'รองโจ๊ก' สั่งดำเนินคดีเด็ดขาด ตม.
'รองโจ๊ก' สั่งดำเนินคดีเด็ดขาด ตม.อุ้มชาวจีนรีดเงินกว่า 10 ล้านบาท!!
จากกรณีเมื่อวันที่ 20 มี.ค.2566
ได้มี น.ส.นามี แซ่ลี อายุ 38 ปี ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สน.ดินแดง กรณีถูกกลุ่มชายฉกรรจ์อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง อุ้มขึ้นรถพร้อมเพื่อนชาวจีนเรียกเงินกว่า 10 ล้านบาทเพื่อแลกกับการปล่อยตัว ตามที่สื่อมวลชนและโซเชียลมีเดียได้นำเสนอไปแล้วนั้น
กรณีดังกล่าว พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.ได้สั่งการให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.สืบสวนติดตามจับกุมกลุ่มผู้ก่อเหตุในคดีดังกล่าวโดยเร่งด่วน เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์ที่อาจมีเจ้าหน้าที่รัฐมีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำผิด และเป็นที่สนใจของสื่อมวลชนและประชาชน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จึงได้สั่งการชุดสืบสวนให้เร่งสืบสวนติดตามจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาดังกล่าว นำมาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด
จากการสืบสวนพบว่า เมื่อวันที่ 10 มี.ค. 2566 ขณะที่ผู้เสียหายและเพื่อนชาวจีนกำลังกลับบ้านภายในซอยตระกูลสุข แขวง/เขตดินแดง กทม.ได้มีกลุ่มชายฉกรรจ์ประมาณ 5 คน ขับรถจำนวน 3 คัน มาจอดที่หน้าบ้าน แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจขอตรวจสอบเอกสารประจำตัว และได้เชิญตัวทั้งสองคนขึ้นรถมุ่งหน้าไปยังศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ระหว่างอยู่ในรถกลุ่มชายดังกล่าวได้พยายามเจรจาเพื่อให้เพื่อนของผู้เสียหายจ่ายเงินเพื่อแลกกับการปล่อยตัว โดยเรียกเงินแปลงเป็นเงินไทยถึง 10 ล้านบาท และให้ผู้เสียหายซื้อเป็นเงินสกุล USDT แล้วโอนให้กับผู้ต้องหา ระหว่างพูดคุยได้มีการขับรถวนภายในพื้นที่แจ้งวัฒนะ ก่อนที่เพื่อนของผู้เสียหายจะยินยอมจ่ายเงินจำนวนดังกล่าว และถูกปล่อยตัวที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสอบปากคำผู้เสียหาย และรวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัดสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและออกหมายจับได้จำนวน 4 ราย ประกอบด้วย
1.พ.ต.ต.สรวิศ อินทร์ลับ สว.กก.สืบสวน บก.ตม.1
2.พ.ต.ต.จิรภัทร บุญนำ สว.กก.สืบสวน บก.ตม.1
3.ร.ต.ท.สุริยะ รุกขชาติ รอง สว.สืบสวน บก.ตม.1
4.ด.ต.พีระศักดิ์ ยิ้มไพบูลย์ ผบ.หมู่สืบสวน บก.ตม.1
โดยจะดำเนินคดีในความผิดฐาน ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมต่อสิ่งนั้น และเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้น การปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า คดีนี้เป็นคดีอุกฉกรรจ์ที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำผิด โดยมีพฤติการณ์ในการอุ้มผู้เสียหายไปข่มขู่เรียกรับผลประโยชน์เพื่อแลกกับการปล่อยตัวให้พ้นจากการจับกุม ซึ่งเป็นสิ่งที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่พึงกระทำ จึงได้สั่งการให้ชุดสืบสวนติดตามจับกุมเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีโดยเด็ดขาด นอกจากนี้ยังได้สั่งการให้สืบสวนขยายผลเพิ่มเติม หากพบมีผู้ที่เกี่ยวข้องในการกระทำผิดอีกก็จะนำตัวมาดำเนินคดีโดยไม่มีละเว้น
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น