กองทัพเรือจัดพิธีวางพานพุ่ม

กองทัพเรือจัดพิธีวางพานพุ่มถวายสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เนื่องในวันสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ประจำปี 2565  

เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2565 เวลา 10.00 น.
 พลเรือเอก เชิงชาย  ชมเชิงแพทย์  ผู้บัญชาการทหารเรือ พร้อมด้วย พลเรือเอก ชาติชาย ศรีวรขาน  ประธานมูลนิธิอนุรักษ์โบราณสถานในพระราชวังเดิม  พลเรือเอก ประเจตน์  ศิริเดช อดีตประธานมูลนิธิฯ แพทย์หญิง คุณหญิง นงนุช ศิริเดช รองประธานมูลนิธิฯ  พร้อมคณะนายทหารชั้นผู้ใหญ่ของกองทัพเรือประกอบพิธีวางพานพุ่มถวายสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช 
เนื่องในวันสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ประจำปี 2565 ณ กองบัญชาการกองทัพเรือ พระราชวังเดิม 
เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร

  สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงเป็นพระปฐมกษัตริย์และกษัตริย์พระองค์เดียวในสมัยกรุงธนบุรี 
เสด็จพระราชสมภพ เมื่อ 17 เมษายน พุทธศักราช 2277 พระองค์ทรงมีพื้นฐานเป็นสามัญชน กำเนิดในตระกูลแต้ 
พระนามเดิมว่า สิน ในปีพุทธศักราช 2308 - 2309 พระองค์ทรงดำรงตำแหน่ง “พระยาตาก” ได้นำไพร่พลมาสมทบเพื่อป้องกันกรุงศรีอยุธยาระหว่างที่พม่าล้อมกรุงศรีอยุธยาอยู่ และทำการต่อสู้จนเป็นที่เลื่องลือว่า เป็นแม่ทัพที่เข้มแข็งมากที่สุดคนหนึ่ง ต่อมาพระองค์ท่านได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพระยาวชิรปราการ เจ้าเมืองกำแพงเพชร จนเมื่อ 4 มกราคม พุทธศักราช 2310 (ก่อนที่จะเสียกรุงศรีอยุธยาให้แก่พม่าเมื่อ 8 เมษายน 2310) พระยาตากได้รวบรวมกำลังตีฝ่าวงล้อมของพม่า เพื่อที่จะกลับมากู้เอกราชต่อไป
จากหลักฐานตามพระราชพงศาวดาร พระยาตากได้รวบรวมกำลังทหารประมาณ 500 คน มุ่งไปทางฝั่งทะเลด้านทิศตะวันออก ระหว่างเส้นทางที่ผ่านไปนั้นได้ปะทะกับกองกำลังของพม่าหลายครั้ง แต่ก็สามารถตีฝ่าไปได้ทุกครั้ง และสามารถรวบรวมไพร่พลตลอดจนอาวุธยุทโธปกรณ์ได้มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในวันที่ 8 เมษายน พุทธศักราช 2310 พม่ายึดกรุงศรีอยุธยาได้ เจ้าเมืองใหญ่ ๆ พากันตั้งตัวเป็นใหญ่และควบคุมหัวเมืองใกล้เคียงไว้ในอำนาจ ซึ่งหลังจากพระยาตากยึดเมืองจันทบุรีสำเร็จก็ได้ประกาศตั้งตัวเป็นอิสระ และจัดตั้งกองทัพขึ้นที่นี่ โดยมีผู้คนสมัครใจเข้ามาร่วมด้วยเป็นจำนวนมาก

