'รองโจ๊ก'สั่งเร่งติดตามแก๊งค์ชาวจีน

'รองโจ๊ก'สั่งเร่งติดตามแก๊งค์ชาวจีนอุ้มเรียกค่าไถ่หนองปรือ กำชับเร่งออกหมายแดงอินเตอร์โพลตามจับคนร้ายหนีต่างประเทศ !!

จากกรณีเมื่อวันที่ 20 มี.ค.66 เวลา 9.00 น.
เกิดเหตุผู้เสียหายชาวจีน 2 ราย ถูกแก๊งค์คนร้ายชาวจีนอุ้มขึ้นรถหลังจากส่งลูกไปโรงเรียน จากนั้นได้เรียกค่าไถ่จากสามีเป็นเงิน 5 แสนบาทโดยให้จ่ายเป็นเงินสกุล USDT ก่อนบินหลบหนีต่างประเทศ เหตุเกิดในพื้นที่ สภ.หนองปรือ ภ.จว.ชลบุรี ตามที่สื่อมวลชนและโซเชียลมีเดียได้นำเสนอไปแล้วนั้น
กรณีดังกล่าว พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.ได้สั่งการให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.เร่งสืบสวนติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่ก่อเหตุในคดีดังกล่าวโดยเร็ว เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญที่ประชาชนทั้งชายไทยและชาวต่างชาติให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศไทย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ฯ จึงได้สั่งการให้ พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.ภ.2, พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ กิจจาหาญ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี และ พ.ต.อ.ทวี กุดแถลง ผกก.สภ.หนองปรือ เร่งสืบสวนจับกุมคนร้ายในคดีดังกล่าวมาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด
จากการสืบสวนทราบว่า การก่อเหตุครั้งนี้มีการเตรียมการวางแผนเป็นอย่างดี เชื่อว่าแก๊งค์คนจีนดังกล่าวได้วางแผนกันมาจากประเทศจีน โดยมีการตรวจสอบข้อมูลของผู้เสียหายมาก่อน จนทราบว่าผู้เสียหายมีการใช้ชีวิตประจำวันอย่างไร และมีทรัพย์สิน จากนั้นจึงได้บินมายังประเทศไทยจำนวน 4 ราย และเข้าพักที่โรงแรมในเขตกรุงเทพมหานคร เพื่อเตรียมการวางแผนเข้าก่อเหตุ โดยมีเครือข่ายคนจีนในประเทศไทยสนับสนุนรถยนต์เพื่อใช้ในการก่อเหตุ จากนั้นได้ย้ายไปพักในโรงแรมในพื้นที่เมืองพัทยาเพื่อเตรียมเข้าก่อเหตุจริง โดยมีการศึกษาเส้นทางและสะกดรอยผู้เสียหาย จากนั้นตามวันเวลาเกิดเหตุจึงได้เข้าก่อเหตุดังกล่าว โดยได้อุ้มผู้เสียหายขึ้นรถของตนที่เตรียมมา และได้ขับรถของผู้เสียหายไปทิ้ง จากนั้นได้พาผู้เสียหายไปที่บริเวณเขายายร้า อ.บ้านฉาง จ.ระยอง โดยมีการเตรียมอุปกรณ์ยังชีพในป่าไปด้วย จากนั้นจึงได้ส่งคลิปวิดีโอไปให้กับสามีของผู้เสียหายเพื่อเรียกเงินค่าไถ่ และหลังจากได้เงินตามที่ต้องการแล้ว เวลาประมาณ 13.00 น.จึงได้ปล่อยตัวผู้เสียหายโดยให้เดินกลับเอง ก่อนจะรีบจองตั๋วเครื่องบินกลับประเทศจีนโดยทันที
หลังเกิดเหตุ ผู้เสียหายที่ถูกจับกุมตัวไปได้รับการช่วยเหลือโดยปลอดภัย และตำรวจสามารถสกัดการหลบหนีจนจับกุมตัวผู้ต้องหาได้จำนวน 1 ราย ที่สนามบินสุวรรณภูมิ จึงได้นำมาสอบถามและรวบรวมขยายผลจนสามารถขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหารวมทั้งสิ้น 4 ราย ประกอบด้วย

