บช.น. แถลงดำเนินคดีชุมนุมรวมแล้ว 401 คดี

บช.น. แถลง ดำเนินคดีชุมนุมรวมแล้ว 401 คดี อยู่ระหว่างพิสูจน์ทราบตัวบุคคล 395 คดี

วันจันทร์ ที่ 29 พ.ย.64 เวลา 11.30 น. พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น./โฆษก บช.น. พร้อมด้วย พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. ร่วมแถลงข่าวเตรียมความพร้อมเกี่ยวกับสถานการณ์ การชุมนุมของกลุ่มเห็นต่างทางการเมือง ในวันที่ 29 พ.ย.64 เพื่อมุ่งรักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชน พร้อมกับการอำนวยความสะดวกด้านการจราจรและการดำเนินงานในห้วงเวลาที่ผ่านมาและตอบข้อซักถามอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ณ ลานเอนกประสงค์ บช.น./ทีมประชาสัมพันธ์ บช.น
 
พล.ต.ต.จิรสันต์  แก้วแสงเอก รอง ผบช.น./โฆษก บช.น. และ พล.ต.ต.นิธิธร  จินตกานนท์
รอง ผบช.น./ รองโฆษก บช.น. ขอประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารเพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบ กรณีวันที่
29 พ.ย.2564 ได้มีการนัดรวมตัวของกลุ่มผู้ชุมนุมฯ กลุ่มพสกนิกรปกป้องสถาบัน เวลา 11.00 น. บริเวณหน้าอาคารสีลมคอมเพล็กซ์, กลุ่มเกียมอุดมไม่ก้มหัวให้เผด็จการ เวลา 16.00 น. หน้าโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ฝั่งพญาไท,
กลุ่มเครือข่ายจะนะรักถิ่น เวลา 16.00 น. บริเวณทำเนียบรัฐบาล, กลุ่ม People ศิลปินเพลงเพื่อราษฎร บริเวณหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพ ในเวลา 17.00 น., กลุ่มพลเมืองโต้กลับ บริเวณหน้าศาลฎีกาเวลา 17.30 น. และกลุ่ม
ผู้ก่อความไม่สงบทะลุแก๊ส บริเวณแยกดินแดง เวลา 17.30 น.  
ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้จัดเตรียมกำลังพลและยุทโธปกรณ์ เพื่อเข้าดำเนินการรักษาความสงบเรียบร้อยในการชุมนุมฯ ดังกล่าว โดยเน้นย้ำให้ปฏิบัติภายใต้กรอบกฎหมาย และคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนเป็นหลัก 
สำหรับการปฏิบัติเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย เมื่อวันที่ 28 พ.ย.2564 กลุ่มเสรีเทยย์พลัส
กลุ่มภาคีสีรุ้งเพื่อการสมรสเท่าเทียม และกลุ่มแนวร่วม บริเวณแยกราชประสงค์ มีการรวมกลุ่มผู้ชุมนุมฯ ประมาณ 400 คน เริ่มรวมกลุ่มในเวลา 15.00 น. และได้ทำการตั้งเต็นท์ กางธง ตั้งวางสิ่งของกีดขวางผิวการจราจรบนถนน
ราชดำริฝั่งขาออก ส่งผลให้การจราจรติดขัด  ทั้งนี้กลุ่มผู้ชุมนุมฯ ได้ทำกิจกรรมต่อเนื่องไปจนถึงเวลา 20.34 น. จึงได้ประกาศยุติการชุมนุมฯ และเจ้าหน้าที่สามารถเปิดการจราจรบนถนนราชดำริได้ในเวลา 21.05 น.
ด้านกลุ่ม People ศิลปินเพลงเพื่อราษฎร, กลุ่มพลเมืองโต้กลับ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และจากการปฏิบัติการแก้ไขปัญหากลุ่มผู้ก่อความไม่สงบตามมาตรการเชิงรุกในพื้นที่ บช.น.
ได้จัดเตรียม กำลังการปฏิบัติโดยมีการตั้งจุด ว.43 เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่สำคัญจำนวน 19 จุด สามารถป้องกันเหตุความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นได้ และจากการปฏิบัติตรวจพบผู้กระทำผิด 2 ราย พบของกลาง
เป็นอาวุธมีด และยาเสพติด จึงได้ควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป และยังสามารถจับกุมผู้กระทำผิดในกรณีการชุมนุมฯ ได้จำนวน 1 คดี ผู้ต้องหาจำนวน 3 คน โดยได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ด้านกลุ่มก่อความไม่สงบทะลุแก๊สเวลาประมาณ 21.00 น. เมื่อแยกย้ายจากการชุมนุมฯ บริเวณ
แยกราชประสงค์ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์มาก่อเหตุ จุดพลุไฟ ปาประทัดยักษ์ และวัตถุคล้ายระเบิด เสียงดังต่อเนื่องหลายครั้งบริเวณแยกประชาสงเคราะห์ โดยเจ้าหน้าที่เข้าระงับเหตุและตรึงกำลังบริเวณดังกล่าว โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเคลื่อนที่เร็วสามารถติดตามจับกุมตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุได้จำนวน 2 ราย พร้อมของกลางประทัดบอล จำนวน 40 ลูก ดินปืนจำนวน 1 ถุง พร้อมตรวจยึดรถจักรยานยนต์ที่ก่อเหตุ 3 คัน จึงได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการ
ตามกฎหมาย และได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อพิสูจน์ทราบตัวผู้ร่วมก่อเหตุที่หลบหนีไป เพื่อนำตัวมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
การดำเนินการทางกฎหมาย ตั้งแต่เดือน ก.ค.2563 จนถึงปัจจุบันมี คดีที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมฯ ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร จำนวนทั้งสิ้น 796 คดี ขณะนี้ได้ทำการสอบสวนเสร็จสิ้นและสั่งฟ้องไปแล้ว 401 คดี อยู่ระหว่างดำเนินการสอบสวน  395 คดี
ข้อห่วงใย บช.น. ขอย้ำเตือนไปยังผู้ที่คิดก่อเหตุความไม่สงบ และผู้ที่เข้าร่วมการชุมนุมฯ
โดยผิดกฎหมายว่าหากมีการก่อเหตุสร้างความเสียหายสร้างความเดือดร้อนในบ้านเมือง เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้าไปดำเนินคดีกับผู้ที่ก่อเหตุดังกล่าวทุกราย และ ขอแจ้งเน้นย้ำว่าขณะนี้แม้กรุงเทพมหานครจะถูกปรับให้เป็นพื้นที่จังหวัดนำร่องด้านการท่องเที่ยวแล้วก็ตาม แต่การชุมนุมฯ หรือรวมกลุ่มทำกิจกรรมที่มีลักษณะเสี่ยงต่อการแพร่โรคนั้น ยังคงเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, ประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินฯ ฉบับที่ 13 ลงวันที่ 28 ต.ค.2564 และ พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ จึงขอความร่วมมือประชาชนงดการร่วมกิจกรรมการชุมนุมฯ ต่างๆ เพื่อความสงบสุขและความปลอดภัยโดยรวมของประเทศชาติและประชาชน

สมาคมหนังสือพิมพ์ส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย (สภท.56ปี)

ธวัชชัยเฟื่องอนันต์รายงาน