“ผบช.น.” แถลงรวบขบวนการค้ามนุษย์ข้ามชาติ

“ผบช.น.” แถลงรวบขบวนการค้ามนุษย์ข้ามชาติ

วันจันทร์ ที่ 30 พ.ค. 65 เวลา 13.30 น. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น./โฆษก บช.น., พล.ต.ต.นิธิธร  จินตกานนท์ รอง ผบช.น./รองโฆษก บช.น., นายบัณฑิต ลีลาพตะ ผู้อำนวยการส่วนบังคับใช้กฎหมาย ป.ป.ส., พล.ต.ต.มานพ สุคนธ์ธนพัฒน์  ผบก.น.8, พล.ต.ต.สมบูรณ์  เทียนขาว  ผบก.สปพ., พ.ต.อ.ธีรศักดิ์ จันทราพิพัฒน์ ผกก.ดส. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมแถลง 3 คดีสำคัญ
1.คดีจับกุมแก๊งรับจำนำรถ ปล่อยเงินกู้คิดดอกเบี้ยโหด พื้นที่ บก.น.8
2. คดีการจับกุมเครือข่ายค้ามนุษย์ ของ กก.ดส.
3. คดี 191 จับกุมผู้ต้องหาขนกัญชากว่า 600 กิโลกรัม ณ ลานเอนกประสงค์ บช.น. /ทีมประชาสัมพันธ์ บช.น.

คดีที่1. “นครบาลรายงานผลการจับกุมแก๊งรับจำนำรถ ปล่อยเงินกู้คิดดอกเบี้ยโหด ให้เซ็นสัญญาเปล่าเตรียมยึดรถที่ขาดส่งดอก ผลงาน กก.สส.บก.น.8”
     
