สตม.แถลงผลจับ 4 คดี รวบคู่สามีภรรยาซุกสองสาวเวียดนามหวังออกชายแดนแม่สอด

สตม.แถลงผลจับ 4 คดี รวบคู่สามีภรรยาซุกสองสาวเวียดนามหวังออกชายแดนแม่สอด

สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.เดชา กัลยาวุฒิพงศ์ ผบก.ตม 5, พ.ต.อ.เอกกร บุษบาบดินทร์ รอง ผบก.ตม.5, พ.ต.อเศรษฐภัทร ณ สงขลา ผกก.สส.บก.ตม.5 และ พ.ต.ท.จักกราวุฒิ สุภาภรณ์ประดับ สว.ตม.จว.กำแพงเพชร ร่วมแถลงข่าว ดังนี้
ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดกำแพงเพชร และ สภ.เมืองกำแพงเพชร ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายกฤตภาส์ และ น.ส.ธนาวดี พร้อมของกลางรถยนต์ทะเบียนหนองบัวลำภู ซึ่งใช้เป็นพาหนะในการขับนำคนต่างด้าวสัญชาติเวียดนามหลบหนีเข้าเมือง จำนวน 2 คน คือ MISS.DO อายุ 28 ปี และ MISS.NGUYEN อายุ 24 ปี เดินจาก กทม. - อ.แม่สอด จว.ตาก ส่ง พงส.สภ.เมืองกำแพงเพชร ดำเนินคดี 
พฤติการณ์ ตามวันเวลาเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม พบนายกฤตภาส์ และ น.ส.ธนาวดี ขับรถยนต์ของกลางนำคนต่างด้าวสัญชาติเวียดนามดังกล่าวเดินทางจาก กรุงเทพฯ ไป อ.แม่สอด จว.ตาก จึงจับกุม ส่ง พงส.สภ.เมืองกำแพงเพชร จากนั้นได้ทำการขยายผลโดยซักถามคนต่างด้าวทราบว่าคนต่างด้าวได้หลบหนีเข้ามาตามช่องทางธรรมชาติชายแดนมาเลเซีย-ไทย ด้าน 
อ.สะเดา จว.สงขลา จากนั้นได้มีชายไทย 2 คน พามาที่สนามบินหาดใหญ่ ซื้อตั๋วโดยสารให้ และโดยสารเครื่องสายการบินแอร์เอเชีย (FD3111) มาส่งคนต่างด้าวถึง ทอ.กรุงเทพฯ โดยนั่งอยู่แถวด้านหน้า จากการตรวจสอบรายชื่อผู้โดยสารและภาพจากกล้องวรจรปิดภายในสนามบินทราบว่าชาย 2 คนดังกล่าวคือ นายสุภชัย และนายโชคอนันต์ จึงได้ให้คนต่างด้าวชี้ยืนยันภาพถ่าย และนำพยานหลักฐานทั้งหมดส่งให้ พงส.สภ.เมืองกำแพงเพชร เพื่อดำเนินคดีกับนายสุภชัย และนายโชคอนันต์ฯ ซึ่งต่อมา พงส. ได้ยื่นคำร้องและศาลจังหวัดกำแพงเพชรได้อนุมัติหมายจับที่ จ.119/2564 และ จ.120/2564 ลง 23 มิ.ย. 64 ให้จับกุมนายสุภชัย และนายโชคอนันต์ มาดำเนินคดี                                    
ต่อมาเจ้าหน้าที่ ตม.จว.กำแพงเพชร ได้ร่วมกับ บก.ปพ.บช.ก., กก.สส.บก.ตม.6 และ ตม.ทอ.หาดใหญ่ บก.ตม.2 จับกุมตัวนายสุภชัย และนายโชคอนันต์ ส่ง พงส.สภ.กำแพงเพชร ดำเนินคดีในความผิดฐาน “ร่วมกันช่วยซ่อนเร้นหรือช่วยด้วยประการใด ๆ ให้คนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายพ้นจากการจับกุม
สตม. ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่าง ๆ รวมทั้งดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ 

คดีที่ 2 ตม.จว.ตาก ได้ร่วมกันตั้งจุดตรวจจุดสกัดที่บ้านบ้านห้วยหินฝน ต.แม่ปะ อ.แม่สอด จว.ตาก เมื่อถึงเวลาเกิดเหตุพบรถยนต์ต้องสงสัย จากการตรวจสอบพบผู้ถูกจับที่ 1 คือ นายอาทิตย์ อายุ 43 ปี สัญชาติไทย อาศัยที่ ม.8 ต.เหมืองจี้ อ.เมืองลำพูน จว.ลำพูน เป็นผู้ขับขี่ และทำการตรวจสอบภายในรถยนต์พบบุคคลต่างด้าวสัญชาติจีน คือ MR.WANG อายุ 22 ปี สัญชาติจีน พร้อมพวกรวม 4 คน จึงขอตรวจสอบเอกสารการเดินทาง จากการตรวจสอบบุคคลต่างด้าวสัญชาติจีน ทั้ง 4 ราย ปรากฏว่าไม่มีเอกสารหนังสือเดินทางหรือเอกสารที่ใช้แทนหนังสือเดินทางมาแสดง รับว่าตนเดินทางจากประเทศจีน เข้า สปป.ลาว ลักลอบเดินทางเข้าประเทศไทยทางช่องทางธรรมชาติทาง อ.เชียงแสน จว.เชียงราย แล้วมีคนมารับช่วงต่อมาส่งที่ปั้มแห่งหนึ่งใน อ.ดอยสะเก็ด จากการสอบถามผู้ขับขี่ ผู้ขับขี่ให้การว่า ตนรับผู้ต้องหาจากปั้มน้ำมัน พี.ที. อ.ดอยสะเก็ด 
จว.เชียงใหม่ เพื่อนำมาส่งในพื้นที่ อ.แม่สอด จว.ตาก โดยได้รับการว่าจ้างเป็นจำนวนเงิน 20,000 บาท เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาและนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง นำส่ง สภ.แม่สอด เพื่อดำเนินคดีต่อไป

