ศุลกากรทุบทำลายบุหรี่ไฟฟ้า
กรมศุลกากรทุบทำลายบุหรี่ไฟฟ้าและของกลางอื่นที่คดีถึงที่สุดแล้ว มูลค่ากว่า 72 ล้านบาท
วันนี้ (23 กุมภาพันธ์ 2566) เวลา 10.00 น.
ณ อาคารสโมสรศุลกากร กรมศุลกากร
นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ รองอธิบดีกรมศุลกากร รักษาการในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและบริหารการจัดเก็บภาษี ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร แถลงข่าวการทำลายของกลางในความผิดตามกฎหมายศุลกากรที่คดีสิ้นสุดแล้ว มูลค่ากว่า 72 ล้านบาท
คดีแรกคือการระดมการกวาดล้างบุหรี่ไฟฟ้า และทำลายของกลางในในความผิดตามกฎหมายศุลกากรที่คดีสิ้นสุดแล้ว มูลค่ากว่า 72 ล้านบาท โดยก่อนหน้านี้กรมศุลกากรทำงานร่วมกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ และกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี
ได้จับกุมและตรวจยึดสินค้าจากห้างร้าน ทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ รวมถึงโกดัง ซึ่งประกอบด้วย เครื่องบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า หัวบุหรี่ไฟฟ้าที่ใช้สำหรับดูด และอุปกรณ์อื่น ๆ ที่มีการลักลอบนำเข้ามาในประเทศไทยมาโดยตลอด และมีการดำเนินคดีจนถึงที่สุด ซึ่งของกลางดังกล่าวตกเป็นของแผ่นดินและรอการทำลาย โดยของกลางที่นำไปทำลายครั้งนี้ ประกอบด้วย เครื่องบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า หัวบุหรี่ไฟฟ้าที่ใช้สำหรับดูด และอุปกรณ์อื่น ๆ รวมทั้งสิ้น 874,535ชิ้น มูลค่าความเสียหาย 72,019,523.46 บาท
นายพันธ์ทอง กล่าวอีกว่า ส่วนคดีที่ 2 คือการตรวจยึดสินค้าลักลอบหนีศุลกากรซึ่งเป็นสินค้าที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา โดยก่อนหน้านี้กองสืบสวนและปราบปราม กรมศุลกากรได้รับแจ้งว่ามีการเก็บสินค้าที่มีถิ่นกำเนิดต่างประเทศไว้ในโกดังสินค้า พื้นที่พันท้ายนรสิงห์ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร จึงนำกำลังเข้าตรวจค้น
นายพันธ์ทอง กล่าวด้วยว่า พบสินค้าประเภทกระเป๋า รองเท้า ที่มีถิ่นกำเนิดในต่างประเทศและไม่พบเอกสารผ่านพิธีการศุลกากรมาสำแดงจำนวนมาก จึงถือว่ามีความผิดในฐานความผิด มาตรา242 และมาตรา 246 ประกอบมาตร 166 และมาตรา 167 แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560 จึงได้ทำการตรวจยึดเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
ทั้งนี้ กรมศุลกากรเล็งเห็นและให้ความสำคัญกับการป้องกันและปราบปรามการลักลอบนำเข้าสินค้าที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ตามความร่วมมือระหว่างประเทศ เพื่อให้เกิดการยอมรับในระดับสากล ร่วมถึงการสร้างมาตรฐานการป้องกันสังคม เพื่อประโยชน์ทางการค้าของผู้ประกอบการที่สุจริตและประชาชนทั่วไป
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น