สช.จัดทัพลงใต้

สช.จัดทัพลงใต้ ร่วมประชุมเพื่ออภิปราย วิเคราะห์สภาพปัญหา และอุปสรรคการบริหารจัดการสถานศึกษาเอกชนจังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมนำแนวทางการแก้ไขปัญหาแบบมีส่วนร่วมของผู้เกี่ยวข้องไปสู่การปฏิบัติ !!

วันที่(14 มีนาคม 2566) ดร.ประพัทธ์ รัตนอรุณ รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (รองเลขาธิการ กช.) เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการการบริหารจัดการสถานศึกษาเอกชนจังหวัดชายแดนภาคใต้ (วิเคราะห์สภาพปัญหา อุปสรรค การบริการจัดการสถานศึกษาเอกชนจังหวัดชายแดนภาคใต้) โดยมี ผู้บริหาร สช.ผู้บริหาร สช.5 จังหวัดชายแดนใต้บุคลากร สช.ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมทั้งสิ้น155 คน ณ โรงแรมสยามออเรียลทัล หาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา โดยการประชุมจัดขึ้นระหว่างวันที่ 14 – 15 มีนาคม 2566

ดร.ประพัทธ์ รัตนอรุณ กล่าวตอนหนึ่งช่วงพิธีเปิดการประชุมว่า การประชุมในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาการศึกษาเอกชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งในมิติของการพัฒนาคุณภาพ การจัดการศึกษา และมิติการจัดการศึกษาเพื่อความมั่นคง โดย เลขาธิการ กช.ได้ให้ความสำคัญกับการจัดการศึกษาเอกชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นอย่างมาก จะเห็นได้จากการเร่งขับเคลื่อนนโยบายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องไปสู่การปฏิบัติไม่ว่าจะเป็นการผลักดันเรื่องอาหารกลางวันสำหรับเด็กนักเรียนทั้งในระบบและนอกระบบ การดำเนินงานโครงการตามแผนงานบูรณาการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ และแผนยุทธศาสตร์ เช่น การหางบประมาณเพื่อสนับสนุนโครงการจัดหายานพาหนะ และขนส่งสนับสนุนสำนักงานการศึกษาเอกชนจังหวัดและอำเภอ เป็นต้น ดังนั้นแล้ว จึงขอให้ สช. ใต้ได้ร่วมมือร่วมใจกันพัฒนาการศึกษาเอกชน เพราะทุกท่าน ทั้ง สช.จังหวัด และ สช.อำเภอในพื้นที่ถือได้ว่าเป็นฟันเฟืองสำคัญในการพัฒนาการศึกษาเอกชนจังหวัดชายแดนภาคใต้ในระดับภูมิภาค ขอให้ทุกท่านไม่ว่าจะเป็น ผู้อำนวยการ และรองผู้อำนวยการสำนักงานการศึกษาเอกชนจังหวัด ผู้อำนวยการกลุ่มงาน ผู้อำนวยการสำนักงานการศึกษาเอกชนอำเภอ หัวหน้ากลุ่ม หัวหน้าฝ่ายและบุคลากรจาก สช.ส่วนกลาง และส่วนภูมิภาค ที่ได้เข้าร่วมประชุมในวันนี้ ขอให้ร่วมกันอภิปราย วิเคราะห์สภาพปัญหา และอุปสรรคการบริหารจัดการสถานศึกษาเอกชนจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อจะได้นำแนวทางการแก้ไขปัญหาแบบมีส่วนร่วมของผู้เกี่ยวข้องไปสู่การปฏิบัติต่อไป

ภายหลังพิธีเปิด ดร.ประพัทธ์ รัตนอรุณ ได้บรรยายพิเศษโดยเนื้อหาบางส่วนกล่าวถึงแนวทางการดำเนินชีวิตในสายงานราชการ “บอกพี่ สอนน้อง” 7 แนวทาง ได้แก่ 

1) เตรียมให้พร้อม เมื่อมีเวลาว่างให้จัดเตรียมข้อมูลที่เกี่ยวข้องในงานของตัวเองให้พร้อม ใช้ ICT (เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร) ให้เป็นประโยชน์ อย่าปิดกั้นศักยภาพของตัวเอง ศึกษาแนวคิด ทฤษฎีต่าง ๆ ให้มาก แต่อย่าให้มาครอบงำการทำงานมากเกินไป 

