นริศ ผนึก สามารถ รุดช่วยชาวบ้านพัทลุง

นริศ ผนึก สามารถ รุดช่วยชาวบ้านพัทลุงโดนฟ้องหลังค้ำประกันหนี้กยศ !!
      
นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรมและผู้อำนวยการศูนย์ร้องทุกข์พรรคพลังประชารัฐ ได้รับเรื่องร้องทุกข์จาก นายนริศ ขำนุรักษ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ ว่ามีชาวบ้านเดือดร้อนจากการค้ำประหนี้กยศ จึงมาร้องให้นายสามารถ ทราบ จึงได้มอบหมายให้ สำนักงานยุติธรรมจังหวัดพัทลุงดำเนินการลงพื้นที่กรณีบ้านถูกบังคับคดีขายทอดตลาดเพราะเป็นหนี้ กยศ.ตามนโยบายของพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เร่งให้ศูนย์ร้องทุกข์ของพรรคเร่งแก้ปัญหาประชาชนในทุกมิติ

โดยทั้งนี้นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เน้นให้ยุติธรรมจังหวัดทั่วประเทศทำงานเชิงรุกช่วยประชาชน ในกรณีนี้ชาวบ้านในพื้นที่ อำเภอกงหรา เดือดร้อนหนัก 11 ชีวิต ไร้ที่อาศัยหลังใช้ที่ดินค้ำกู้ กยศ. ถูกฟ้องขายทอดตลาด”

