สืบ1จับยาบ้ากลางกรุงเจอคลังปืน

สืบ1จับยาบ้ากลางกรุงเจอคลังปืน 

เมื่อวันที่ 28 มี.ค. ที่กองบัญชาการตํารวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.สําราญ นวลมา ผบช.น. พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. พล.ต.ต.จักรภพ สุคนธราช ผบก.บก.น.1 พ.ต.อ.ศิรณ วิชญ์ อินทร ผกก.สส.บก.น.1 และ กก.สส.บก.น.1 ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมขบวนการลักลอบค้ายาเสพติดรายใหญ่ และอาวุธสงครามจำนวนมาก โดยมีผู้ต้องหาประกอบด้วย 1.น.ส.รัศมี จิตรขุนทด อายุ 44 ปี, นางรัชนี ขัติยะ อายุ 63 ปี, นายเจริญ ขัติยะ อายุ 54 ปี, นางพรไพลิน ขัติยะ อายุ 51 ปี, นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 19 ปี และ นายดรัสพงศ์ ผาสุขสุนทรนนท์ อายุ 39 ปี จับกุมได้ภายในห้องพักเลขที่ 54/26 เอื้ออาทรคู้บอน 27 ถนนคู้บอน แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพฯ ต่อเนื่องบ้านเลขที่ 55/72 หมู่บ้านเบญญาภา คาซ่า ถนนพัฒนาชนบท 4 แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ... 

พร้อมของกลาง ประกอบด้วย ยาบ้า จํานวน 360,000 เม็ด, ยาอี 568 เม็ด, ยาเคน้ำ 1,170 ขวด, อาวุธปืนสไนเปอร์ 2 กระบอก, อาวุธปืนยาว 8 กระบอก, อาวุธปืนขนาด 9 มม. 2 กระบอก, อาวุธปืนขนาด .22 จำนวน 2 กระบอก, กระสุนปืนขนาดต่าง ๆ ประมาณ 6,000 นัด, ปลอกลดเสียง 5 ชิ้น, เสื้อเกราะ 2 ตัว, เครื่องตัดสัญญานโทรศัพท์ 1 เครื่อง และโทรศัพท์ดาวเทียม 1 เครื่อง นอกจากนี้ยังสามารถตรวจยึดยึดทรัพย์สินไว้ได้อีกหลายรายการเช่น พระบูชา รถยนต์ จักรยานยนต์ ตู้เซฟ โฉนดที่ดิน มูลค่าประมาณ 5.8 ล้านบาท และ 6.สมุดบัญชีเงินฝากธนาคารจำนวนหนึ่ง รวมมูลค่าทรัพย์สินทั้งหมดประมาณ 10 ล้านบาท... 

เมื่อวันที่ 28 มี.ค. ที่กองบัญชาการตํารวจ

นครบาล

 พล.ต.ท.สําราญ นวลมา ผบช.น. พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. พล.ต.ต.จักรภพ สุคนธราช ผบก.บก.น.1 พ.ต.อ.ศิรณ วิชญ์ อินทร ผกก.สส.บก.น.1 และ กก.สส.บก.น.1 ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมขบวนการลักลอบค้ายาเสพติดรายใหญ่ และอาวุธสงครามจำนวนมาก โดยมีผู้ต้องหาประกอบด้วย 1.น.ส.รัศมี จิตรขุนทด อายุ 44 ปี, นางรัชนี ขัติยะ อายุ 63 ปี, นายเจริญ ขัติยะ อายุ 54 ปี, นางพรไพลิน ขัติยะ อายุ 51 ปี, นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 19 ปี และ นายดรัสพงศ์ ผาสุขสุนทรนนท์ อายุ 39 ปี จับกุมได้ภายในห้องพักเลขที่ 54/26 เอื้ออาทรคู้บอน 27 ถนนคู้บอน แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพฯ ต่อเนื่องบ้านเลขที่ 55/72 หมู่บ้านเบญญาภา คาซ่า ถนนพัฒนาชนบท 4 แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ