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.น.8 ได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้ไม่ประสงค์ออกนามว่ามีญาติติดพนันออนไลน์ มาขอยืมเงินแต่ตนเองไม่มีให้ ญาติจึงขอยืมรถมาจำนำกับhttp://xn--www-1kl1era3o.bkkjumnumrod.com/ แล้วชำระเงินล่าช้า จำนวน 2-3 วัน กลับถูกยึดรถที่นำไปจำนำ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.น.8 จึงทำการสืบสวนจนทราบว่ามีกลุ่มผู้ต้องหาแอบใช้สถานที่บริเวณชั้นใต้ดิน ชั้น B2 ภายในห้างสรรพสินค้าย่านศรีนครินทร์ รับจำนำรถทุกวันตั้งแต่เวลา 11.00 น. – 20.00 น. โดยให้ราคารับจำนำตามราคาที่ประเมินรถหรือตามความต้องการของลูกค้า โดยจะคิดดอกเบี้ยร้อยล่ะ 10 ต่อเดือน (ร้อยละ 120 ต่อปี)เช่นราคารถที่รับจำนำ 100,000 บาท จะหักค่าดอกเบี้ยจำนวน 10% คิดเป็นเงิน 10,000 บาท และค่าจอดรถคันละ 1,000 บาท รวม 11,000 บาท (หักตั้งแต่วันที่รับจำนำ) จากนั้นจะมอบเงินให้กับผู้จำนำหลังจากรับรถแล้วจำนวน 89,000 บาท หากขาดผ่อนส่งเกิน 1 เดือน จะทำการยึดรถของผู้จำนำซึ่งลักษณะสัญญาเงินกู้จะเป็นนิติกรรมอำพรางโดยให้ผู้จำนำลงลายมือชื่อไว้ แต่ไม่ปรากฏรายละเอียดในสัญญาและมีเอกสารอื่นที่ไม่เกี่ยวกับสัญญา เช่น เอกสารโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ของกรมการขนส่งทางบก (แบบคำขอโอนและรับโอน) ใบสละสิทธิ์รถยนต์ หนังสือสัญญาซื้อขายรถยนต์ เพื่อง่ายต่อการนำรถไปขายต่อให้กับบุคคลอื่น
ต่อมาวันที่ 26 พ.ค.65 เวลา 13.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการเฝ้าติดตามกลุ่มผู้ต้องหา�ที่บริเวณลานจอดรถชั้นใต้ดิน ชั้น B2 ห้างสรรพสินค้าย่านศรีนครินทร์ พบว่ามีคนมาจำนำรถยนต์บริเวณดังกล่าว จึงได้แสดงตัวเข้าตรวจค้นจับกุม ผลการตรวจค้นพบ นายณัฐพงศ์ฯ 28 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของกิจการรับจำนำรถและปล่อยเงินกู้ และลูกจ้างอีก 6 คน พร้อมยึดเอกสารเอกสารสัญญากู้ยืมเงินซึ่งปรากฏข้อความการกู้ยืมเงินส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขออนุมัติหมายค้นต่อศาลอาญาพระโขนง และนำหมายค้นศาลอาญาพระโขนงเข้าทำการตรวจค้นสถานที่เก็บรถรับจำนำ จำนวน 3 จุด ได้แก่
1.บริเวณลานจอดรถชั้นใต้ดิน ชั้น B2 ห้างสรรพสินค้าย่านศรีนครินทร์ แขวงหนองบอน �เขตประเวศ กรุงเทพฯ ผลการตรวจค้นพบรถที่คนร้ายรับจำนำไว้ รถยนต์จำนวน 9 คัน และรถจักรยานยนต์จำนวน 4 คัน จึงได้ทำการบันทึกภาพและเก็บเลขเครื่อง เลขตัวถังแต่ละคันไว้ และทำบันทึกอายัดไว้เป็นหลักฐาน
2.บริเวณลานจอดไม่ทราบเลขที่ ซอยสุภาพงศ์ 3 แยก 3 แขวงหนองบอน เขตประเวศ กรุงเทพ ผลการตรวจค้นพบรถต้องสงสัยที่คาดว่าเป็นรถที่คนร้ายรับจำนำไว้ รถยนต์จำนวน 74 คัน และรถจักรยานยนต์จำนวน 12 คัน จึงได้ทำการบันทึกภาพและเก็บเลขเครื่อง เลขตัวถัง แต่ละคันไว้ และทำบันทึกอายัดไว้เป็นหลักฐาน
3.บริเวณลานจอดไม่ทราบเลขที่ ซอยสุภาพงศ์ 1 แยก 9 แขวงหนองบอน เขตประเวศ กรุงเทพ ผลการตรวจค้นพบรถต้องสงสัยที่คาดว่าเป็นรถที่คนร้ายรับจำนำไว้ รถยนต์จำนวน 13 คัน และรถจักรยานยนต์ จำนวน 1 คัน จึงได้ทำการบันทึกภาพและเก็บเลขเครื่อง เลขตัวถัง แต่ละคันไว้ และทำบันทึกอายัดไว้เป็นหลักฐาน
สรุปผลการตรวจค้น ได้ทำการจับกุม นายณัฐพงศ์ฯ อายุ 28 ปี โดยกล่าวหาว่า �“ให้ผู้อื่นกู้ยืมเงินโดยเรียกรับดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด” และอายัดรถยนต์ จำนวน 96 คัน และ รถจักรยานยนต์ จำนวน 17 คัน”
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ขอฝากเตือนไปยังผู้ที่นำรถยนต์ที่ยังผ่อนหรือเช่าซื้ออยู่ไปจำนำอาจเข้าข่ายมีความผิดฐาน “ยักยอกทรัพย์” เนื่องจากเจ้าของกรรมสิทธิ์ในตัวรถคือสถานบันการเงินเจ้าของสินเชื่อหรือไฟแนนซ์ สุดท้ายสถานบันการเงินซึ่งเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์จะมาไล่เบี้ยค่าเสียหายโดยตรงกับผู้เสียหายที่นำรถไปจำนำดังนั้นจึงไม่ควรนำรถที่ติดไฟแนนซ์อยู่ไปจำนำ

