คณะไทยเป็นหนึ่งร้องผู้ตรวจการกระทรวงมหาดไทยตรวจสอบศาลเจ้าพ่อเสือ

คณะไทยเป็นหนึ่งร้องผู้ตรวจการกระทรวงมหาดไทยตรวจสอบศาลเจ้าพ่อเสือ กลางลำแม่น้ำปิงกรณีข้อพิพาทสร้างไม่เสร็จมากว่า 20 ปี

จากกรณีที่คุณณัฐธีร์ พัสวีดิลกภัทร์ (คุณหนึ่ง) คณะทำงานไทยเป็นหนึ่ง หอบหลักฐานเอกสาร ขอเข้าพบกับผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร เพื่อให้สร้างศาลเจ้าพ่อเสือ เกาะกลางแม่น้ำปิง ต่อจนแล้วเสร็จ หลังจากที่มีคำสั่งให้รื้อถอน เพราะทางโยธาธิการให้ความเห็นว่าอาคารไม่มีความแข็งแรง

  

ทางสมาคมสื่อธรรมาภิบาลต้านคอรัปชั่น จึงได้ลงพื้นที่จังหวัดกำแพงเพชร เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าว จึงทราบว่า ศาลเจ้าพ่อเสือ กลางลำน้ำปิงแห่งนี้ มีการก่อสร้างมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2535 ประมาณ 20 กว่าปีมาแล้ว ใช้งบประมาณในการก่อสร้าง 20  ล้านบาท โดยใช้งบของทางจังหวัดกำแพงเพชร รวมทั้งเงินบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธา ชึ่งขณะนี้ยังไม่แล้วเสร็จ  จนคุณณัฐธีร์ พัสวีดิลกภัทร์ (คุณหนึ่ง) คณะทำงานใจเป็นหนึ่ง หอบหลักฐานเอกสาร ขอเข้าพบกับผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร เพื่อให้สร้างศาลเจ้าพ่อเสือ เกาะกลางแม่น้ำปิง ต่อจนแล้วเสร็จ

ต่อมาวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2564 นายภูสิต สมจิตร์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ได้ลงพื้นที่จังหวัดกำแพงเพชร เพื่อตรวจสอบและหาข้อมูลต่างๆ ของศาลเจ้าพ่อเสือ กลางลำน้ำปิง พร้อมหน่วยงานราชการในพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น โยธาธิการ กรมการปกครอง เจ้าหน้าที่ส่วนท้องถิ่น กรมเจ้าท่า กรมที่ดิน สาธารณสุขจังหวัด ฯลฯ โดยมีคุณณัฐธีร์ พัสวีดิลกภัทร์ (คุณหนึ่ง) คณะทำงานไทยเป็นหนึ่ง ร่วมในคณะด้วย

โดยวันนี้ นายภูสิต สมจิตร์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะได้เดินสำรวจตัวอาคารศาลเจ้าพ่อเสือตั้งแต่ชั้นล่างจนถึงชั้น 4 ชั้นบนสุด พร้อมทั้งสอบถามข้อมูลต่างๆ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งคุณณัฐธีร์ พัสวีดิลกภัทร์ (คุณหนึ่ง) ด้วย แต่หลังจากสำรวจอาคารเล้ว  ท่านก็บอกว่า ดูแล้วน่าจะแข็งแรงทนทาน และถ้าสร้างต่อจนแล้วเสร็จ ก็จะเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ที่มีความสวยงาม และเป็นที่สักการะบูชาองค์เจ้าพ่อเสือที่มีผู้คนเคารพบูชา รวมทั้งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัด อีกทั้งยังสามารถสร้างรายได้จากนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจังหวัดกำแพงเพชรด้วย

ด้านคุณณัฐธีร์ พัสวีดิลกภัทร์ (คุณหนึ่ง) คณะทำงานไทยเป็นหนึ่ง กล่าวว่า อาคารศาลเจ้าพ่อเสือแห่งนี้ เคยมี รายงานการประชุม จากสถานที่ราชการแห่งหนึ่งระบุว่า "อาคารศาลเจ้าพ่อเสือแห่งนี้มีความแข็งแรง ปลอดภัย" ตนจึงอยากให้สร้างศาลเจ้าพ่อเสือแห่งนี้ต่อไปจนแล้วเสร็จ เพื่อเป็นประโยชน์ของชาติและคนในท้องถิ่น และอยากให้มีการตรวจสอบอาคารศาลเจ้าพ่อเสือแห่งนี้อีกครั้งอย่างถี่ถ้วน รอบคอบ ว่ามีความแข็งแรงทนทาน จริงหรือไม่ เพื่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน แต่ถ้าอาคารศาลเจ้าพ่อเสือไม่แข็งแรง ไม่มีความปลอดภัย ก็ให้รื้อ ทุบทิ้งได้ แต่ถ้าแข็งแรง ทนทาน ปลอดภัย ก็อยากให้สร้างต่อจนแล้วเสร็จ

แต่เป็นที่น่าสังเกตุว่าสำนักงานที่ดินได้รังวัดที่ดินบนเกาะกลางแม่น้ำปิง เมื่อวันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2562 มีเนื้อที่ 44-2-42 ไร่ เพิ่งประกาศออก นสล. ให้เป็นพื้นที่สาธารณะประโยชน์ที่ประชาชนใช้ร่วมกัน แต่เมื่อก่อนพื้นที่แห่งนี้ไม่ทราบว่าหน่วยงานไหนรับผิดชอบ แต่การขอบริจาคเงินจากหน่วยงานต่างๆ รวมทั้งประชาชนที่เคารพบูชาเจ้าพ่อเสือในการสร้างศาลเจ้าพ่อเสือ 

ไม่ทราบว่าหน่วยงานที่รับเงินบริจาคนั้น เป็นการรับมาโดยมิชอบด้วยกฏหมาย และเงินที่รับบริจาคมานั้นบางส่วนนั้นอยู่ที่ไหน

ขอตั้งเป็นข้อสังเกตุไว้ว่า "หน่วยงานไหนต้องรับผิดชอบในเรื่องนี้"