เลขาธิการ ศอ.บต. เปิดกิจกรรม

เลขาธิการ ศอ.บต. เปิดกิจกรรมสานสัมพันธ์คนไทยในพื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา สร้างความเข้าใจและเชื่อมั่นให้กับชาวไทยเชื้อสายจีนในพื้นที่ร่วมในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้

กิจกรรมสานสัมพันธ์ พี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีน เนื่องในโอกาส เฉลิมฉลองเทศกาลวันตรุษจีนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ร่วมกับส่วนราชการในพื้นที่ จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างหน่วยงานภาครัฐกับประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตลอดจนเป็นการสืบสาน และอนุรักษ์ประเพณีอันดีงามของวันตรุษจีน เป็นการเฉลิมฉลองในช่วงเทศกาลวันตรุษจีน ตลอดจนให้เกิดความตระหนักในคุณค่าของประเพณีและวัฒนธรรมจีนอีกด้วย ทั้งนี้กิจกรรมดังกล่าวถือเป็นบทบาทสำคัญที่ทางศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ที่ให้ความสำคัญกับทุกเชื้อชาติ ศาสนา และสังคมพหุวัฒนธรรมที่อยู่ในพื้นที่

เช่นเดียวกันกับค่ำคืนวันนี้ (30 มกราคม 2566) เวลา 19.00 น. ที่ ห้องประชุมโรงเรียนจงฝามูลนิธิเบตง เทศบาลเมืองเบตง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เป็นประธานพิธีเปิดกิจกรรมสานสัมพันธ์คนไทยในจังหวัดชายแดนภาคใต้ สังคมหลากหลายวัฒนธรรม เพื่อการพัฒนาและแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ของอำเภอเบตง จังหวัดยะลา ซึ่งทาง ศอ.บต. ร่วมกับมูลนิธิสมาคมไทยเชื้อสายจีนในอำเภอเบตง จังหวัดยะลา ร่วมกันจัดขึ้น โดยมี นาวาเอกจักรพงษ์ อภิมหาธรรม  ผู้อำนวยการกองส่งเสริมและสนับสนุนงานพัฒนาฝ่ายพลเรือน ศอ.บต.  พลตำรวจตรี ปราบพาล มีมงคล  รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9  นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอ เบตง พันตำรวจโท ต่อพันธุ์ ปุสันเทียะ  ประธานชมรมชาวไทยเชื้อสายจีนอำเภอเบตง ตลอดจนหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ท่ามกลางประชาชนชาวไทยเชื้อสายจีนในพื้นที่อำเภอเบตง และชาวจีนจากประเทศมาเลเซีย เข้าร่วมกว่า 1,200 คน

พลเรือตรีสมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวว่า การสร้างพื้นที่ยั่งยืนนั้นจะต้องเริ่มด้วยการให้พี่น้องประชาชนมีสัญญาประชาคมที่ผูกพันกันเป็นหนึ่งเดียวคือ การสร้างสังคมพหุวัฒนธรรมให้เข้มแข็ง โดยรัฐบาลต้องดูแลทุกเชื้อชาติทุกศาสนา ตามนโยบายสำคัญของรัฐบาล โดย ศอ.บต.ได้ขับเคลื่อนในโครงการต่างๆ โดยเฉพาะโครงการเมืองต้นแบบสามเหลี่ยม มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน อำเภอเบตงเป็นพื้นที่ที่มีความสำคัญเป็นเมืองต้นแบบของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภาคใต้ และเป็นศูนย์กลางของภาคใต้ ในเรื่องของความงดงาม ความเจริญทางด้านเศรษฐกิจ ในวันนี้พื้นที่บ้านเราจะก้าวหน้าเดินหน้าอย่างไร ก็อยู่ที่พี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีนเป็นกำลังหลักในการพัฒนา

เลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวอีกว่า อำเภอเบตง คือหมุดหมายที่สำคัญของประเทศ อำเภอเบตงเป็นแหล่งท่องเที่ยวของประเทศและทั่วโลก อำเภอเบตง จะเป็นพื้นที่จัดงานวิ่งเทรลระดับโลกอีกไม่กี่วันข้างหน้า และอำเภอเบตงเป็นเมืองเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศอีกด้วย ดังนั้นไม่แปลกที่พี่น้องชาวไทยในพื้นที่อำเภอเบตงจะอยู่ร่วมกันด้วยความรัก ความสามัคคี และช่วยเหลือซึ่งกันและกัน โดยไม่มีการแบ่งแยก

ด้าน นายอำเภอเบตง  กล่าวด้วยว่า  กิจกรรมในค่ำคืนนี้ มีผู้คนเข้าร่วมมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เชื้อสายพุทธ มุสลิม คริสเตียน และเชื้อสายจีน ถือเป็นกิจกรรมที่อบอุ่นมาก เพราะอำเภอเบตง ถือเป็นอำเภอที่มีสังคมพหุวัฒนธรรมอย่างแท้จริง ทุกคนอยู่ด้วยความรัก ความสามัคคี และพี่น้องกัน 

ทั้งนี้ กิจกรรมการสร้างความเข้าใจ และความเชื่อมั่นให้กับชาวไทยเชื้อสายจีน เพื่อการพัฒนาและแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี  โดยจะจัดขึ้นจำนวน 6 ครั้ง แบ่งเป็น อำเภอสายบุรี, จังหวัดปัตตานี, จังหวัดนราธิวาส, อำเภอสุไหง–โกลก อำเภอเบตง และจังหวัดยะลา โดยทุกพื้นที่ในการจัดกิจกรรม ได้เปิดโอกาสให้ชาวไทยเชื้อสายจีนในพื้นที่ได้เปิดโอกาสได้พบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพื่อนำข้อมูลที่ได้รับปรับใช้ให้เกิดสันติสุขในพื้นที่ โดยเฉพาะอำเภอเบตง ซึ่งเป็นอำเภอที่มีความสำคัญด้านแหล่งการท่องเที่ยว ที่ได้รับการตอบรับจากนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ สามารถที่จะเปิดพื้นที่และสร้างรายได้ให้พื้นที่มากขึ้นทุกปี สำหรับบรรยากาศภายในกิจกรรมมีการใช้ภาษาจีนสลับกับภาษาไทย ได้รับความสนใจจากผู้เข้าร่วมตลอดงานอีกด้วย                           โยธิน ประชามติรัฐ/ข่าว อับดุมานะ ดอฆอ/ภาพ อ.เบตง จ.ยะลา รายงาน

ความคิดเห็น

ข่าวฮอตชัดทุกกระแส

วิเคราะห์ เจาะลึก วัตถุมงคลหลวงพ่อพัฒน์ วัดห้วยด้วน

“ธรรมาภิบาล”เร่งหารือ กกต.ให้จัดการเลือกตั้งใหม่

ฟุตบอลสูงอายุชิงถ้วย ร.10 68 ทีมร่วมฟาดแข้ง

ชมรมทหารพราน ค่ายปักธงชัย แจกข้าวสาร อาหารแห้ง ณ​ ชุมชนชาวคลองลัดภาชี

ราชกรีฑาสโมสรจัดศึกกีฬาม้าแข่งไร้พนันชิงชัยแบบนิวนอร์มัล

ไทย ต้านไม่ไหว พ่ายญี่ปุ่น 0-7

ทนายอนันต์ชัย โพสต์ FB ระบุ