“กีรติ” จบที่ 5 ศึกเสือภูเขาเอเชีย

“กีรติ” จบที่ 5 ศึกเสือภูเขาเอเชีย

“กีรติ สุขประสาท” สวมหัวใจสิงห์สู้อย่างเต็มที่ ก่อนคว้าอันดับที่ 5 ของเอเชียมาครอง ในรายการครอสคันทรี่ ศึกจักรยานเสือภูเขาชิงแชมป์เอเชีย ครั้งที่ 27 ที่เกาหลีใต้ ขณะที่ 2 สาว “ศุภักษร นันตะนะ” และ “วรินทร เพ็ชรประพันธ์” พ่ายความแข็งแกร่งนักปั่นจีนทำให้โดนตัดเวลา ด้าน “เสธ.หมึก” เผยนักปั่นไทยยังขาดเรื่องความแข็งแกร่งทนทาน เตรียมระดมสมองแก้ไขจุดบกพร่อง และหาโค้ชต่างชาติมาสร้างความแข็งแกร่งให้นักกีฬา โดยใช้วิทยาศาสตร์การกีฬาทุกแขนงมาช่วย เพื่อเป้าหมายการคว้าชัยชนะในกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่กัมพูชา ในปีหน้า

“เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจาก “โค้ชปู” นาวาอากาศตรี สุภัทร ศรีไสว หัวหน้าผู้ฝึกสอนและผู้ควบคุมทีมจักรยานเสือภูเขาทีมชาติไทย ซึ่งไปร่วมการแข่งขันจักรยานเสือภูเขาชิงแชมป์เอเชีย ครั้งที่ 27 ระหว่างวันที่ 19-23 ตุลาคม ที่เมืองซุนชอน ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นรายการใหญ่ระดับคอนติเนนตัล แชมเปี้ยนชิปส์ มีคะแนนสะสมสูงให้นักกีฬาเก็บคะแนนเพื่อคัดเลือกไปโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ล่าสุด เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม เป็นการแข่งขันรายการครอสคันทรี่ รอบชิงชนะเลิศ รุ่นประชาชนชาย-หญิง รวม 2 เหรียญทอง

พลเอกเดชา กล่าวว่า การแข่งขันรุ่นประชาชนชาย ระยะทาง 20.45 กม. ปรากฏว่า “โดด” ส.อ.กีรติ สุขประสาท นักปั่นหนึ่งเดียวของไทย สวมหัวใจสิงห์สู้อย่างเต็มที่ ก่อนคว้าอันดับที่ 5 ของเอเชียมาครอง และเป็นที่ 2 ของอาเซียน ด้วยเวลา 1.33.06 ชั่วโมง พลาดการคว้าเหรียญรางวัลไปอย่างน่าเสียดาย ส่วนแชมป์เป็นของ ริกิ คีตาบายาชิ จากญี่ปุ่น เวลา 1.29.30 ชั่วโมง, ที่ 2 มิโน คิม จากเกาหลีใต้ เวลา 1.30.05 ชั่วโมง และที่ 3 ไซนัล ฟานินี นักปั่นจากอินโดนีเซีย เจ้าของเหรียญทองกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 เวลา 1.30.31 ชั่วโมง ขณะที่รุ่นประชาชนหญิง ระยะทาง 16.45 กม. นักปั่นไทย 2 คน คือ “ไก่” ส.อ.หญิง ศุภักษร นันตะนะ และ “พลอย” น.ส.วรินทร เพ็ชรประพันธ์ โดนตัดเวลาทั้งคู่ วรินทร จบอันดับที่ 10 ส่วน ศุภักษร จบอันดับที่ 12 ด้านแชมป์ได้แก่ ฮอง เฟ็ง ลี จากจีน เวลา 1.23.38 ชั่วโมง, ที่ 2 ไซ เซียะ หม่า จากจีน เวลา 1.27.13 ชั่วโมง, ที่ 3 อาลินา ซาคูโลวา จากคาซัคสถาน เวลา 1.30.14 ชั่วโมง

