'บิ๊กต่อ' ยันไม่ได้จัดฉากจับยา
'บิ๊กต่อ' ยันไม่ได้จัดฉากจับยา
วันที่ 28 ก.ย.66 พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ว่าที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ) / พลตำรวจโทธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมด้วยชุดจับกุม ร่วมกันแถลงข่าวกรณีกลางดึกเมื่อคืนนี้ ได้นำกำลังกองกำกับการสายตรวจ กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ 191 ไปตรวจค้นแหล่งพักยาเสพติด ในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม
โดยสามารถตรวจยึดของกลาง ยาบ้า 15 ล้านเม็ด เฮโรอีน 443 แท่ง ไอซ์ 420 กิโลกรัม และยาเสพติดชนิดอื่นๆ อีก จำนวนมาก หากนำไปจำหน่ายจะมีมูลค่าสูงถึง 300 ล้านบาท พร้อมจับกุมผู้ต้องหา 4 ราย ที่มีพฤติกรรมลักลอบจำหน่ายยาเสพติด คือ นายชลิต อายุ 39 ปี นายอภิชาติ อายุ 38 ปี นายจรัญ อายุ 38 ปี และนายวัชระ อายุ 36 ปี
พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้ ถือเป็นผลงานครั้งสำคัญ เพราะจุดดังกล่าวถือเป็นแหล่งพักยาที่ใหญ่ที่สุดในช่วงนี้ และอยู่ใจกลางประเทศไทย อีกทั้งยังเป็นพื้นที่ชุมชน ซึ่งผู้ต้องหาที่ถูกจับก็พบประวัติการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดจำนวนมาก วันนี้ตนจึงอยากมาให้กำลังใจชุดจับกุม รวมถึงชื่นชมรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่มีความเป็นห่วงเยาวชน ที่เป็นผู้เสพยาเสพติดส่วนใหญ่ โดยการจับกุมครั้งนี้ ถือเป็นการสกัดยาเสพติดล็อตใหญ่ ไม่ให้ออกไปแพร่ระบาด
ด้าน พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ 191 ได้สืบทราบว่ากลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 4 คน มีพฤติกรรมลักลอบจำหน่ายยาเสพติด โดยใช้รถยนต์ตระเวนส่งยาเสพติดให้กับลูกค้าบริเวณถนนบรมราชชนนี และพื้นที่พุทธมณฑลสาย 5 จึงเฝ้าสืบสวนจนทราบว่า กลุ่มผู้ต้องหาได้เช่าบ้านไว้เป็นที่เก็บซุกซ่อนยาเสพติด ในพื้นที่ตำบลลำพญา อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม จนเมื่อคืนนี้ ตำรวจได้พบผู้ต้องหาทั้ง 4 คน กำลังนำยาเสพติดไปส่งให้กับลูกค้า จึงได้แสดงตัวเข้าตรวจค้นและจับกุม
สำหรับเครือข่ายนี้ ตำรวจ 191 ได้ติดตามจับกุมต่อเนื่องมา 4 คดีเป็นระยะเวลานานกว่า 2 ปีแล้ว โดยจุดที่เข้าไปตรวจค้นและจับกุมผู้ต้องหาเมื่อคืนนี้ เป็นจุดพักยาที่กลุ่มผู้ต้องหาได้มีการขนย้ายยาเสพติดจากเซฟเฮาส์หลายแห่งมารวมกัน เพื่อหลบหนีการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากก่อนหน้านี้ ได้มีการจับกุมผู้เสพได้ 1 ราย ในพื้นที่จังหวัดนครปฐม
เมื่อกลุ่มผู้ต้องหาทราบ จึงเกิดความกลัว ขนย้ายยาเสพติดมารวมกันที่นี่ ทำให้สามารถตรวจยึดของกลางได้ปริมาณมาก และยังพบเฮโรอีนซึ่งเป็นยาเสพติดที่ไม่ค่อยพบในประเทศไทย เนื่องจากมีต้นทุนสูง นอกจากนี้ ยังมียาเสพติดชนิดที่ผ่านการดัดแปลงมาแล้วเพื่อใช้สำหรับเสพในสถานบันเทิงด้วย เช่น แฮปปี้วอเทอร์ และไฟว์ไฟว์
