ตม.เชียงใหม่กำหนดมาตรการคัดกรองคนต่างด้าว
ตม.เชียงใหม่กำหนดมาตรการในการคัดกรองคนต่างด้าว
สืบเนื่องจากคนต่างด้าวที่เข้ามาเป็นอาสาสมัครในมูลนิธิ หรือเข้ามาศึกษาในสถานศึกษาของ
รัฐหรือเอกชน บางคน บางกลุ่ม อาศัยสิทธิเพื่อให้ได้มาซึ่งวีซ่าในการอยู่ในราชอาณาจักร แต่มีพฤติกรรมแอบ
แฝงกระทำความผิดกฎหมาย มีส่วนเกี่ยวข้องกับองค์กรอาชญากรรม หรือแอบแฝงเข้ามากระทำผิดกฎหมายใน
ด้านอื่นๆ เป็นจำนวนมาก พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จึงได้สั่งการให้
สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองหามาตรการป้องกันการแอบแฝงเข้ามาอยู่ของคนต่างด้าวในลักษณะดังกล่าว
พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พล.ต.ต.ภาณุมาศ บุญญลักษม์
รองผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จึงได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.ศุภณัฎฐ์ เจริญเรืองสกุล ผู้บังคับการ
ตรวจคนเข้าเมือง 5 สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดเพิ่มความเข้มในการตรวจสอบเอกสารการขออยู่ต่อ สร้าง
ความรับรู้ให้กับสถานศึกษา มูลนิธิ สมาคม เพื่อมิให้คนต่างด้าวใช้เป็นเหตุผลในการแอบแฝงเข้ามากระทำความผิด ตม.จว.เชียงใหม่
โดย พ.ต.อ.วีรวัฒน์ นิลวัตร ผกก.ตม.จว.เชียงใหม่ และเจ้าหน้าที่ในสังกัด จึงได้จัดประชุมกับหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด
เชียงใหม่ ที่ทำการปกครองจังหวัดเชียงใหม่ สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดเชียงใหม่ เจ้าหน้าที่มูลนิธิ สมาคม
และเจ้าหน้าที่จากสถานศึกษาของรัฐหรือเอกชน ในหัวข้อ “การประชุมซักซ้อมความเข้าใจ และกำหนด
มาตรการในการคัดกรองคนต่างด้าว” จัดขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 10 พ.ย.2565 ณ ห้องประชุม NSP RICE GRAIN
AUDITORIUM อุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (CMU STeP) จว.เชียงใหม่ โดยมี
ผู้เข้าร่วมประชุม ดังนี้
1. มูลนิธิ 112 คน
2. โรงเรียนในระบบ 157 คน
3. โรงเรียนนอกระบบ 36 คน
4. ผู้สังเกตการณ์
- สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดเชียงใหม่ 5 คน
- สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดเชียงใหม่ 4 คน
- สำนักงานปกครองจังหวัดเชียงใหม่ 1 คน
ตม.จว.เชียงใหม่ หวังว่ามาตรการการซักซ้อมเพื่อเป็นการป้องกันมิให้คนต่างด้าวใช้เหตุผลใน
การขอออยู่ต่อในมูลนิธิ และสถานศึกษา แอบแฝงเข้ามาอยู่ในประเทศไทยและกระทำผิดกฎหมาย
ซึ่งเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบและติดตามพฤติการณ์คนต่างด้าวอย่างใกล้ชิด หากพบว่าอยู่ไม่ตรงตามวัตถุประสงค์ หรือกระทำ
ผิดกฎหมาย จะเสนอให้มีการเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร และบันทึกข้อมูลเป็นบุคคลต้องห้ามมิให้เดินทางเข้าราชอาณาจักร
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น