เลขาธิการ ป.ป.ส.โชว์ผลงานเชิงรุก

เลขาธิการ ป.ป.ส.โชว์ผลงานเชิงรุกการร่วมมือปราบยาเสพติดระหว่างประเทศ ชี้ การทำงานที่มีประสิทธิภาพช่วยสกัดกั้นยาเสพติดได้เพียบก่อนทะลักไปยังประเทศที่สาม  

วันที่ 29 พ.ย. 64 ที่สำนักงาน ป.ป.ส. (ดินแดง) นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พร้อมด้วยนายเจเรมี ดักลาส (Mr. Jeremy Douglas) ผู้แทนสำนักงานยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิก นายไซม่อน ลาลิค ( Mr. Simon Lalic) เจ้าหน้าที่อาวุโส สำนักงานตำรวจสหพันธ์ออสเตรเลีย และนาย มิน ที นูเวน  (Mr. Minh T. Nguyen) หัวหน้ากลุ่มสืบสวน สำนักงานปราบปรามยาเสพติด สหรัฐอเมริกา ประจำภูมิภาคตะวันออกไกล แถลงข่าวความร่วมมือในการปราบปรามยาเสพติดระหว่างประเทศ พร้อมความคืบหน้าคดีต่าง ๆ          

นายวิชัย กล่าวว่า ประเทศไทยมีเขตแดนติดกับแหล่งผลิตยาเสพติดสำคัญในสามเหลี่ยมทองคำ ประกอบกับประเทศไทยเป็นศูนย์กลางทางการคมนาคมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีเส้นทางการขนส่งที่สะดวกและทันสมัยทั้งทางบกและทางอากาศ ทำให้เอื้อต่อเครือข่ายยาเสพติดข้ามชาติเข้ามาแสวงประโยชน์โดยใช้ประเทศไทยเป็นพื้นที่ลำเลียงผ่านไปยังประเทศที่สาม เช่น ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ฮ่องกง ไต้หวัน นิวซีแลนด์ ฟิลิปปินส์ ซึ่งนโยบายของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม มักเน้นย้ำเรื่องความร่วมมือระหว่างประเทศ โดยให้ ป.ป.ส. ทำงานเชิงรุกสกัดกั้นและปรามปรามยาเสพติด สำคัญ ๆ ได้แก่ ศูนย์ประสานงานแม่น้ำโขงปลอดภัยใน 6 ประเทศภาคี คือ ไทย เมียนมา สปป.ลาว กัมพูชา จีน และเวียดนาม โดยแผนปฏิบัติการร่วมสามเหลี่ยมทองคำ 1511  มีระยะ 4 ปี (พ.ศ. 2562 - 2565) ซึ่งในปี 2563 ยึดยาบ้า รวม 447 ล้านเม็ด ไอซ์กว่า 34 ตัน เฮโรอีน 3.8 ตัน คีตามีน 1.07 ตัน เคมีภัณฑ์ 257.3 ตัน 

นายวิชัย กล่าวอีกว่า โครงการความร่วมมือปราบปรามยาเสพติดระหว่างท่าอากาศยานนานาชาติและท่าเรือของอาเซียน ได้จัดตั้งชุดปฏิบัติการ AIRPORT ITERDICTION TASK FORCE (AITF) และ SEAPORT ITERDICTION TASK FORCE (SITF) เพื่อสนธิกำลังสกัดกั้นการลักลอบลำเลียงยาเสพติด โดยในปี พ.ศ. 2564 สามารถสกัดกั้นยาเสพติดที่เตรียมส่งออกต่างประเทศ เช่น ทางเรือรวม 7 คดี รวมปริมาณของกลางยาเสพติด ไอซ์ 85.6 กิโลกรัม เฮโรอีน 528 กิโลกรัม โดยการขนส่งทางบก รวม 87 คดี รวมปริมาณของกลาง ไอซ์ 81 กิโลกรัม เฮโรอีน 39.4 กิโลกรัม นอกจากนี้ ยังมีโครงการความร่วมมือของหน่วยปราบปรามยาเสพติดระหว่างประเทศ เพื่อประสานการข่าว ประสานคดี และความร่วมมือในการบังคับใช้กฎหมายทางอาญาและยาเสพติด โดยปัจจุบันมีอยู่ 25 ประเทศ อาทิ อิตาลี ญี่ปุ่น เกาหลีใต้  เนเธอแลนด์ นอร์เวย์ รัสเซีย สเปน สวีเดน สวิตเซอร์แลนด์ สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา เป็นต้น

ด้านนายไซม่อน ลาลิค ( Mr. Simon Lalic) เจ้าหน้าที่อาวุโส สำนักงานตำรวจสหพันธ์ออสเตรเลีย กล่าวว่า AFP มีความร่วมมือกับสำนักงาน ป.ป.ส. มาเป็นระยะเวลานานแล้ว โดย ล่าสุด เมื่อ 10 วันที่แล้ว จากกรณีการจับกุมและยึดเฮโรอีน 314 กก. จากท่าเรือแหลมฉบัง ปลายทางออสเตรเลีย ได้ด้วยการสืบสวนสอบสวนร่วมกัน ซึ่งสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย โดยส่งตัวผู้กระทำผิดไปดำเนินคดีที่ประเทศออสเตรเลีย ซึ่ง 1 ในนั้นเป็นเป้าหมายนักค้ายาเสพติดรายสำคัญที่ออสเตรเลียต้องการ ความสำเร็จนี้จะเป็นไปไม่ได้ถ้าขาดความร่วมมือจาก ป.ป.ส. และรัฐบาลไทย ขอขอบคุณและชื่นชมรัฐบาลไทยที่สืบสวนหาคนส่งล็อตยาไปออสเตรเลียได้ เป็นความร่วมมือข้ามแดนระหว่างกันที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