พร้อมของกลาง ประกอบด้วย ยาบ้า จํานวน 360,000 เม็ด, ยาอี 568 เม็ด, ยาเคน้ำ 1,170 ขวด, อาวุธปืนสไนเปอร์ 2 กระบอก, อาวุธปืนยาว 8 กระบอก, อาวุธปืนขนาด 9 มม. 2 กระบอก, อาวุธปืนขนาด .22 จำนวน 2 กระบอก, กระสุนปืนขนาดต่าง ๆ ประมาณ 6,000 นัด, ปลอกลดเสียง 5 ชิ้น, เสื้อเกราะ 2 ตัว, เครื่องตัดสัญญานโทรศัพท์ 1 เครื่อง และโทรศัพท์ดาวเทียม 1 เครื่อง นอกจากนี้ยังสามารถตรวจยึดยึดทรัพย์สินไว้ได้อีกหลายรายการเช่น พระบูชา รถยนต์ จักรยานยนต์ ตู้เซฟ โฉนดที่ดิน มูลค่าประมาณ 5.8 ล้านบาท และ 6.สมุดบัญชีเงินฝากธนาคารจำนวนหนึ่ง รวมมูลค่าทรัพย์สินทั้งหมดประมาณ 10 ล้านบาท

พล.ต.ท.สําราญ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตํารวจ กก.สส.บก.1 และ ชปส.บก.น.1 สืบสวนติดตามกลุ่มเครือยาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยมีนายดรัสพงศ์ น.ส.รัศมี และนางรัชนี ได้ร่วมกันจำหน่าย ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้วางแผนจับกุมน.ส.รัศมี ได้ที่อาคารเอื้ออาทรคู้บอน 27 ตึก 52 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน ได้ของกลางยาบ้าจำนวน 10,000 เม็ด จากการสอบสวน น.ส.รัศมี ได้ให้การว่าเสพติดทั้งหมดเป็นของ นายดรัสพงศ์ และนางรัชนี ก่อนขยายผลตามไปจับกุมผู้ต้องหาที่เหลือภายในบ้านเลขที่ 55/72 หมู่บ้านบุญญาภา คาซ่า ถนนพัฒนาชนบท 4 แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง ก่อนตรวจยึดอาวุธปืนและยาเสพติดจำนวนดังกล่าว พร้อมควบคุมผู้ต้องหาทั้งหมดมา​สอบสวน

อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาพบว่า กลุ่มผู้ต้องหาไม่เคยถูกจับกุมมาก่อน ลักลอบจำหน่ายยาเสพติดได้ประมาณ 5 ปี ส่วนสาเหตุที่ยังไม่ถูกจับกุมนั้น เนื่องจากกลุ่มผู้ต้องหาระมัดระวังตัวตลอดเวลา มีการใช้เครื่องตัดสัญญาณโทรศัพท์ผ่านดาวเทียมเป็นระยะ ๆ นอกจากนี้ยังมีการติดต่อกับแหล่งจำหน่ายยาเสพติดที่อยู่ในประเทศเพื่อนบ้านด้วยการใช้โทรศัพท์ดาวเทียม จึงทำให้ยากต่อการจับกุม ขณะเดียวกันยังระบุว่า มีการเตรียมอาวุธปืนสไนเปอร์และอาวุปืนสงครามไว้ในบ้านพัก คาดว่าน่าจะเตรียมไว้ต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ขยายผลจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป

เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาว่า “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า หรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนโดยไม่ได้รับอนุญาต, มีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิต ประสาทประเภท 2 (ยาเค หรือคีตามีน) ไว้ในครอบครองเกินปริมาณที่ รมต.ประกาศกําหนด, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย และมีเสื้อเกราะป้องกันกระสุนหรือป้องกันสะเก็ดระเบิดอยู่ในชนิดยุทธภัณฑ์ที่ผู้ใดมีไว้ในครอบครองต้องขออนุญาตต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ นำส่งพนักงานสอบสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป