พีรภัทธ์ได้ไปต่อ ไทยประท้วงชนะ เข้ารอบ16คน ศึกมวยชิงแชมป์โลก

อบ้ายุคใหม่ !พีรภัทธ์ได้ไปต่อ ไทยประท้วงชนะ เข้ารอบ16คน ศึกมวยชิงแชมป์โลกที่เซอร์เบีย

พีรภัทธ์ เยียะสูงเนิน  ประท้วงผลแข่งขันสำเร็จ หลังกรรมการกลับลำคำตัดสิน ให้ไทยชนะ ขณะที่ ปฎิภาณ อุทัยดา และ  คุณาธิป ปิดนุช  แพ้ความเก๋า ตกรอบสอง  ศึกมวยชิงแชมป์โลกที่ประเทศเซอร์เบีย

พีรภัทธ์ เยียะสูงเนิน นักชกวัย21ปี  เจ้าของเหรียญทองแดง มวยเยาวชนชิงแชมป์โลกปี 2018 ได้ยื่นหนังสือประท้วง หลังเป็นฝ่ายแพ้คะแนน เบียมบา เออร์เดเน่ ออตกอนบาตาร์ นักชกมองโกเลีย 1-4 ทว่าฝ่ายไทยไม่พอใจการตัดสินที่ค้านสายตา จึงยื่นหนังสืออุทธรณ์ต่อคณะกรรมการควบคุมการประท้วง  ทำให้กรรมการกลับไปพิจารณาใหม่ ผลชี้ขาดสุดท้ายให้ พีรภัทธ์

เป็นฝ่ายชนะคะแนน 4-1 เข้ารอบ16คนต่อไป  ขณะที่ รุ่น 60กก.คุณาธิป ปิดนุช  พ่ายคะแนน ซามาตาลี ทอลทาเยฟ(คาซัคสถาน) ตกรอบ 32คน เช่นเดียวกับ ปฎิภาณ อุทัยดา แพ้คะแนน บายาร์ซัลคาน เอนดห์ อัมกาลาน(มองโกเลีย)  ศึกมวยสากลชิงแชมป์โลก ที่เซอร์เบีย เมื่อวันที่ 29 ต.ค.ที่ผ่านมา

ศึกมวยสากลชายชิงแชมป์โลก"Men's World Boxing Championship 2021" ระหว่าง 

22 ต.ค.-7 พ.ย.ที่กรุงเบลเกรด ประเทศเซอร์เบีย เมื่อช่วงดึกวันที่ 29ต.ค.มีนักชกไทยลงแข่งขัน3รุ่น ในรอบ 32 คน  

รุ่น 71กก. พีรภัทธ์ เยียะสูงเนิน นักชกวัย 21 ปี  เจ้าของเหรียญทองแดง มวยเยาวชนชิงแชมป์โลกปี 2018  ที่โชว์ฟอร์มดีในรอบแรก พบ เบียมบา เออร์เดเน่ ออตกอนบาตาร์ นักชกมองโกเลีย ที่เก๋าเกมกว่า ผลปรากฎว่า ทั้งคู่ชกกันอย่างดุเดือด  พีรภัทธ์ เป็นฝ่ายแพ้คะแนน 1-4 ทว่าหลังการชกทีมสต๊าฟโค้ชทีมชาติไทย ไม่พอใจคำตัดสิน ยื่นหนังสือประท้วงไปยังคณะกรรมการควบคุมการประท้วง หลังจากมีการดูเทปการชก ประธานคณะกรรมการควบคุมการประท้วง ส่งหนังสือแจ้งผลกลับมามายังทีมชาติไทย โดยให้พีรภัทธ์ เป็นฝ่ายชนะคะแนน 4-1 ผ่านเข้ารอบ 16 คนสุดท้าย ต่อไป

ขณะที่รุ่น 60กก. คุณาธิป ปิดนุช  กำปั้นเหรียญเงินซีเกมส์ 2019 ไม่ต้องออกแรงเหนื่อย หลังชนะผ่าน ในรอบแรก  ต้องเจอกับ ซามาตาลี โทลตาเยฟ นักชกคาซัคสถาน ตลอดการชก 3 ยก ทั้งคู่แลกหมัดกันอย่างสนุก ก่อนที่คุณาธิป แพ้คะแนนสูสี 2-3 เสียง ตกรอบ32คนไปอย่างน่าเสียดาย

