สืบ7 จับกัญชาอัดแท่ง 240 กก.

สืบ7 จับกัญชาอัดแท่ง  240 กก.

วันที่ 7 มกราคม 2565
พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบช.น. ,พล.ต.ต.เอกชัย บุญวิสุทธิ์ ผบก.น.7 และ พ.ต.อ.ไกรวิทย์ อุณหก้องไตรภพ ผกก.สส.บก.น.7 แถลงผลการจับกุมผู้ต้องหา 3 ราย เครือข่ายค้าขายกัญชา ประกอบด้วย นายอาภากร อายุ 20 ปี,นายสุทธิพงษ์ อายุ 27 ปี และนายมานพ อายุ 48 ปี พร้อมด้วยของกลางยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชาแห้งอัดแท่ง) จำนวน 6 กระสอบ รวมกัญชาจำนวนทั้งสิ้นน้ำหนักประมาณ 240 กิโลกรัม รถจักรยนต์ ยี่ห้อ ยามาฮ่า นูโว สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน ขพธ 643 ระยอง จำนวน 1 คัน โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง และรถยนต์ยี่ห้ออีซูซู รุ่นดีแม็ก สีขาว หมายเลขทะเบียน ผฉ 6886 อุบลราชธานี จำนวน 1 คัน
สืบเนื่องจากเจ้าพนักงานตำรวจ กก.สส.บก.น.7 สืบทราบว่าก่อนหน้านี้มีกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดตามแนวชายแดน ได้มีการขนยาเสพติดจากแนวชายแดนไปส่งยัง จ.สมุทรสาคร โดยเคลื่อนย้ายผ่านพื้นที่ อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม วิ่งผ่าน จ.สกลนคร จ.ขอนแก่น ลงมา จ.นครราชสีมา ผ่าน จ.สระบุรี เข้าสู่กรุงเทพฯ โดยใช้เส้นทาง ถ.บรมราชชนนี ซึ่งเป็นเขตพื้นที่รับผิดชอบของ บก.น.7 เข้ามายัง ถ.พุทธมณฑลสาย 4 จุดหมายวัดบางปิ้ง จ.สมุทรสาคร อยู่หลายครั้ง

จนกระทั่งเมื่อวันที่ 5 ม.ค.65 สายลับแจ้งว่าจะมีการขนส่งลำเลียงยาเสพติดอีกครั้งโดยใช้เส้นทาง ถ.บรมราชชนนี มุ่งหน้า ถ.พุทธมณฑลสาย 4 จึงได้นำกำลังไปเฝ้าสังเกตการณ์และดักซุ่มติดตามและพบรถยนต์(กระบะ)ยี่ห้อ อีซูซู รุ่นดีแม็ก สีขาว ทะเบียน ผฉ 6886 อุบลราชธานี ตามที่สายลับแจ้งผ่านเข้ามาในเขตพื้นที่ บก.น.7 จึงได้ติดตามรถยนต์คันดังกล่าวไปจนถึง วัดบางปิ้ง ต.นาดี อ.เมือง จ.สมุทรสาคร เพื่อพบกับนายมานพ ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ยามาฮ่า รุ่น นูโว สีม่วง ทะเบียน ขพธ 643 ระยอง ซึ่งมาจอดเพื่อจะรับยาเสพติดไปส่งให้ลูกค้า เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจขอเข้าตรวจค้น โดยรถคันดังกล่าวมีนายอาภากร เป็นคนขับ จึงได้หยุดรถและลงมาพร้อมนายสุทธิพงษ์ (นั่งข้างคนขับ) จากการตรวจค้นพบกัญชาอัดแท่งจำนวน 6 กระสอบ น้ำหนักรวมทั้งสิ้นประมาณ 240 กิโลกรัม โดยวางอยู่ภายในห้องโดยสาร(แค๊ป) จำนวน 2 กระสอบ และอีก 4 กระสอบพบท้ายกระบะบรรทุกด้านหลังมีผ้าใบคลุมทับอยู่ จึงได้ทำการจับกุมตัวพร้อมตรวจยึดของกลาง มายัง กก.สส.บก.น.7 เพื่อซักถามขยายผล

จากการสอบปากคำโดยนายอาภากร ยอมรับว่า ตนได้รับการว่าจ้างจากนายอ้อ(ไม่ทราบชื่อสกุลจริง) ให้ขับรถยนต์บรรทุกขนกัญชาจาก จ.นครพนม เพื่อไปส่งต่อที่วัดบางปิ้ง โดยยอมรับว่าทำมานานกว่า 1-2 ปี ได้ค่าจ่างครั้งละ 10,000-15,000 บาท เดินทางมาพร้อมนายสุทธิพงษ์ ซึ่งเป็นสาวประเภทสองที่เป็นคนรักที่อยู่กินกันมาประมาณ 1 ปี โดยตลอดการเดินทางจะมีนายอ้อ คอยสั่งการผ่านทางโทรศัพท์และผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ว่าจะมีผู้มารับกัญชา ไปแต่ตนไม่ทราบว่าเป็นผู้ใด จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจค้นและจับกุมในที่สุด ส่วนนายมานพ ให้การว่าตนได้รับว่าจ้างเป็นเงิน 13,000 บาทจากนายสันติ(ไม่ทราบชื่อสกุลจริง) ซึ่งตนรู้จักผ่านทางเพื่อนที่ชื่อทัก(ไม่ทราบชื่อสกุลจริง)ให้ตนไปเฝ้ารถยนต์ที่บรรทุกกัญชา ที่มีคนนำมาจอดที่วัดบางปิ้งฯ โดยนายสันติ จะติดต่อกับตนผ่านทางไลน์ โดยบอกข้อมูลว่า วันที่ 5 ม.ค.65 เวลาประมาณ 16.30 น. จะมีชายและสาวประเภทสองขับรถยนต์(กระบะ)สีขาว ทะเบียน ผฉ 6886 อุบลราชธานี มาจอดที่วัดบางปิ้งฯ ตนจึงขับขี่รถจักรยานยนต์เข้าไปสอบถามและตนได้โทร(ไลน์)หานายสันติเพื่อยืนยันรถยนต์ แต่ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้เสียก่อน จากนั้นจึงชุดจับกุมจึงได้บันทึกจับกุมและยึดทรัพย์ และนำผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ส่ง สภ.เมืองสมุทรสาคร

สมาคมหนังสือพิมพ์ส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย (สภท.56ปี)

ธวัชชัย เฟื่องอนันต์ รายงาน




ความคิดเห็น

ข่าวฮอตชัดทุกกระแส

วิเคราะห์ เจาะลึก วัตถุมงคลหลวงพ่อพัฒน์ วัดห้วยด้วน

ทนายอนันต์ชัย โพสต์ FB ระบุ

ฟุตบอลสูงอายุชิงถ้วย ร.10 68 ทีมร่วมฟาดแข้ง

“ธรรมาภิบาล”เร่งหารือ กกต.ให้จัดการเลือกตั้งใหม่

ชมรมทหารพราน ค่ายปักธงชัย แจกข้าวสาร อาหารแห้ง ณ​ ชุมชนชาวคลองลัดภาชี

ราชกรีฑาสโมสรจัดศึกกีฬาม้าแข่งไร้พนันชิงชัยแบบนิวนอร์มัล

ไทย ต้านไม่ไหว พ่ายญี่ปุ่น 0-7