เรือนจำ ภูเก็ต จัดประชุมหารือ

เรือนจำ ภูเก็ต จัดประชุมหารือคณะกรรมการกำหนดอัตราค่าจ้างแรงงานผู้ต้องขังประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 !!

วันที่ 28 มีนาคม 2566 เวลา14:00 น.

ณห้องประชุมกำลังใจชั้น 2 อาคารที่ทำการเรือนจำจังหวัดภูเก็ต นายกฤษณะ ทิพยจันทร์ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดภูเก็ตเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกำหนดอัตราค่าจ้างแรงงานประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 โดยมี คณะกรรมการฯเข้าร่วม อย่างพร้อมเพรียง

การประชุมในครั้งนี้สืบเนื่องจากด้วยกรมราชทัณฑ์ ได้แจ้งให้เรือนจำจังหวัดภูเก็ต ดำเนินการปรับปรุงและทบทวนงานผู้ต้องขัง โดยให้มีการทบทวนสัญญาจ้างงานทำของให้เป็นปัจจุบันร่วมกับคณะกรรมการภายนอกทุก 6 เดือน ดังนั้นเรือนจำจังหวัดภูก็ต จึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการกำหนดอัตราค่าจ้างเพื่อหาแนวทางการดำเนินงานด้านการฝึกวิชาชีพผู้ต้องขังและส่งเสริมทักษะการทำงาน (ด้านการรู้จ้างงานผู้ต้องขัง) ของเรือนจำให้มีประสิทธิภาพยั่งยืน มีความโปร่งใสและสอดรับกับแนวทางด้านสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานตามข้อกำหนดมาตรฐานขั้นต่ำแห่งสหประชาชาติว่าด้วยการปฏิบัติต่อผู้ต้องชัง (ข้อกำหนดแมนดาลา) และมาตรฐานแรงงานระหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิแรงงานข้ามชาติ (ILO) 

นายกฤษณะ ทิพยจันทร์ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ในส่วนของเรือนจำจังหวัดภูเก็ตได้มีการประกาศเจตนารมณ์ในการพัฒนาและยกระดับการฝึกวิชาชีพและส่งเสริมทักษะการทำงานผู้ต้องขังให้เป็นไปตามหลักมาตรฐานสากลนำไปสู่องค์กรต้นแบบด้านสิทธิมนุษยชน เรือนจำ จังหวัดภูเก็ต โดยมีการส่งเสริมส่งเสริมอาชีพอย่างหลากหลาย เช่น โครงการฝึกอบรมวิชาชีพซักรีดเสื้อผ้าผู้ต้องขัง  โครงการเสริมทักษะปักผ้าปาเต๊ะด้วยลูกปัด โครงการรับจ้างปักเครื่องหมายข้าราชการ พนักงานราชการ เป็นต้น นอกจากนี้ได้บันทึกข้อตกลงกับสถานประกอบการส่งผู้ต้องขังที่มีความประพฤติดีไปทำงานในสถานประกอบการภายนอกเรือนจำ ณ อู่ต่อเรือของบริษัทเริงวารี สปีดโบ๊ต จำกัด

สำหรับผลการประชุมคณะกรรมการกำหนดค่าจ้างงานผู้ต้องขังได้มีมติ ให้เพิ่มอัตราค่าซักรีดเสื้อผ้าจากเดิมเดือนละ 300 บาทเป็นเดือนละ 350 บาทอัตราค่าจ้างซักอย่างเดียวจากเดิมราคา 2 บาทต่อชิ้นเป็นราคา 3 บาทต่อชิ้นและอัตราค่าจ้างรีดอย่างเดียวจากเดิมราคา 2 บาทต่อชิ้นเป็นราคา 3 บาทต่อชิ้น

ในส่วนของอัตราค่าจ้างปักลูกปัดบนผืนผ้าจากเดิมชิ้นละ 500 บาทเป็นชิ้นละ 600 บาท

โดยโครงการเหล่านี้ถือเป็นการส่งเสริมและฝึกทักษะด้านอาชีพให้กับผู้ต้องขังได้มีรายได้และมีอาชีพที่มั่นคงเตรียมพร้อมคืนคนดีสู่สังคมในอนาคต