ตำรวจเร่งติดตาม 2 คนร้ายจุดไฟเผาอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
ตำรวจเร่งติดตาม 2 คนร้ายจุดไฟเผาอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
วันศุกร์ที่ 5 พ.ย. 64 เวลา 11.00 น. พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น./โฆษก บช.น. แถลงข่าวเตรียมความพร้อมเกี่ยวกับสถานการณ์ การชุมนุมของกลุ่มเห็นต่างทางการเมือง ในวันที่ 5 พ.ย.64 เพื่อมุ่งรักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชน พร้อมกับอำนวยความสะดวกด้านการจราจรและการดำเนินงานในช่วงเวลาที่ผ่านมาและตอบข้อซักถามอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ณ ลานเอนกประสงค์ บช.น./ทีมประชาสัมพันธ์ บช.น
พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น./โฆษก บช.น. กล่าวว่า ขอประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารเพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบ กรณีวันที่ 5 พ.ย.2564 ได้มีการนัดรวมตัวของกลุ่มผู้ชุมนุมฯ กลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน บริเวณรัฐสภาเกียกกาย เวลา 10.00 น., กลุ่ม People ศิลปินเพลงเพื่อราษฎร บริเวณสะพานลอยหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพ เวลา 17.00 น., กลุ่มพลเมืองโต้กลับ บริเวณหน้าศาลฎีกาเวลา 17.30 น. และกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบทะลุแก๊ส บริเวณแยกดินแดง เวลา 17.30 น. นั้น
ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้จัดเตรียมกำลังพลและยุทโธปกรณ์ เพื่อเข้าดำเนินการรักษาความสงบเรียบร้อยในการชุมนุมฯ ดังกล่าว โดยเน้นย้ำให้ปฏิบัติภายใต้กรอบกฎหมาย และคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนเป็นหลัก
สำหรับการปฏิบัติเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2564 กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม, กลุ่มสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจองค์กรขนส่งมวลชนกรุงเทพ (สร.ขสมก.) , กลุ่ม People ศิลปินเพลงเพื่อราษฎร และ กลุ่มพลเมืองโต้กลับ เป็นไปด้วยความเรียบร้อยไม่มีความวุ่นวาย
ด้านกลุ่มก่อความไม่สงบทะลุแก๊ส เวลา 14.30 น. มีกลุ่มมวลชน 6 คน รวมกลุ่มบริเวณแยกใต้ด่วนดินแดง และได้ก่อเหตุปาประทัด จากนั้นได้ขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีออกจากพื้นที่ไป
จากนั้นในเวลา 02.31 น. ได้มีบุคคลก่อเหตุใช่สเปรย์สีแดงพ่นข้อความและจุดไฟเผาซุ้มประตูฐานพานรัฐธรรมนูญ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ได้รับความเสียหาย เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจสอบและเก็บรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีต่อผู้กระทำผิดตามกฎหมายต่อไป
จากการปฏิบัติการแก้ไขปัญหากลุ่มผู้ก่อความไม่สงบตามมาตรการเชิงรุกในพื้นที่ วันที่ 4 พ.ย.2564 สามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้จำนวน 1 คดี ผู้ต้องหาจำนวน 1 คน โดยเป็นการจับกุมตามหมายจับ ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุวางเพลิงเผาทรัพย์ เมื่อวันที่ 28 ก.ย.2564
การดำเนินการทางกฎหมาย ตั้งแต่เดือน ก.ค.2563 จนถึงปัจจุบันมี คดีที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมฯ ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร จำนวนทั้งสิ้น 782 คดี ขณะนี้ได้ทำการสอบสวนเสร็จสิ้นและสั่งฟ้องไปแล้ว 385 คดี อยู่ระหว่างดำเนินการสอบสวน 397 คดี
ข้อห่วงใย บช.น. ขอย้ำเตือนไปยังผู้ที่คิดก่อเหตุความไม่สงบ และผู้ที่เข้าร่วมการชุมนุมฯ
โดยผิดกฎหมายว่าหากมีการก่อเหตุสร้างความเสียหายสร้างความเดือดร้อนในบ้านเมือง เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้าไปดำเนินคดีกับผู้ที่ก่อเหตุดังกล่าวทุกราย และ ขอแจ้งเน้นย้ำว่าขณะนี้แม้กรุงเทพมหานครจะถูกปรับให้เป็นพื้นที่จังหวัดนำร่องด้านการท่องเที่ยวแล้วก็ตาม แต่การชุมนุมฯ หรือรวมกลุ่มทำกิจกรรมที่มีลักษณะเสี่ยงต่อการแพร่โรคนั้น ยังคงเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, ประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินฯ ฉบับที่ 13 ลงวันที่ 28 ต.ค.2564 และ พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ จึงขอความร่วมมือประชาชนงดการร่วมกิจกรรมการชุมนุมฯ ต่างๆ เพื่อความสงบสุขและความปลอดภัยโดยรวมของประเทศชาติและประชาชน
สมาคมหนังสือพิมพ์ส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย (สภท.56ปี)
ธวัชชัยเฟื่องอนันต์รายงาน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น