1. นายหู ไฮ่หยาง (Mr.Hu Hai Yang) (จับกุมได้)
2. นายเฉิน วาน (Mr.Chen Wan) (อ
3. นายเฉิน ฮัว (Mr.Chen Hua) 
4. นายอิน ตง (Mr.Yin Dong) 

นอกจากนี้ จากการสืบสวนยังพบว่า ฝ่ายผู้เสียหายจำนวน 3 คน มีพฤติการณ์ในการเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ จึงได้สั่งการให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย และให้มีการสืบสวนขยายผลเกี่ยวกับพฤติการณ์ต่อเนื่องว่า มีการเข้ามาในประเทศไทยเพื่อจุดประสงค์ใด หากพบการกระทำผิดเพิ่มเติมจะให้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมา มีการก่อเหตุในลักษณะที่เป็นแก๊งค์คนจีนเข้ามาอุ้มคนจีนเพื่อเรียกค่าไถ่มากขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทยเป็นอย่างมาก ท่าน ผบ.ตร. จึงได้สั่งการให้มาเร่งรัดการสืบสวนจับกุมผู้ต้องหาที่ก่อเหตุในคดีนี้โดยเร็ว ขณะนี้สามารถออกหมายจับผู้ก่อเหตุได้แล้วทั้งหมด 4 ราย จับกุมแล้ว 1 ราย ส่วนอีก 3 รายจะเร่งสั่งการ ตท.ประสานขอหมายแดงตำรวจสากล เพื่อประสานกับทางการจีนในการติดตามจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย เพื่อนำกลับมาดำเนินคดีที่ประเทศไทยต่อไป นอกจากนี้เจ้าหน้าที่สืบสวนยังพบข้อพิรุธบางอย่างของฝ่ายผู้เสียหาย เนื่องจากมีพฤติกรมหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย มีการรับรองบุตรจากหญิงชาวไทย เชื่อว่าอาจมีการว่าจ้างในการอุ้มบุญ นอกจากนี้ผู้เสียหายยังมีบัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย (บัตรชมพู) ดังนั้นจึงได้สั่งการให้ดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง และให้เจ้าหน้าที่สืบสวนตรวจสอบข้อมูลโดยละเอียดว่า กลุ่มผู้เสียหายหลบหนีเข้ามาทำอะไร หากพบว่ามีการกระทำผิดกฎหมายเพิ่มเติมก็จะสั่งให้มีการดำเนินคดีโดยเด็ดขาดต่อไป ทั้งนี้เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติว่า ประเทศไทยสามารถมอบความปลอดภัยให้กับประชาชนได้ และให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาโดยถูกต้องเป็นอย่างดี

ความคิดเห็น

ข่าวฮอตชัดทุกกระแส

วิเคราะห์ เจาะลึก วัตถุมงคลหลวงพ่อพัฒน์ วัดห้วยด้วน

“ธรรมาภิบาล”เร่งหารือ กกต.ให้จัดการเลือกตั้งใหม่

ฟุตบอลสูงอายุชิงถ้วย ร.10 68 ทีมร่วมฟาดแข้ง

ชมรมทหารพราน ค่ายปักธงชัย แจกข้าวสาร อาหารแห้ง ณ​ ชุมชนชาวคลองลัดภาชี

ราชกรีฑาสโมสรจัดศึกกีฬาม้าแข่งไร้พนันชิงชัยแบบนิวนอร์มัล

ไทย ต้านไม่ไหว พ่ายญี่ปุ่น 0-7

ทนายอนันต์ชัย โพสต์ FB ระบุ