เลี่ยงถนน 4 เส้นทาง "คาร์ม็อบขบวนรถบรรทุก" บุก "กระทรวงพลังงาน"

เลี่ยงถนน 4 เส้นทาง "คาร์ม็อบขบวนรถบรรทุก" บุก "กระทรวงพลังงาน"

พล.ต.ต.จิรสันต์  แก้วแสงเอก รอง ผบช.น./โฆษก บช.น. และ พล.ต.ต.นิธิธร  จินตกานนท์รอง ผบช.น./ รองโฆษก บช.น. ขอประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารเพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบ กรณีวันที่ 16 พ.ย.2564 ได้มีการนัดรวมตัวของกลุ่มผู้ชุมนุมฯ กลุ่มสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย เพื่อจัดกิจกรรมคาร์ม๊อบ Truck Power โดยจะมีการเคลื่อนขบวนรถบรรทุกในถนน 4 สายหลักเพื่อเข้ามาชุมนุมฯ บริเวณกระทรวงพลังงาน ถนนวิภาวดีรังสิต โดยจะเริ่มตั้งแต่เวลา 10.00 น., กลุ่ม People ศิลปินเพลงเพื่อราษฎร บริเวณสะพานลอยหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพ ในเวลา 17.00 น., กลุ่มพลเมืองโต้กลับ บริเวณหน้าศาลฎีกาเวลา 17.30 น. และกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบทะลุแก๊ส บริเวณแยกดินแดง เวลา 17.30 น.   

ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้จัดเตรียมกำลังพลและยุทโธปกรณ์ เพื่อเข้าดำเนินการรักษาความสงบเรียบร้อยในการชุมนุมฯ ดังกล่าว โดยเน้นย้ำให้ปฏิบัติภายใต้กรอบกฎหมาย และคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนเป็นหลัก 
สำหรับการปฏิบัติเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย เมื่อวันที่ 14 พ.ย.2564 , กลุ่มแท็กซี่
รักประชาธิปไตย, กลุ่ม People ศิลปินเพลงเพื่อราษฎร, กลุ่มพลเมืองโต้กลับ เป็นไปด้วยความเรียบร้อยไม่มีความวุ่นวาย ด้านกลุ่มก่อความไม่สงบทะลุแก๊ส ไม่พบการรวมกลุ่มของมวลชนในพื้นที่แต่อย่างใด  
ในส่วนของสถานการณ์พื้นที่รอบแฟลตดินแดงเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ทั้งนี้เป็นผลสืบเนื่องมาจากนโยบายเชิงรุกของ ผบ.ตร. ซึ่ง ผบช.น. ได้ขานรับนโยบายเข้าไปแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ดังกล่าว โดยจัดกำลังเจ้าหน้าที่ และจัดชุดเคลื่อนที่เร็ว เข้าไปดูแลความปลอดภัยให้แก่ประชาชนเพื่อให้ประชาชนมีความปลอดภัยมากที่สุด ทั้งนี้เป็นไปตามมาตรการ 3 สร้าง ได้แก่ สร้างความเข้าใจ สร้างความร่วมมือ และสร้างความสงบสุขให้แก่ประชาชน
การดำเนินการทางกฎหมาย ตั้งแต่เดือน ก.ค.2563 จนถึงปัจจุบันมี คดีที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมฯ ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร จำนวนทั้งสิ้น 783 คดี ขณะนี้ได้ทำการสอบสวนเสร็จสิ้นและสั่งฟ้องไปแล้ว 385 คดี อยู่ระหว่างดำเนินการสอบสวน  398 คดี
ข้อห่วงใย บช.น. ขอย้ำเตือนไปยังผู้ที่คิดก่อเหตุความไม่สงบ และผู้ที่เข้าร่วมการชุมนุมฯ
โดยผิดกฎหมายว่าหากมีการก่อเหตุสร้างความเสียหายสร้างความเดือดร้อนในบ้านเมือง เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้าไปดำเนินคดีกับผู้ที่ก่อเหตุดังกล่าวทุกราย และ ขอแจ้งเน้นย้ำว่าขณะนี้แม้กรุงเทพมหานครจะถูกปรับให้เป็นพื้นที่จังหวัดนำร่องด้านการท่องเที่ยวแล้วก็ตาม แต่การชุมนุมฯ หรือรวมกลุ่มทำกิจกรรมที่มีลักษณะเสี่ยงต่อการแพร่โรคนั้น ยังคงเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, ประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินฯ ฉบับที่ 13 ลงวันที่ 28 ต.ค.2564 และ พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ จึงขอความร่วมมือประชาชนงดการร่วมกิจกรรมการชุมนุมฯ ต่างๆ เพื่อความสงบสุขและความปลอดภัยโดยรวมของประเทศชาติและประชาชน

สมาคมหนังสือพิมพ์ส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย (สภท.56ปี)

ธวัชชัยเฟื่องอนันต์รายงาน