สำนักงานยุติธรรมจังหวัดพัทลุง ขอรายงานการช่วยเหลือผู้เสียหายหรือเหยื่ออาชญากรรมแบบบูรณาการ Justice care (ยุติธรรมใส่ใจ) ภายใต้นโยบาย “ยุติธรรมสร้างสุข ยุติธรรมเชิงรุก สร้างสุขให้กับประชาชน”ชาวบ้านในพื้นที่ อำเภอกงหรา เดือดร้อนหนัก 11 ชีวิต ไร้ที่อาศัยหลังใช้ที่ดินค้ำกู้ กยศ.ถูกฟ้องขายทอดตลาดล่าสุด ถูกคนซื้อฟ้องไล่ที่ ไม่มีที่ไป 4 ชีวิตถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับดำเนินคดีในข้อหาบุกรุกวอนขอความเมตตาช่วยเหลือ วันที่ 28 มกราคม 2564 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 2 หมู่ 1ตำบลคลองเฉลิม อำเภอกงหรา จังหวัดพัทลุง หลังได้รับเรื่องร้องเรียนจากนายเจริญ หนูหนุด อายุ 41 ปี และนางสาวนิตย์ ฉุนอิ่ม อายุ 40 ปีสองสามีภรรยา ว่าครอบครัวได้รับความเดือดร้อน 11 ชีวิต กำลังจะไร้ที่อยู่ ตนและภรรยาเครียดมาก ถึงขั้นคิดจะฆ่าตัวตายนายเจริญ ฯ เล่าว่า ก่อนหน้านี้ นายหลีม หนูหนุด อายุ 64 ปี ผู้เป็นพ่อ นำโฉนดที่บ้าน ไปค้ำประกัน ให้น้องชายกู้เงินกองทุนเพื่อการศึกษา หรือ กยศ แต่น้องชายกลับเรียนไม่จบ และออกจากบ้าน ไปหางานทำที่ต่างจังหวัด จนตนมาทราบเรื่องอีกครั้งเมื่อบ้านถูกขายทอดตลาด และมีคนไปซื้อที่บ้านของตนไว้แล้ว ยอมรับว่าก่อนหน้านี้มีเอกสาร ส่วนหนึ่งส่งมาที่บ้าน ซึ่งผู้เป็นพ่อและแม่เป็นคนเซ็นรับ โดยที่ทั้งคู่ก็ไม่ค่อยรู้หนังสือ พวกตนเองก็เป็นคนบ้านๆมีความรู้แค่งู ๆ ปลา ๆ จนกระทั่งเมื่อปีที่แล้วมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปจับกุมตนและภรรยา พร้อมด้วยพ่อและแม่ในข้อหาบุกรุก จึงทราบเรื่องว่า บ้านถูกขายทอดตลาด และมีคนซื้อไปแล้ว ตนและครอบครัวพยายามเจรจาขอความเมตตาซื้อกลับ แต่ ผู้ซื้อขายในราคา 6 แสน พร้อมระบุให้ตนจ่ายให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี ซึ่งตนก็ไม่มีปัญญา เพราะครอบครัวหาเช้ากินค่ำ มีรายได้แค่วันละ 300 – 400 บาท ต้องนำมาเลี้ยงอีก 7 ชีวิต ในครอบครัวมีเงินนอกบ้างก็ได้จาก บุตรสาวทั้งกำลังเรียน ชั้น ม.4 กับ ม.5 ในโรงเรียนกงหราพิชากร เป็นนักมวยหญิงเวลาขึ้นชกมวย ก็มีค่าตัว จึงได้เงินอีกส่วนมาช่วยในเรื่องค่าใช้จ่ายในครอบครัว สำหรับยอดเงิน ที่เป็นหนี้จนเกิดการฟ้องยึดทรัพย์และขาดทอดตลาดเป็นยอดเงินกู้ กยศ ในวงเงิน 9 หมื่นบาทแต่ที่ดินติดจำนองอยู่ที่สหกรณ์การเกษตรกงหรา 70,000 บาท และทราบว่าผู้ที่ซื้อบ้านได้นำเงินไปจ่ายหนี้ที่สหกรณ์การเกษตรกงหราแล้วด้วย ส่วนที่ถูกจับในข้อหาบุกรุก อยู่ระหว่างประกันตัวชั้นศาล และล่าสุด ผู้ซื้อได้ยื่นคำขาดให้ออกจากที่ดิน ภายในเดือนมีนาคม นายเจริญ ฯ เล่าด้วยว่า ในโฉนดที่ดินกล่าวมีบ้านอยู่ 3 หลังเป็นของผู้เป็นพ่อ และแม่ 1 หลัง อาศัยรวมกับพี่ชายคนโต อีกหลังเป็นบ้านของตน รวม 11 ชีวิต ส่วนอีก 1หลังสภาพเก่าไม่มีคนอยู่ โดยเฉพาะที่บ้านของตนอาศัยอยู่ 7 ชีวิต ประกอบด้วย ตนและภรรยา บุตรสาว 2 คน และมีลูก ๆ ของน้องชายอีก 3 คน ทุกคนอยู่ในวัยกำลังเรียน ทั้งหมดซึ่งหากไม่มีบ้าน พวกตนก็ไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน ไม่มีที่ไป ตนและภรรยาเครียดมาก ถึงขั้นคิดค่าตัวตาย ยอมรับเป็นความผิดพลาดของน้องชาย ที่กู้เงินไปแล้ว ก็เรียนไม่จบ และไม่ยอมส่งคืน ทั้งได้หายไปจากบ้าน จนไปได้ภรรยาสุดท้ายก็ต้องเลิกกับภรรยา และนำลูก จำนวน 3 คน เป็นชาย 2 คน หญิง 1 คน มาให้ที่บ้านเลี้ยงดูอีก แต่ตอนนี้ตนก็ไม่โทษน้องชาย เพราะรู้ว่า น้องชายก็ลำบากเหมือนกันตอนนี้ตนและครอบครัวไม่รู้จะหันหน้าไปไหน มืดแปดด้านไม่มีที่ไป จึงอยากกราบวิงวอนให้ ผู้ว่าราชการจังหวัดได้พัทลุง ได้ช่วยเหลือไกล่เกลี่ย ให้พวกตน 11 ชีวิตได้มีที่อาศัยหลบแดดหลบฝน

