“ นครบาลแจง คดีอุ้มนักธุรกิจ"

“ นครบาลแจง คดีอุ้มนักธุรกิจ"

 วันพฤหัสบดีที่ 28 ต.ค.64 เวลา 16.30 น. พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น./โฆษก บช.น. แถลงข่าวคดีอุ้มนักธุรกิจชาวไต้หวันเกี่ยวพันกับคดีถุงมือยางส่งออก ท้องที่ สน.ทองหล่อ ณ ลานแถลงข่าว บช.น./ทีมงานประชาสัมพันธ์ บช.น.

พล.ต.ต.จิรสันต์  แก้วแสงเอก รอง ผบช.น./โฆษก บช.น. และ พล.ต.ต.นิธิธร  จินตกานนท์ 
รอง ผบช.น./ รองโฆษก บช.น. ขอประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารเพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบ ตามที่ได้ปรากฏข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับคดีขายถุงมือยาง ระหว่างนักธุรกิจชาวต่างชาติและเกิดข้อพิพาทกัน โดยผู้เสียหายในเรื่องดังกล่าวเป็นบุคคลเดียวกันกับผู้ต้องหาในคดีร่วมกันเรียกค่าไถ่ และพยายามฆ่าในพื้นที่ของ สน.ทองหล่อ ซึ่งเกิดเหตุเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2564 และมีข้อสงสัยจากสังคมว่าคดีดังกล่าวตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานไม่ทัน
ทำให้อำนาจการควบคุมตัวผู้ต้องหาหมดไป จนทำให้ผู้ต้องหาเป็นอิสระและเดินทางออกนอกประเทศไป นั้น 
    กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้ทำการตรวจสอบในเรื่องนี้แล้วพบว่าคดีดังกล่าว สน.ทองหล่อ ได้รับแจ้งความดำเนินคดี เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2564 โดยมีผู้ต้องหาที่ร่วมกระทำความผิดในคดีนี้จำนวน 23 คน โดยพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวน และมีความเห็นสั่งฟ้องส่งสำนวนให้พนักงานอัยการ เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2564 ซึ่งเมื่อพนักงานอัยการได้พิจารณาสำนวนดังกล่าวแล้ว ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนดำเนินการเพิ่มเติม 
2 ประเด็นหลัก ประเด็นแรกเกี่ยวกับอำนาจของพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ เนื่องจากจะกระทบกับอำนาจการฟ้องคดีต่อศาล ซึ่งในคดีดังกล่าวอาจมีการกระทำบางอย่างที่เป็นการกระทำความผิดนอกราชอาณาจักร และ
ถ้าหากเป็นการกระทำความผิดนอกราชอาณาจักร พนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบจะเป็นอำนาจของอัยการสูงสุด ประเด็นที่ 2 พยานที่พนักงานสอบสวนได้ทำการสอบปากคำบางปากนั้นอยู่ในต่างประเทศ เนื่องจากสถานการณ์
แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 พนักงานสอบสวนจึงได้สอบปากคำผ่านทาง Video Conference พนักงานอัยการมีความเห็นว่าอาจจะกระทบกับความน่าเชื่อถือน้ำหนักของพยานในชั้นศาลได้ จึงให้พนักงานสอบสวนแจ้งให้พยานจากต่างประเทศมาสอบปากคำใหม่ แต่เนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา พยานจึงไม่สามารถเดินทางมาให้ปากคำได้ ประกอบกับระยะเวลาในการขอฝากขัง และอำนาจการควบคุมตัวผู้ต้องหาดังกล่าว ถึงวันที่ 9 สิงหาคม 2564 จึงหมดอำนาจการควบคุมตัว ศาลจึงต้องปล่อยตัวผู้ต้องหาไป
    แต่กรณีดังกล่าวมิได้หมายความว่ากระบวนการสอบสวนและดำเนินคดีจะสิ้นสุด และผู้ต้องหาจะหลุดพ้นความผิดไปได้ การดำเนินคดียังคงมีต่อไปเพราะเมื่อพนักงานสอบสวนสามารถสอบปากคำพยานจากต่างประเทศ ซึ่งจะเดินทางมาประเทศไทยในช่วงเดือนพฤศจิกายน นี้ และเมื่อได้ข้อยุติว่าเป็นความผิดในราชอาณาจักร หรือนอกราชอาณาจักรแล้วนั้น พนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบจะแจ้งให้ผู้ต้องหามาพบเพื่อนำตัวส่งพนักงานอัยการสั่งฟ้องต่อศาลเพื่อให้ดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมได้ต่อไป
  อย่างไรก็ตาม กรณีดังกล่าว พล.ต.ท.สำราญ  นวลมา ผบช.น. ได้ให้ความสำคัญจึงได้มอบหมายให้ ผบก.น.5 ไปดำเนินการตรวจสอบว่าพนักงานสอบสวนมีความบกพร่องอย่างไรหรือไม่ ซึ่งถ้าหากบกพร่องก็จะดำเนินการทางปกครองตามอำนาจหน้าที่ต่อไป
 
สมาคมหนังสือพิมพ์ส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย (สภท.56ปี) 
ธวัชชัยเฟื่องอนันต์รายงาน

ความคิดเห็น

ข่าวฮอตชัดทุกกระแส

วิเคราะห์ เจาะลึก วัตถุมงคลหลวงพ่อพัฒน์ วัดห้วยด้วน

“ธรรมาภิบาล”เร่งหารือ กกต.ให้จัดการเลือกตั้งใหม่

ฟุตบอลสูงอายุชิงถ้วย ร.10 68 ทีมร่วมฟาดแข้ง

ชมรมทหารพราน ค่ายปักธงชัย แจกข้าวสาร อาหารแห้ง ณ​ ชุมชนชาวคลองลัดภาชี

ราชกรีฑาสโมสรจัดศึกกีฬาม้าแข่งไร้พนันชิงชัยแบบนิวนอร์มัล

ไทย ต้านไม่ไหว พ่ายญี่ปุ่น 0-7

ทนายอนันต์ชัย โพสต์ FB ระบุ