ทั้งนี้ ผู้ต้องหาทั้ง 4 รายได้ให้การรับสารภาพ และให้การเป็นประโยชน์ โดยให้ข้อมูลว่าได้ต่าจ้างในการขนยาบ้าคนละ 4.5แสน โดย4คนรวมกันได้ค่าจ้าง 1.8ล้านบาท ยังไม่รวมค่าจ้างขนเฮโลอีน ส่วนแฮปปี้วอเทอร์ ได้ค่าจ้างเป็นส่วนแบ่ง10%จากยอดขาย ซึ่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เร่งสั่งการให้ขยายผลไปยังปลายทางต่อไป เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การว่ามีการจำหน่ายยาเสพติดภายในประเทศให้กับกลุ่มผู้เสพ รวมไปถึงสถานบันเทิงในพื้นที่ด้วย ส่วนต้นทางของยาเสพติด พบว่ามาจากประเทศเพื่อนบ้านทางภาคเหนือ โดยเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติ
ต่อมา ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า เหตุใดการจับกุมยาเสพติดล็อตใหญ่ครั้งนี้ จึงเกิดขึ้นหลังจากมีมติให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนที่ 14 ทันที ซึ่ง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ตอบว่า การจับกุมในครั้งนี้ ไม่ใช่การจัดฉาก แต่อาชญากรรมสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเวลา ซึ่งเมื่อเกิดขึ้น ตำรวจก็มีหน้าที่ตัดโอกาสในการกระทำความผิดทันที คนร้ายไม่ได้มาบอกว่าจะขนยาวันไหน
ซึ่งเมื่อคืนนี้ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลได้โทรศัพท์มาแจ้งตนว่ามีเหตุเกิดขึ้น ตนก็ได้โทรศัพท์ไปแจ้งกับ พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่รับผิดชอบงานเกี่ยวกับยาเสพติด แต่ พล.ต.อ.ชินภัทร ติดภารกิจ จึงมอบหมายให้ตนไปแทน
เมื่อถามว่า การจับกุมครั้งนี้ เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดนครปฐม ทำให้ถูกเชื่อมโยงไปถึงกรณีกำนันนกว่าเกี่ยวข้องกันหรือไม่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ระบุว่า ขอให้อย่าไปโยงถึงกัน ใครทำคดีไหนก็ชัดเจน ต้องไปถามที่คนนั้น พร้อมย้ำว่าตนเอง ดูในเรื่องของงานป้องกันปราบปราม ซึ่งเรื่องยาเสพติดก็ถือเป็นส่วนหนึ่งอยู่แล้ว โดยที่ผ่านมาตนเองได้ทำเรื่องชุมชนยั่งยืนมานานแล้ว คือเข้าไปแก้ไขปัญหายาเสพติดในชุมชน ไม่ได้เพิ่งมาทำตอนที่มีผลการคัดเลือกผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ในการที่จะดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะเน้นนโยบายหลักเรื่องยาเสพติดใช่หรือไม่ พล.ต.อ.เอกต่อศักดิ์ ตอบว่า เรื่องยาเสพติด เป็นนโยบายหลักที่รัฐบาลได้กำชับอยู่แล้ว นอกจากนี้ ก็จะมีเรื่องการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ คอลเซ็นเตอร์ รวมไปถึงเรื่องการท่องเที่ยว
อย่างไรก็ตาม ทันทีที่ผู้สื่อข่าวเริ่มสอบถามเกี่ยวกับนโยบายในการดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และการได้รับคัดเลือก พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ตอบทันทีว่า เรื่องตำแหน่งขอยังไม่ตอบ โดยยังไม่อยากพูด จนกว่าจะมีการโปรดเกล้าฯ พร้อมย้ำว่า ตอนนี้ตนยังเป็นแค่รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
เมื่อผู้สื่อข่าวพยายามจะสอบถามประเด็นอื่นๆ ต่อ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ก็บอกว่า ตนมีภารกิจต่อและขอตัวเดินทางกลับทันที
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น