คดีที่ 3 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตม.จว.สงขลา ร่วมกับ กก.สส.บก.ตม.6, สภ.หาดใหญ่ และ ส.รฟ.หาดใหญ่ กก.3 บก.รฟ. ทลายเครือข่ายลักลอบ ช่วยเหลือคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง รายสำคัญ โดยได้จับกุมนายโสภณ หรืออ้วน อายุ 46 ปี สัญชาติไทย นายหน้าผู้ให้การช่วยเหลือคนต่างด้าวขณะพยายามลักลอบขึ้นรถไฟเพื่อเดินทางไปกรุงเทพมหานคร โดยกล่าวหาว่า “ให้ที่พักพิง ซ่อนเร้น ช่วยเหลือด้วยประการใด ๆ ให้คนต่างด้าวนั้นพ้นการจับกุมจากพนักงานเจ้าหน้าที่” พร้อมคนต่างด้าว รวม 3 คน (สัญชาติจีน 2 คน สัญชาติ มาเลเซีย 1 คน) โดยกล่าวหาว่า “เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” บริเวณชานชาลาที่ 3 สถานีรถไฟหาดใหญ่ ต.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จว.สงขลา นำส่งพงส.สภ.หาดใหญ่ ดำเนินคดีตามกฎหมาย 

คดีที่ 4 ตม.จว.ชุมพร ร่วมกับ กก.สส.บก.ตม.6 โดยการตรวจสอบกล้องวงจรปิดตลอดเส้นทาง, ซักถามผู้ต้องหา, ตรวจสอบข้อมูลการใช้โทรศัพท์ และเส้นทางการเงิน นายธนัตถ์กรณ์ ให้การว่า ได้รับการว่าจ้างจากนายประสิทธิ์ (ทราบชื่อภายหลัง) ซึ่งรู้จักกันมาหลายปี โดยมีหลักฐานการโอนเงินจากนายประสิทธิ์ ให้นายธนัตถ์กรณ์ เป็นค่าจ้าง จำนวน 3,300 บาท ติดต่อให้รับคนต่างด้าว จำนวน 6 คน ที่โรงแรมในตัวเมืองหาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จว.สงขลา เพื่อไปส่งที่กรุงเทพฯ บริเวณ ถนนพระราม 2 ในราคา 16,000 บาท โดยมีนายปวิตร (ลูกชายของนายประสิทธิ์) ทำหน้าที่ประสานงานและให้การช่วยเหลือในการกระทำความผิดครั้งนี้ด้วย จึงได้ประสาน ตม.จว.สงขลา และ กก.สส.บก.ตม.6 ตรวจสอบข้อมูลกล้องวงจรปิดที่โรงแรม พบว่ามีนายจิรพัทธ์ ทำหน้าที่เปิดห้องพักให้คนต่างด้าวเข้าพักที่ อ.หาดใหญ่ จว.สงขลา และนายบาราเห็ง 
ทำหน้าที่รับขนคนจากจังหวัดชายแดนภาคใต้มาส่งที่โรงแรมใน อ.หาดใหญ่ จากการตรวจสอบข้อมูลเส้นทางการเงิน พบว่านายประสิทธิ์ ได้รับการว่าจ้างจากนายอุทัย โดยมีหลักฐานการโอนเงินทางบัญชี และนายอุทัย ได้รับการว่าจ้างต่อจากนางยัน สัญชาติเมียนมา โดยมีหลักฐานการโอนเงินจาก น.ส.สุทิศา ซึ่งเป็นบุตรบุญธรรมของนางยัน และยังตรวจสอบพบหลักฐานการโอนเงินของนายมาหมัดให้นายบาราเห็ง เพื่อเป็นค่าจ้างในการขนคนต่างด้าวด้วย จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดนำส่ง 
พงส.สภ.ละแม จว.ชุมพร เพื่อประกอบการขอออกหมายจับต่อไป
หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th จะขอบพระคุณอย่างยิ่ง


ความคิดเห็น

ข่าวฮอตชัดทุกกระแส

วิเคราะห์ เจาะลึก วัตถุมงคลหลวงพ่อพัฒน์ วัดห้วยด้วน

“ธรรมาภิบาล”เร่งหารือ กกต.ให้จัดการเลือกตั้งใหม่

ฟุตบอลสูงอายุชิงถ้วย ร.10 68 ทีมร่วมฟาดแข้ง

ชมรมทหารพราน ค่ายปักธงชัย แจกข้าวสาร อาหารแห้ง ณ​ ชุมชนชาวคลองลัดภาชี

ราชกรีฑาสโมสรจัดศึกกีฬาม้าแข่งไร้พนันชิงชัยแบบนิวนอร์มัล

ไทย ต้านไม่ไหว พ่ายญี่ปุ่น 0-7

ทนายอนันต์ชัย โพสต์ FB ระบุ