นายเจเรมี ดักลาส (Mr. Jeremy Douglas) ผู้แทนสำนักงานยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิก กล่าวว่า สถานการณ์ยาเสพติดมีการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด โดยเริ่มตั้งแต่ ปี 2011 จนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะการลักลอบผลิตสารสังเคราะห์หรือไอซ์ในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ และเหตุการณ์สำคัญเกี่ยวกับสถานการณ์โควิดที่เกิดขึ้น ในปี 2019 – 2021 ที่ผ่านมา หลังจากที่สถานการณ์โควิดเริ่มคงที่ สถานการณ์ยาเสพติดก็กลับมาเช่นเดิม และขยายตัวเพิ่มมากขึ้น โดยเห็นได้จากมีปริมาณยาเสพติดที่จับกุมได้มากขึ้น ซึ่งไม่ใช่เฉพาะพื้นที่ในประเทศไทย รวมถึงประเทศเพื่อนบ้านและประเทศอื่นๆด้วย อย่างไรก็ตาม ทุกประเทศมีความร่วมมือกันเป็นอย่างดี ซึ่ง UNODC นอกจากจะมีความร่วมมือกับประเทศไทยและประเทศต่างๆ และมีความร่วมมือภายใต้โครงการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น โครงการ MOU แม่น้ำโขง โครงการเซฟแม่โขงปลอดภัย โดย UNODC มีจุดเน้นงานที่จะร่วมมือกันในภูมิภาค คือ ความร่วมมือในการควบคุมพื้นที่และสกัดกั้นสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ตามแนวชายแดน เพื่อไม่ให้มีการลักลอบการนำเข้า-ส่งออก ในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ รวมถึงในเรื่องของการส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพของเจ้าหน้าที่

ส่วน นาย มิน ที นูเวน  (Mr. Minh T. Nguyen) หัวหน้ากลุ่มสืบสวน สำนักงานปราบปรามยาเสพติด สหรัฐอเมริกา ประจำภูมิภาคตะวันออกไกล กล่าวว่า DEA ทำงานร่วมกับทางการไทยมาอย่างยาวนานมาตั้งแต่ ค.ศ. 1963 ซึ่งนั่นเป็นเวลาถึง 10 ปีก่อนที่ DEA จะก่อตั้งอย่างเป็นทางการ ซึ่งประเทศไทยถือว่ามีความโดดเด่นและมีความร่วมมือในระดับที่ดีมาก ทั้งนี้การร่วมมือดังกล่าวเป็นประโยชน์อย่างมากต่อประเทศเพื่อนบ้านและประเทศอื่นๆ อันที่จริงแล้วเราทำงานร่วมกับ สำนักงาน ป.ป.ส. ทุกวัน โดยเรายังส่งเจ้าหน้าที่ ผู้เชี่ยวชาญการสืบสวนสอบสวนด้านการเงิน มาประจำที่สำนักงาน ป.ป.ส. เพื่อส่งเสริมงานสืบสวนร่วมกัน นั่นเพราะว่าองค์กรอาชญากรรม นั้นเรามีความจำเป็นต้องทำงานร่วมกันเพื่อจัดการปัญหาดังกล่าว เช่นเดียวกันกับการสกัดกั้นสารตั้งต้นก่อนที่จะเข้าไปสู่แหล่งผลิต เพราะหากไม่มีสารตั้งต้นก็ไม่สามารถผลิตยาเสพติดได้ DEA  ยังให้ความสำคัญกับการจัดการการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน ซึ่งเราได้ร่วมกับ สำนักงาน ป.ป.ส. เสมอมา โอกาสนี้ขอขอบคุณเลขาธิการ ป.ป.ส. ที่ให้โอกาส DEA ได้พูดถึงความร่วมมือที่เราทำงานร่วมกัน

 
สมาคมหนังสือพิมพ์ส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย (สภท.56ปี) 

ธวัชชัยเฟื่องอนันต์รายงาน

ความคิดเห็น

ข่าวฮอตชัดทุกกระแส

วิเคราะห์ เจาะลึก วัตถุมงคลหลวงพ่อพัฒน์ วัดห้วยด้วน

ทนายอนันต์ชัย โพสต์ FB ระบุ

“ธรรมาภิบาล”เร่งหารือ กกต.ให้จัดการเลือกตั้งใหม่

ฟุตบอลสูงอายุชิงถ้วย ร.10 68 ทีมร่วมฟาดแข้ง

ชมรมทหารพราน ค่ายปักธงชัย แจกข้าวสาร อาหารแห้ง ณ​ ชุมชนชาวคลองลัดภาชี

ราชกรีฑาสโมสรจัดศึกกีฬาม้าแข่งไร้พนันชิงชัยแบบนิวนอร์มัล

ไทย ต้านไม่ไหว พ่ายญี่ปุ่น 0-7