2) น้อมรับทำ ไม่เกี่ยงงาน งานแบกหามก็ทำ ตำแหน่งและผลประโยชน์ตอบแทนมาทีหลัง ถึงแม้ไม่ได้ในครั้งนี้ คิดว่าโอกาสหน้ายังมี แต่ถ้ายังไม่ได้อีกให้คิดว่าที่บ้านยังมีข้าวกิน ไม่ง้อโชคชะตา ทำงานแบบจัดเต็มต่อไป 

3) นำจุดเด่น หางานที่ถนัดแล้วจับให้มั่นฝึกให้เชี่ยวชาญให้ได้ เวลามีงานสำคัญต้องให้ผู้บังคับบัญชาและคนอื่น ๆ นึกถึงเรา ที่สำคัญจะต้องมองงานในเชิงระบบให้เป็น ทั้งระบบองค์กรเรา ระบบในกระทรวงและนอกกระทรวง 

4) เน้นคุณค่า งานที่ออกจากเราต้องดี มีคุณภาพและรวดเร็ว แต่ถ้างานด่วนเข้ามาพร้อมกัน ให้ดูว่างานไหนสำคัญ เร่งด่วน และมีผลกระทบสูง

5.)หาโอกาส โอกาสมีสองอย่างคือ “คนอื่นหยิบยื่นให้”และ “เดินไปขอโอกาสเอง” (แนะนำอย่างหลัง) หาโอกาสเข้าไปมีส่วนร่วมในงานต่าง ๆ ให้มาก อย่างเกี่ยงงาน รักตัวเอง ด้วยการพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ 

6) การ์ดอย่าตก เมื่อพลาดพลั้ง ผิดหวัง ไม่พอใจ อย่าแสดงอาการให้ใครเห็น ให้ถือคติ “กลืนเลือด แล้วลุยต่อ” สักวันต้องเป็นวันของเรา 

7) รวมใจให้ได้ เรามีเวลาทำงาน 8 ชั่วโมง/วัน 40 ชั่วโมง/สัปดาห์ 160 ชั่วโมง/เดือน 1,920 ชั่วโมง/ปี สรุปเรามีเวลาทำงานประมาณ 240 วัน/ปี 

ดังนั้นเราต้องสร้างความสุขในการทำงาน สร้างความสัมพันธ์อันดีกับผู้ปฏิบัติงานหน่วยงานอื่น ผูกมิตรกับเพื่อนร่วมงานของตนเอง เพราะเราจะต้องเจอหน้าเขาทุกวัน เป็นน้องต้องเคารพและให้เกียรติพี่ เป็นพี่ต้องทำตัวให้คู่ควรกับความเคารพและเกียรติที่น้องให้ พี่ต้องเป็นผู้นำ เป็นผู้สร้างแรงบันดาลใจ ถ่ายทอดความรู้ประสบการณ์ให้กับรุ่นน้อง เพราะในอนาคตพวกเขาเหล่านั้นจะเป็นกำลังสำคัญในการรับภาระและพัฒนากระทรวงศึกษาธิการของเราต่อไป


ความคิดเห็น

ข่าวฮอตชัดทุกกระแส

วิเคราะห์ เจาะลึก วัตถุมงคลหลวงพ่อพัฒน์ วัดห้วยด้วน

“ธรรมาภิบาล”เร่งหารือ กกต.ให้จัดการเลือกตั้งใหม่

ฟุตบอลสูงอายุชิงถ้วย ร.10 68 ทีมร่วมฟาดแข้ง

ชมรมทหารพราน ค่ายปักธงชัย แจกข้าวสาร อาหารแห้ง ณ​ ชุมชนชาวคลองลัดภาชี

ราชกรีฑาสโมสรจัดศึกกีฬาม้าแข่งไร้พนันชิงชัยแบบนิวนอร์มัล

ไทย ต้านไม่ไหว พ่ายญี่ปุ่น 0-7

ทนายอนันต์ชัย โพสต์ FB ระบุ