ปิดท้ายที่ รุ่น 54กก. ปฎิภาณ อุทัยดา ที่ได้บายในรอบแรก  ขึ้นเวทีพบ บายาร์ซัลคาน เอนดห์ อัมกาลาน (มองโกเลีย) ผลปรากฎว่า ปฎิภาณ พยายามเต็มที่ แต่สู้นักชกมองโกเลียไม่ ได้เป็นฝ่ายแพ้คะแนน0-5 ตกรอบ32คนไปอีกราย

ด้าน"โค้ชแซม"กามนิต นารีรักษ์ หัวหน้าสต๊าฟโค้ชทีมชาติไทย เผยว่าได้ยื่นหนังสือประท้วงต่อคณะกรรมการควบคุมการประท้วง โดยยื่นประท้วงคำตัดสินคู่ของ พีรภัทธ์ เยียะสูงเนิน กับ  เบียมบา เออร์เดเน่ ออตกอนบาตาร์ (มองโกเลีย)  ในยกที่ 2 ผลปรากฎว่าหลังคณะกรรมการประท้วงรับเรื่อง แล้วดูเทปการชกใหม่ จึงมีมติการตัดสินให้ พีรภัทธ์เป็นฝ่ายชนะคะแนน 4-1 นอกจากนี้ สฝั่งสตีาฟโค้ชทีมชาติไทยยังยื่นประท้วงการตัดสินคู่ของ คุณาธิป ปิดนุช ที่เป็นฝ่ายแพ้ ซามาตาลี โทลตาเยฟ นักชกคาซัคสถาน ทว่ากรรมการยืนยันคำตัดสินเดิมให้คุณาธิปแพ้คะแนน2-3 ตามเดิม

ทั้งนี้สหพันธ์มวยสากลนานาชาติ(ไอบ้า)ออกกฎกติกาใหม่สำหรับการประท้วงผลการตัดสิน โดยระบุว่า  1.ชาติใดไม่เห็นด้วยกับการตัดสินของกรรมการสามารถยื่นหนังสือประท้วงได้ ภายใน 15 นาที หลังการแข่งขันเสร็จสิ้น และไม่เสียค่าใช้จ่าย 2.สามารถใช้สิทธิ์ยื่นประท้วงได้ 3 ครั้ง ใน1ทัวร์นาเมนต์ ถ้าการประท้วงเป็นผล ยังเหลือ สิทธิ์ 3 ครั้ง เหมือนเดิม แต่ถ้าประท้วงไม่สำเร็จ เท่ากับว่าได้ใช้สิทธิ์ไปแล้ว 1 ครั้ง เมื่อครับ 3 ครั้ง จะไม่สามารถยื่นประท้วงได้อีก 3. การประท้วงแต่ละครั้ง เลือกการประท้วงได้ หลายรูปแบบ   โดยจะประท้วง ผู้ชี้ขาดบนเวที หรือ ประท้วง ผลการตัดสินทั้ง 3 ยก หรือ เลือกประท้วงยก ที่ดูว่านักกีฬาเราชกชนะ โดย ไอบ้า จะนำวีดีโอ  ที่โดนประท้วง มาฉาย ดูอีกครั้ง และตัดสินใหม่ 

สรุปตอนนี้นักชกไทย 10 รุ่น ตกรอบแรก 2 คน คือรุ่น 67 กก. อธิชัย เพิ่มทรัพย์ และ รุ่น 80 กก. จักรพงศ์ ยมโคตร และ ตกรอบ 32 คน   2 คน คือ รุ่น54กก.ปฎิภาณ อุทัยดา และ รุ่น60กก. คุณาธิป ปิดนุช 

ส่วนนักชกที่ผ่านเข้ารอบ 6 คน คือ วุฒิชัย ยุระชัย(รุ่น48กก.) , ธนรัฐ แสงเพชร (51กก.),“เรือหลวง นาวีอันดามัน”รุตชการญ์ จันทร์ตรง(57กก.),สมชาย วงศ์สุวรรณ (63.5กก.),พีรภัทธ์ เยียะสูงเนิน(71กก.)  และ "หลานสมจิตร"วีระพล จงจอหอ เจ้าของเหรียญทองแดงยูธโอลิมปิค2018(75กก.)