นายกสองล้อไทย เจ้าของฉายา “หมึกต้นแบบ” กล่าวต่อไปว่า จากผลการแข่งขันต้องยอมรับว่านักกีฬาเสือภูเขาครอสคันทรี่ของไทย ทั้งชายและหญิงเรายังสู้เขาไม่ได้ เมื่อเทียบกับนักกีฬาจากญี่ปุ่น, เกาหลีใต้ และคาซัคสถาน เราจะต้องกลับมาพัฒนาอีกเยอะ นอกจากนี้การเตรียมตัวฝึกซ้อมก่อนเดินทางไปแข่งขันก็มีระยะเวลาสั้น ๆ เพียง 15 วัน การที่นักปั่นไทยทำผลงานได้ขนาดนี้ก็ถือว่าน่าพอใจในระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ผลการแข่งขันเป็นตัวชี้วัดได้ว่าการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่ประเทศกัมพูชา ในปีหน้า เราต้องเจอศึกหนักแน่นอน โดยเฉพาะนักปั่นจากอินโดนีเซีย และเวียดนาม ที่เป็นคู่แข่งสำคัญของไทย อีกประการหนึ่งนักปั่นไทยขาดเรื่องของความแข็งแกร่งและยืนระยะได้นานจนถึงเส้นชัย หรือ Endurance พูดง่าย ๆ คือแรงยังไม่ค่อยดี ทำให้ความเร็วตก ดังนั้นสตาฟฟ์โค้ชจะต้องเร่งแก้ไขในจุดนี้

“สำหรับเรื่องการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้แก่นักกีฬาเสือภูเขา ผมมีแนวคิดว่าจะจ้างโค้ชต่างประเทศมาฝึกซ้อมให้แก่นักปั่นไทย รวมทั้งเรื่องเทคนิคต่าง ๆ โดยใช้วิทยาศาสตร์การกีฬาทุกแขนงเข้ามาเสริม คาดว่าจะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 4 เดือนในการฝึกฝนนักกีฬาก่อนที่จะมีการแข่งขันซีเกมส์ โดยในวันอังคารที่ 25 ตุลาคม จะมีการประชุมหารือร่วมกับสตาฟฟ์โค้ชและนักกีฬาทุกคน เพื่อหาข้อบกพร่องแล้วนำมาปรับปรุงแก้ไข รวมทั้งระดมสมองวางแผนร่วมกัน โดยมีเป้าหมายหลักคือการคว้าชัยชนะในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่ประเทศกัมพูชา แต่การแข่งขันมันมีแพ้มีชนะ ผมก็ได้โทรศัพท์ไปให้กำลังใจนักกีฬาว่าขอให้สู้ต่อไป เรายังเหลือการแข่งขันอีก 1 ประเภท คือ ครอสคันทรี่ อิลิมิเนเตอร์ ชาย-หญิง ขอให้พี่น้องประชาชนชาวไทย ส่งแรงใจเชียร์นักปั่นไทยสู้ศึกชิงแชมป์เอเชียและคว้าชัยชนะมาให้ได้ ขอบคุณครับ” พลเอกเดชา กล่าวในตอนท้าย

ด้านโปรแกรมการแข่งขันวันที่ 23 ตุลาคม เป็นการแข่งขันวันสุดท้าย มีชิง 2 เหรียญทองจาก ครอสคันทรี่ อิลิมิเนเตอร์ รุ่นประชาชนชาย-หญิง เวลา 11.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น (เร็วกว่าประเทศไทย 2 ชั่วโมง) โดยนักกีฬาไทยที่จะลงแข่งขันมีรายชื่อดังต่อไปนี้ อิลิมิเนเตอร์ รุ่นประชาชนชาย นายเมธาสิทธิ์ บุญเสน่ห์, นายพูนศิริ ศิริมงคล, นายพลฉัตร นาคทองคำ และอิลิมิเนเตอร์ รุ่นประชาชนหญิง น.ส.วรินทร เพ็ชรประพันธ์, น.ส.ยลธนันท์ พลกล้า, จ.ท.หญิง วิภาวี ดีคาบาเลส.