คดีที่2. “จับกุมขบวนการค้ามนุษย์ข้ามชาติ ผลงาน กก.ดส.”
ตามนโยบายรัฐบาลโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ตระหนักถึงปัญหายาเสพติดและการค้ามนุษย์ซึ่งเป็นภัยคุกคามและ เป็นหนึ่งในปัญหาระดับชาติที่สำคัญต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วนจริงจัง ซึ่งได้เน้นย้ำให้ดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมและมีประสิทธิภาพสูงสุด
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ,พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบช.น. ได้ตอบสนองนโยบายอย่างเร่งด่วนและจริงจัง เนื่องจากการค้ามนุษย์ถือเป็นภัยคุกคามซึ่งนานาอารยะประเทศล้วนให้ความสำคัญ จึงได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ธีรศักดิ์ จันทราพิพัฒน์ ผกก.ดส. พ.ต.ท.ปียรัช เวสสะโกศล รอง ผกก.ดส. พ.ต.ต.จักรี นารีผล สว.กก.ดส. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.ดส. ทำการสืบสวนการกระทำผิดค้ามนุษย์อย่างต่อเนื่องจนพบว่ามีกลุ่มขบวนการค้ามนุษย์ ได้ทำการลักลอบนำพาเด็กหญิงสัญชาติลาว จากประเทศลาวนำเข้ามาในพื้นที่กรุงเทพมหานครเพื่อทำการค้าประเวณี ซึ่งเข้าข่ายเป็นการกระทำผิดฐานค้ามนุษย์จนกระทั่งนำมาสู่การจับกุมในครั้งนี้
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 6 พ.ค.2565 เจ้าหน้าที่ กก.ดส. ได้ตรวจสอบพบพฤติการณ์การค้าประเวณีดังกล่าว ผ่านทางบัญชีของแอพพลิเคชั่น LINE ชื่อ Q-Q , มีนบุรี และ THE LOVE CLUB ต่อมาวันที่ 7 พ.ค.2565 เจ้าหน้าที่ กก.ดส. ได้ทำการล่อซื้อค้าประเวณี ผ่านทางแอพพลิเคชั่นไลน์ชื่อ Q-Q , มีนบุรี และ THE LOVE CLUB โดยได้มีการนัดหมายพบกันที่รีสอร์ทแห่งหนึ่ง บริเวณย่าน แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ กก.ดส. ได้นำกำลังเข้าตรวจสอบที่รีสอร์ทดังกล่าวตามที่นัดหมาย พบ หญิงสาวสัญชาติลาว จำนวน 5 คน ไม่พบเอกสารประจำตัว และจากการตรวจสอบ พบว่าในกลุ่มหญิงสาวสัญชาติลาวดังกล่าว มีหญิงสาวที่อายุต่ำกว่า 18 ปี จำนวน 2 คน ได้แก่ ด.ญ.น้ำหวาน �(นามสมมติ) อายุ 13 ปี และ ด.ญ.น้ำ (นามสมมติ) อายุ 14 ปี
จากการซักถามปากคำเด็กหญิงทั้ง 2 ราย ผ่านกระบวนการคัดแยกเหยื่อ ได้ให้การกับเจ้าหน้าที่ว่าเด็กหญิงทั้งสองได้ถูกติดต่อชักชวนมาจากประเทศลาวเพื่อมาค้าประเวณีในประเทศไทย เดินทางโดยการนั่งเรือข้ามฝั่งมาทางลำน้ำโขง และจะมีคนมารอรับบริเวณพื้นที่ อ.ปากชม จว.เลย จากนั้นจะขับรถมาส่งที่ รีสอร์ทดังกล่าวเพื่อค้าประเวณีแก่ลูกค้าที่มาใช้บริการ เจ้าหน้าที่ กก.ดส. จึงได้ทำการสืบสวนขยายผล และรวบรวมพยานหลักฐาน นำไปสู่การขออนุมัติศาลอาญามีนบุรีเพื่อออกหมายจับกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องในขบวนการ รวม 4 ราย ดังนี้
1. น.ส.เกศราฯ อายุ 35 ปี แอดมินของกลุ่มไลน์ชื่อ “มีนบุรี” ที่ใช้ประกอบกิจการค้าประเวณี  
2. น.ส.ณัชดาภาฯ อายุ 36 ปี แอดมินของกลุ่มไลน์ชื่อ “Q-Q” ที่ใช้ประกอบกิจการค้าประเวณี
3. น.ส.ณัฐนันท์ฯ อายุ 28 ปี แอดมินของกลุ่มไลน์ชื่อ “THE LOVE CLUB” ที่ใช้ประกอบกิจการค้าประเวณี
4. นายบุญญฤทธิ์ฯ อายุ 40 ปี บุคคลที่ขับรถไปรับเด็กหญิงสัญชาติลาวจากพื้นที่ อ.ปากชม จว.เลย มาส่งที่รีสอร์ทในพื้นที่ แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร
ในความผิดฐาน “ร่วมกันค้ามนุษย์โดยการแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณีโดยกระทำกับบุคคลอายุไม่เกินสิบห้าปีและร่วมกันเป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งชายหรือหญิง แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม โดยกระทำแก่บุคคลอายุไม่เกินสิบห้าปี”