หลังฤดูมรสุมในเดือนตุลาคม พุทธศักราช 2310 พระยาตากได้ยกกองทัพเรือออกจากจันทบุรีล่องมา 
ตามฝั่งทะเลในอ่าวไทย จนถึงปากแม่น้ำเจ้าพระยา และได้ต่อสู้จนยึดกรุงธนบุรีคืนจากพม่าได้ จากนั้นได้ยกกองทัพเรือต่อไปถึงกรุงศรีอยุธยา เข้าโจมตีค่ายโพธิ์สามต้น เมื่อ 7 พฤศจิกายน พุทธศักราช 2310 
จนสามารถกอบกู้เอกราชให้ชาติไทยได้เป็นผลสำเร็จ โดยใช้เวลาเพียง 7 เดือนนับตั้งแต่เสียกรุงศรีอยุธยาให้กับพม่า หลังจากนั้นทรงเลือกกรุงธนบุรีเป็นราชธานีแห่งใหม่แทนกรุงศรีอยุธยา ที่อยู่ในสภาพทรุดโทรมจนไม่สามารถบูรณะให้กลับมาสู่สภาพเดิมได้ เหตุผลที่พระองค์ทรงเลือกกรุงธนบุรีเป็นราชธานีนั้น สันนิษฐานว่าเนื่องจากเป็นเมืองขนาดเล็ก เหมาะสมกับกำลังไพร่พลที่พระองค์มีอยู่ในขณะนั้น อีกทั้งยังเป็นเมืองหน้าด่านที่สำคัญอยู่ใกล้ทะเล
สามารถควบคุมเส้นทางเดินเรือเข้าออก มีป้อมปราการเป็นชัยภูมิที่ดี รวมทั้งตั้งอยู่ใกล้ปากแม่น้ำ 
และสามารถเคลื่อนย้ายกำลังทางน้ำเพื่อหลบหลีกศัตรูออกสู่ทะเลได้สะดวก ทั้งนี้ได้โปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระราชวังหลวง (พระราชวังเดิมในปัจจุบัน) ขึ้นทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา ในพื้นที่ที่เคยเป็นที่ตั้งของป้อมวิไชยเยนทร์เดิม (ซึ่งภายหลังได้รับการเปลี่ยนชื่อ เป็นป้อมวิไชยประสิทธิ์) อาณาเขตของพระราชวังเดิมในสมัยนั้นมีพื้นที่ตั้งแต่วิไชยประสิทธิ์ขึ้นมาจนถึงคลองเหนือวัดอรุณราชวราราม (คลองนครบาล) โดยรวมวัดแจ้ง (วัดอรุณราชวราราม) และวัดท้ายตลาด (วัดโมลีโลกยาราม) เข้าไปในเขตพระราชวัง 
ต่อมาเมื่อ 28 ธันวาคม  2311 ได้ทรงปราบดาภิเษกขึ้นเป็นพระเจ้าแผ่นดิน ทรงพระนามว่า 
"พระศรีสรรเพชร สมเด็จบรมธรรมิกราชาธิราชรามาธิบดี บรมจักรพรรดิศรบวรราชาธิบดนทร์ หริหรินทร์ธาดา
ธิบดี ศรีสุวิบูลย์ คุณรุจิตร ฤทธิราเมศวร บรมธรรมิกราชเดโชชัย พรหมเทพาดิเทพ ตรีภูวนาธิเบศร์  โลกเชษฐวิสุทธิ์ มกุฎประเทศคตามหาพุทธังกูร บรมนาถบพิตร พระพุทธเจ้าอยู่หัว ณ กรุงเทพมหานคร บวรทวาราวดีศรีอยุธยา มหาดิลกภพนพรัฐ ราชธานีบรีรมย์อุดม พระราชนิเวศมหาสถาน” แต่ประชาชนนิยมเรียกว่า "พระเจ้าตากสิน" 
สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เสด็จสวรรคต ในวันเสาร์ เดือน 5 แรม 9 ค่ำ  จุลศักราช 1144  ปีขาล จัตวาศกก่อนเที่ยงวัน  ตรงกับวันที่ 6 เมษายน 2325 
    จากการที่สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ได้ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อแผ่นดินไทยเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะได้ทรงกอบกู้เอกราชให้ชาติไทย รัฐบาลจึงได้ประกาศให้วันที่ 28 ธันวาคม ของทุกปี ซึ่งตรงกับวันที่ทรงปราบดาภิเษกเป็นพระมหากษัตริย์ เป็น "วันสมเด็จพระเจ้าตากสิน" นอกจากนั้นคณะรัฐมนตรียังมีมติให้ถวาย พระราชสมัญญานามว่า "สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช" 
  
    สำหรับพระราชวังกรุงธนบุรี หรือ พระราชวังเดิมในปัจจุบันได้เป็นที่ตั้งของกองบัญชาการกองทัพเรือ 
ซึ่งในอดีตเคยเป็นที่ประทับและว่าราชการของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช นับเป็นโบราณสถานที่สำคัญยิ่งแห่งหนึ่งในฝั่งธนบุรี และเป็นสถานที่เพียงไม่กี่แห่งที่แสดงถึงสถาปัตยกรรมในสมัยกรุงธนบุรี โดยโบราณสถานสำคัญในพระราชวังเดิมประกอบด้วย ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช พระอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ตำหนักเก๋งคู่ ท้องพระโรง  ตำหนักเก๋งสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ป้อมวิชัยประสิทธิ์ 

กองประชาสัมพันธ์
สำนักงานเลขานุการกองทัพเรือ

ความคิดเห็น

ข่าวฮอตชัดทุกกระแส

วิเคราะห์ เจาะลึก วัตถุมงคลหลวงพ่อพัฒน์ วัดห้วยด้วน

“ธรรมาภิบาล”เร่งหารือ กกต.ให้จัดการเลือกตั้งใหม่

ฟุตบอลสูงอายุชิงถ้วย ร.10 68 ทีมร่วมฟาดแข้ง

ชมรมทหารพราน ค่ายปักธงชัย แจกข้าวสาร อาหารแห้ง ณ​ ชุมชนชาวคลองลัดภาชี

ราชกรีฑาสโมสรจัดศึกกีฬาม้าแข่งไร้พนันชิงชัยแบบนิวนอร์มัล

ไทย ต้านไม่ไหว พ่ายญี่ปุ่น 0-7

ทนายอนันต์ชัย โพสต์ FB ระบุ