เจ้าหน้าที่สำนักงานยุติธรรมจังหวัดพัทลุง ขอเรียนว่า ได้ดำเนินการให้ความช่วยเหลือตามแนวทาง Justice Care ยุติธรรมใส่ใจ 24 ชั่วโมง ดังนี้ 
เจ้าหน้าที่สำนักงานยุติธรรมจังหวัดพัทลุงได้ลงพื้นที่พบผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 ตำบลคลองเฉลิม อำเภอกงหรา จังหวัดพัทลุง และเดินทางไปยังบ้านเลขที่ 2หมู่ที่ 1 ตำบลคลองเฉลิม อำเภอกงหรา จังหวัดพัทลุง ที่ได้รับความเดือดร้อน โดยเจ้าหน้าที่สำนักงานยุติธรรมจังหวัดพัทลุงได้ไปพบกับผู้ได้รับความเดือนร้อนทั้ง 4 คนและบุคคล ในครอบครัว จากการสอบถามนายเจริญ  หนูหนุด เบอร์โทรศัพท์ 086-297-9129/097-980-9860 (ภริยา) ให้ข้อมูลว่าบ้านที่ตนและครอบครัวอยู่อาศัยบนที่ดินของนายหลีม  หนูหนุด (บิดา) ผู้ค้ำประกันเงินกองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาของนายวุฒิศักดิ์ หนูหนุด โดนยึดบังคับคดีขายทอดตลาดจริง และมีนายเขมชาติ เสนาทิพย์ (ผู้ซื้อทรัพย์สินจากการขายทอดตลาด) ในราคา 90,000 บาท แต่ที่ดินติดจำนองอยู่ที่สหกรณ์การเกษตรกงหรา 70,000 บาท และทราบว่าผู้ที่ซื้อได้นำเงินไปจ่ายหนี้ที่สหกรณ์การเกษตรกงหราแล้ว และตามบันทึกการจับกุม สภ.กงหรา เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2563 เวลาประมาณ 11.00 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกับนายหลีม หนูหนุด และบริวาร ที่บ้านเลขที่ 2 และ บ้านเลขที่ 267 หมู่ที่ 1 ตำบลคลองเฉลิม อำเภอกงหรา จังหวัดพัทลุง ต่อมาเจ้าของที่ดินฟ้องนายหลีม หนูหนุด และบริวาร อีก 3 คน ฐานความผิดไม่ยอมออกจากบ้านและที่ดินที่เจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดตามคำบังคับศาล และใช้เงินสดในการขอประกันตัวในชั้นศาลเป็นเงินจำนวน 20,000 บาท และศาลจังหวัดพัทลุง นัดพร้อมเมื่อวันที่ 21มกราคม 2564 ที่ผ่านมา และศาลนัดอีกครั้งประมาณ วันที่ 23 มีนาคม 2564 โดยเจ้าหน้าที่สำนักงานยุติธรรมจังหวัดพัทลุง แจ้งสิทธิเกี่ยวกับการขอประกันตัว ตามพระราชบัญญัติกองทุนยุติธรรม พ.ศ.2558 และการไกล่เกลี่ยระงับข้อพิพาท ตามพระราชบัญญัติ การไกล่เกลี่ยข้อพิพาท พ.ศ.2562
  

ความคิดเห็น

ข่าวฮอตชัดทุกกระแส

วิเคราะห์ เจาะลึก วัตถุมงคลหลวงพ่อพัฒน์ วัดห้วยด้วน

“ธรรมาภิบาล”เร่งหารือ กกต.ให้จัดการเลือกตั้งใหม่

ฟุตบอลสูงอายุชิงถ้วย ร.10 68 ทีมร่วมฟาดแข้ง

ชมรมทหารพราน ค่ายปักธงชัย แจกข้าวสาร อาหารแห้ง ณ​ ชุมชนชาวคลองลัดภาชี

ราชกรีฑาสโมสรจัดศึกกีฬาม้าแข่งไร้พนันชิงชัยแบบนิวนอร์มัล

ไทย ต้านไม่ไหว พ่ายญี่ปุ่น 0-7

ทนายอนันต์ชัย โพสต์ FB ระบุ