุทระพัด อายุ 34 ปี  ทำหน้าที่คนขับโดยมีนายโจ นั่งอยู่เบาะข้างๆ ส่วนแคปห้องโดยสารหลังเบาะคนขับพบนายอาร์ม  นั่งอยู่  จากการตรวจค้นพบห่อยาบ้าตรวจนับแล้วมียาบ้า 8,000 วางอยู่ที่วางเท้าบริเวณแคปห้องโดยสาร นอกจากนี้ยังตรวจพบอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนขนาด .380 ซึ่งนายฐิติพงศ์ฯยอมนับว่าเป็นอาวุธปืนของตัวเองและเป็นอาวุธปืนเถื่อน

นายธนวิชญ์ฯให้การนับสารภาพว่าตนรับการว่าจ้างจาก"นายม่อน"เจ้าของยาบ้าซึ่งเป็นชาวลาวให้นำยาบ้ามาส่ง 2 ครั้งแล้วโดยครั้งแรกประมาณกลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมานำยาบ้าจำนวน 100,000 เม็ดมาวาง และครั้งที่ 2 ประมาณปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมาได้นำยาบ้าอีก 40,000 เม็ด ส่วนครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ตนได้ชวนนายฐิติพงศ์ฯและนายคงศักดิ์ฯมาร่วมทีมด้วย ซึ่งทั้งสองคนก็เพิ่งจะมาร่วมทีมกับตนเป็นครั้งแรก ซึ่งพวกตนจะได้รับค่าจ้างมัดละ 1,000 บาท

นายธนวิชญ์ฯ สารภาพอีกว่ายังมียาบ้าที่ตนซุกซ่อนโดยการฝังกลบไว้ที่เพิงพักกลางทุ่งนาด้านทิศตะวันออกบ้านโคกกลาง หมู่ 1 ต.โคกกลาง อ.ลืออำนาจ จ.อำนาจเจริญ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงพานายธนวิชญ์ฯไปยังจุดซุกซ่อน พบยาบ้าถูกฝังดินกลบตรวจนับแล้วมียาบ้า 154,000 เม็ด รวมยาบ้าทั้งสิ้น 162,000 เม็ด 

และตั้งข้อกล่าวหากับผู้ต้องหาทั้ง 3 คนว่า"ร่วมกันจำหน่ายโดยมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท1(ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน)โดยไม่ได้รับอนุญาตอันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน กระทำการให้เกิดผลต่อความมั่นคงของรัฐและความปลอดภัยของประชาชน 

เพิ่มเติมข้อกล่าวหานายธนวัชฯ์ฯพร้อมของกลาง ยาบ้า จำนวน 154,000 เม็ด โดยกล่าวหาว่า จำหน่ายโดยมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท1(ยาบ้าหรือ เมทแอมเฟตามีน)โดยไม่ได้รับอนุญาตอันเป็นการกระทำเพื่การค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนกระทำการก่อให้เกิดผลกระทบต่อความมั้นคงของรัฐและความปลอดภัยของประชาชนและเสพยาเสพติดให้โทษประเภท1(ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน)โดยผิดกฎหมาย 

เพิ่มเติมข้อกล่าวหานายฐิติพงศ์ฯพร้อมของกลางอาวุธปืนกึ่งอัตโนมัติใช้กับกระสุนปืนขนาด .380 จำนวน 1 กระบอกและกระสุนปืน ขนาด .380 จำนวน 5 นัด โดยกล่าวหาว่า มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตฯพกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านที่ทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควร นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ธวัชบุรี  ดำเนินคดีต่อไป