ต่อมาในวันที่ 29 พ.ค.65 เจ้าหน้าที่ กก.ดส. ได้ร่วมกันปฏิบัติการติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับดังกล่าว โดยสามารถจับกุมได้ครบทั้ง 4 ราย นำส่ง สน.มีนบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยจากนี้จะได้ทำการสืบสวนขยายผลเพื่อนำตัวบุคคลที่ร่วมกระทำผิดในขบวนการค้ามนุษย์ดังกล่าว มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

คดีที่3. “นครบาลรายงานผลการจับกุม 191 ผู้ต้องหาขนกัญชากว่า 600 กิโล จากริมโขงสู่เมืองกรุง”
 
ตามนโยบายของรัฐบาล ให้เจ้าหน้าที่ของภาครัฐปราบปรามการแพร่ระบาดของยาเสพติด และสิ่งผิดกฎหมาย เนื่องจากการแพร่ระบาดของยาเสพติดซึ่งเป็นภัยคุกคามและอาชญากรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสังคมในปัจจุบัน  ได้สร้างผลกระทบต่อประชาชน และสร้างความเสียหายให้แก่ประเทศชาติ  
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ,พล.ต.อ.รอย  อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.ธนา  ชูวงศ์พล.ต.ท.ภาณุรัตน์  หลักบุญ, พล.ต.ท.ต่อศักดิ์  สุขวิมล ผู้ช่วย ผบ.ตร. ได้มอบนโยบายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เร่งรัดติดตามจับกุมขบวนการค้ายาเสพติด อย่างจริงจัง
กองบัญชาการตำรวจนครบาล โดย พล.ต.ท.สำราญ  นวลมา ผบช.น., พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์พล.ต.ต.โชคชัย  งามวงศ์, พล.ต.ต.สำเริง  สวนทอง รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สมบูรณ์  เทียนขาว ผบก.สปพ. ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ประสงค์  อานมณี, พ.ต.อ.ชัยกฤต  โพธิ์อ๊ะ, พ.ต.อ.โรจนินทร์  ทองใบ, พ.ต.อ.พิทักษ์  สุทธิกุล, พ.ต.อ.ศุภวัช ปานแดง, พ.ต.อ.กรกฎ  โปชยะวณิช รอง ผบก.สปพ. พ.ต.อ.เด่นหล้า  รัตนกิจ ผกก.สายตรวจ บก.สปพ., พ.ต.ท.นิพนธ์ นิธิการุณย์เลิศ, พ.ต.ท.จักริน  พิริยะจิตตะ, พ.ต.ท.โชติช่วง  รัศมี และ พ.ต.ท.คงศักดิ์  ศรีโหร รอง ผกก.สายตรวจ บก.สปพ., พ.ต.ท.ไพบูลย์  สอโส สว.งานสายตรวจ 1พ.ต.ต.เชษฐพร  บัวจันทร์ สว.งานสายตรวจ 2 และ พ.ต.ต.พุฒิพัฒน์  โกยมวงษ์เจริญ สว.งานสายตรวจ 3 ร่วมแถลงข่าวกรณีจับกุมผู้ต้องหาขนกัญชาจากจังหวัดบึงกาฬเข้าสู่กรุงเทพ ดังนี้
วันที่ 26 พ.ค.65 เวลา 10.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สปพ. ได้ทำการจับกุมผู้ต้องหา บริเวณลานจอดรถสถานบริการน้ำมัน ปตท. สาขาดอนหวาย ต.ตะโหนด อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา ดังนี้
1. นายอาทิตย์ หรือมอส (สงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี
2. นายภานุวัฒน์ หรืออาร์ม (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี
3. น.ส.ชลธิชา หรือหวาน (สงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี
4. นายธีรพงษ์ หรือกิต (สงวนนามสกุล) อายุ 21 ปี
5. นายศุรวงษ์ หรือปอนด์ (สงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี
6. นายวิโรจน์ หรือคิง (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี
7. น.ส.ศศิธร หรืออัน (สงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี
8. น.ส.ภคพร หรือเพชร (สงวนนามสกุล) อายุ 20 ปี
9. เยาวชนชาย (ปกปิดชื่อ-สกุล) อายุ 16 ปี
พร้อมด้วยของกลาง
1. กัญชา  น้ำหนักรวมประมาณ 620 กิโลกรัม
2. รถยนต์ จำนวน 3 คัน
3. โทรศัพท์มือถือ จำนวน 9 เครื่อง
โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า
“ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต”
เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สปพ. สืบสวนขยายผลเครือข่ายยาเสพติดที่ถูกจับกุมแล้ว จนทราบว่ากลุ่มวัยรุ่นย่านบางพูน ได้ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากบริเวณ อ.บุ้งคล้า จว.บึงกาฬ แล้วนำมาส่งให้ลูกค้าในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยใช้รถยนต์ จำนวน 3 คัน โดย 1 คัน ใช้ขนยาเสพติด และอีก 2 คัน ใช้สำหรับขับนำเส้นทางเพื่อตรวจตราและแจ้งเตือนด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ต่อมาวันที่ 26 พ.ค.2565 ได้พบความเคลื่อนไหวของกลุ่มดังกล่าวตรงกับพฤติการณ์ที่ได้สืบสวนมาก่อน เชื่อว่าจะมีการลำเลียงยาเสพติดจำนวนมากลงมา จึงได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจไปสืบสวนติดตาม จนกระทั่งเวลาประมาณ 10.00 น. พบรถยนต์ของกลุ่มเครือข่ายยาเสพติดนี้ จำนวน 3 คัน ขับเข้ามาจอดภายในลานจอดรถของสถานีบริการน้ำมัน ปตท. สาขาดอนหวาย ต.ตะโหนด อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา เจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่ารถยนต์ดังกล่าวนี้ซุกซ่อนยาเสพติดมา และกำลังจะลำเลียงยาเสพติดส่งให้กับลูกค้า จึงแสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเข้าตรวจค้น
จากการตรวจค้นรถยนต์ทั้ง 3 คัน พบยาเสพติดให้โทษประเภท5 (กัญชา) น้ำหนักรวมประมาณ 620 กิโลกรัม และจับกุมผู้ต้องหาได้ จำนวน 9 คน พร้อมตรวจยึดรถยนต์ จำนวน 3 คัน และโทรศัพท์มือถือ จำนวน 9 เครื่อง จากนั้นได้นำตัวผู้ต้องหามาทำการซักถามและขยายผลถึงผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป

