ตม.1 จับกุมเครือข่ายโรแมนซ์ สแกม

 ตม.1 จับกุมเครือข่ายโรแมนซ์ สแกม สมาชิกแก๊ง “Kong River” (โขงริเวอร์) 

สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม. มอบหมายให้ พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม.,  พล.ต.ต.ปิติ นิธินนทเศรษฐ์ ผบก.ตม.1, พ.ต.อ.ณรงค์เวทย์ โอนสูงเนิน รอง ผบก.ตม.1 และ พ.ต.อ.ระพีพัฒน์ อุตสาหะ ผกก.สส.บก.ตม.1 พร้อมชุดสืบสวนฯ แถลงข่าวการจับกุมคนร้ายมีรายละเอียด ดังนี้

        สืบเนื่องจากการบูรณาการด้านการข่าวของ กองกำกับการสืบสวน กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 กับหน่วยงานด้านการข่าวของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ บช.ปส., ปปส., ศุลกากร และ ศรภ. มีการสืบทราบว่าจะมีสมาชิกแก๊งโขงริเวอร์ (กลุ่มคนผิวสีส่วนใหญ่เป็นคนสัญชาติไนจีเรีย ซึ่งจะรวมกลุ่มกันและเคลื่อนไหวกระทำความผิดเกี่ยวข้องกับยาเสพติด และหลอกลวงให้เหยื่อหรือผู้เสียหายหลงเชื่อว่า เป็นนักธุรกิจ หรือชาวต่างชาติที่มีหน้าตา และฐานะดี แล้วหลอกลวงให้โอนเงินให้ก่อนที่จะตัดขาดการติดต่อ (โรแมนซ์ สแกม) โดยมักจะเดินทางเข้า-ออก และก่อเหตุกับหญิงในประเทศกลุ่มลุ่มแม่น้ำโขง ได้แก่ ไทย ลาว และ เมียนมา)  สำหรับในประเทศไทยแก๊งโขงริเวอร์ มีพฤติการณ์ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย มาเคลื่อนไหวเพื่อกระทำความผิดที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด และก่ออาชญากรรมทางเทคโนโลยี / อินเตอร์เน็ต (โรแมนซ์ สแกม) ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล
จากการบูรณาการด้านการข่าวกับ ป.ป.ส. และ บช.ปส. ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน บก.ตม.1 สืบทราบว่ามีสมาชิกแก๊งโขงริเวอร์ มาแฝงตัวพักอาศัยอยู่บริเวณที่พักย่านนวมินทร์ แขวงรามอินทรา เขตคันนายาว กรุงเทพฯ จึงได้วางแผนจัดกำลังเข้าทำการตรวจสอบ จนกระทั่งสามารถดำเนินการจับกุมบุคคลต่างด้าวเป็นชายชาวต่างชาติผิวสีได้ 2 ราย คือ 1. นายโจเอล อายุ 22 ปี สัญชาติแคมารูน และ 2. นายซิลลา อายุ 27 ปี สัญชาติ เซเนกัล จากการตรวจสอบเบื้องต้น ไม่พบเอกสารการเดินทางหรือหลักฐานการเข้าเมืองโดยถูกกฎหมาย จาากนั้นเจ้าหน้าที่ฯ ได้ทำการตรวจสอบห้องพักของผู้ถูกจับเพื่อค้นหาสิ่งผิดกฎหมายตามข้อมูลที่ได้รับแจ้ง ผลปรากฏว่าไม่พบ
ยาเสพติดและสิ่งของผิดกฎหมาย แต่อย่างใด        
  แต่จากการตรวจสอบเพิ่มเติม ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมพบข้อมูลภายในโทรศัพท์เคลื่อนที่ของผู้ถูกจับทั้ง 2 รายพบว่า มีการพูดคุยในลักษณะเชิงชู้สาว กับหญิงสาวทั้งชาวไทย ลาว และเมียนมา ในแอปพลิเคชันแชท What app, Line และ Messengers โดยจะแสดงตนว่าเป็นนักธุรกิจชาวต่างชาติที่มีฐานะดี ซึ่งทุกรายอยู่ในระหว่างการติดต่อพูดคุยเพื่อหลอกลวง แต่เหยื่อยังไม่ทันหลงเชื่อจนถึงขั้นโอนเงินให้ จนถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้เสียก่อน จากการตรวจสอบเอกสารการเข้าเมืองและวีซ่า พบว่านายโจเอล อายุ 22 ปี สัญชาติแคมารูน ผู้ถูกจับที่ 1 มีหนังสือเดินทางแต่การอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรสิ้นสุดลงแล้ว จำนวน 1,087 วัน และ นายซิลลา อายุ 27 ปี สัญชาติ เซเนกัล ผู้ถูกจับที่ 2 ไม่มีหนังสือเดินทางมาแสดง  เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้แจ้งข้อหาให้นายโจเอล ผู้ถูกจับกุมที่ 1 ทราบว่า “เป็นคนต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด” และนายซิลลา ผู้ถูกจับที่ 2 
ทราบว่า “เป็นคนต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” ในชั้นจับกุมผู้ถูกจับที่ 1 และ 2 ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จึงควบคุมตัวผู้ถูกจับทั้ง 2 คน ส่งพนักงานสอบสวน บก.สส.สตม. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมทั้งได้ส่งข้อมูลฯ และประสาน ป.ป.ส. และ บช.ปส. เพื่อให้ดำเนินการสืบสวนเชิงลึกเกี่ยวกับพฤติการณ์ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีเพิ่มเติมต่อไป
สตม. ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่าง ๆ รวมทั้งดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th จะขอบพระคุณอย่างยิ่ง


ความคิดเห็น

ข่าวฮอตชัดทุกกระแส

วิเคราะห์ เจาะลึก วัตถุมงคลหลวงพ่อพัฒน์ วัดห้วยด้วน

“ธรรมาภิบาล”เร่งหารือ กกต.ให้จัดการเลือกตั้งใหม่

ฟุตบอลสูงอายุชิงถ้วย ร.10 68 ทีมร่วมฟาดแข้ง

ชมรมทหารพราน ค่ายปักธงชัย แจกข้าวสาร อาหารแห้ง ณ​ ชุมชนชาวคลองลัดภาชี

ราชกรีฑาสโมสรจัดศึกกีฬาม้าแข่งไร้พนันชิงชัยแบบนิวนอร์มัล

ไทย ต้านไม่ไหว พ่ายญี่ปุ่น 0-7

ทนายอนันต์ชัย โพสต์ FB ระบุ