บช.น. ขอเรียนพี่น้องประชาชนว่า ถึงแม้ว่าช่วงนี้จะมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด - 19 แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงปฏิบัติหน้าที่ในการบำบัดทุกข์และบำรุงสุขให้แก่พี่น้องประชาชน หากพบเห็นหรือมีเบาะแสเกี่ยวกับการกระทำความผิด โปรดแจ้งสายด่วน 191 หรือสถานีตำรวจท้องที่ 

ความคิดเห็น

ข่าวฮอตชัดทุกกระแส

วิเคราะห์ เจาะลึก วัตถุมงคลหลวงพ่อพัฒน์ วัดห้วยด้วน

“ธรรมาภิบาล”เร่งหารือ กกต.ให้จัดการเลือกตั้งใหม่

ฟุตบอลสูงอายุชิงถ้วย ร.10 68 ทีมร่วมฟาดแข้ง

ชมรมทหารพราน ค่ายปักธงชัย แจกข้าวสาร อาหารแห้ง ณ​ ชุมชนชาวคลองลัดภาชี

ราชกรีฑาสโมสรจัดศึกกีฬาม้าแข่งไร้พนันชิงชัยแบบนิวนอร์มัล

ไทย ต้านไม่ไหว พ่ายญี่ปุ่น 0-7

ทนายอนันต์ชัย โพสต์ FB ระบุ