กรมศุลกากรเปลี่ยนวิสัยทัศน์ พันธกิจใหม่ ต้อนรับปี 2564
กรมศุลกากรเปลี่ยนวิสัยทัศน์ พันธกิจใหม่ ต้อนรับปี 2564
วันนี้ (วันพฤหัสบดีที่ 7 มกราคม 2564) เวลา 10.00 น. ณ ศูนย์แถลงข่าว ชั้น 2 อาคาร 1
กรมศุลกากร นายชัยยุทธ คำคุณ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางศุลกากร ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร กล่าวว่า
นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร มีนโยบายให้มีการประชาสัมพันธ์เชิงรุก เพื่อสร้างการรับรู้ ความเข้าใจแก่ประชาชนและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในเชิงนโยบาย โครงการ และประเด็นต่าง ๆ โดยคณะโฆษกกรมศุลกากรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะร่วมดำเนินการแถลงข่าวเป็นประจำทุกเดือน และสำหรับประเด็นที่น่าสนใจในการแถลงข่าวประจำเดือนมกราคม 2564 ได้แก่
(1) ผลการตรวจพบการกระทำความผิดประจำเดือนธันวาคม 2563
(2) กรมศุลกากรเปลี่ยนวิสัยทัศน์ พันธกิจใหม่ ต้อนรับปี 2564
(3) กรมศุลกากรขอเชิญชวน ชำระค่าภาษีอากรผ่านระบบ Bill Payment เพื่อลดความเสี่ยงในการได้รับเชื้อไวรัส COVID -19 พร้อมอำนวยความสะดวกสำหรับผู้ประกอบการในการยื่นสำเนาหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าได้
(4) กรมศุลกากรขยายเวลาการอนุญาตตัวแทนออกของ / ผู้ปฏิบัติงานเกี่ยวกับการออกของ
ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้ (1) ผลการตรวจพบการกระทำความผิดประจำเดือนธันวาคม 2563
ตามที่ อธิบดีกรมศุลกากร มีนโยบายให้การเร่งรัดปราบปรามการลักลอบและหลีกเลี่ยงนำสินค้าเข้ามาในราชอาณาจักร เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมในการจัดเก็บภาษี ปกป้องสังคมและสิ่งแวดล้อม จึงสั่งการให้หน่วยงานในสังกัดพร้อมหน่วยปฏิบัติการวางแผนตรวจค้นจับกุมอย่างเข้มงวดเป็นพิเศษ เพื่อสกัดกั้นป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น สินค้าเกษตร น้ำมัน ยาเสพติด IPRs และสินค้าละเมิดอนุสัญญา CITES โดยสืบสวนหาข่าวและออกลาดตระเวนด้วยรถยนต์ ตรวจค้นรถบรรทุก โกดัง แหล่งจำหน่าย สถานที่เก็บรักษาที่เชื่อได้ว่ามีของผิดกฎหมายเก็บซุกซ่อนอยู่ อีกทั้งยังมีแผนการป้องกันและปราบปรามสินค้าดังกล่าวในช่วงเวลาที่มีความเสี่ยงในการลักลอบนำสินค้าเข้ามาในราชอาณาจักรเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ มีการบูรณาการกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายอื่นทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง อาทิ ทหาร กอ.รมน. ป.ป.ส. บช.ปส. กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ สถานทูตต่าง ๆ องค์การตำรวจสากล (Interpol) สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด
(Drug Enforcement Administration: DEA) เป็นต้น เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลการข่าวระหว่างกัน
สำหรับเดือนธันวาคม 2563 กรมศุลกากรตรวจพบการกระทำผิดตามกฎหมายศุลกากรหรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกับศุลกากร จำนวน 2,592 คดี คิดเป็นมูลค่ารวม 153.2 ล้านบาท
ผลงานที่น่าสนใจในช่วงเดือนธันวาคม 2563 มีดังนี้
การจับกุมยาเสพติดให้โทษประเภทโคคาอีน
เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2563 กรมศุลกากรทำการตรวจค้นกระเป๋าสัมภาระของผู้โดยสารสายการบินต่างประเทศ พบหีบห่อวัตถุต้องสงสัยพร้อมสิ่งห่อหุ้ม ซุกซ่อนอยู่ภายในบริเวณฝาปิดและบริเวณพื้นกระเป๋าเดินทางที่เย็บขึ้นมาเป็นพิเศษ เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจสอบด้วยน้ำยาทดสอบพบเป็นยาเสพติดประเภทโคคาอีน โดยมีน้ำหนักพร้อมสิ่งห่อหุ้มรวมทั้งสิ้นประมาณ 3,300 กรัม มูลค่าประมาณ 9.9 ล้านบาท
-2 ทั้งนี้ สถิติการตรวจยึดยาเสพติดและวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทในเดือนธันวาคม 2563 มีจำนวน 21 คดี มูลค่ากว่า 106 ล้านบาท
1.2 การจับกุมปลายข้าวสารเหนียว
เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2563 กรมศุลกากร ได้ออกลาดตระเวนเพื่อป้องกันและปราบปรามการลักลอบหนีศุลกากร ณ จุดสุ่มเสี่ยง และเฝ้าระวังบริเวณริมแม่น้ำโขง จนกระทั่งมาถึงบริเวณตลิ่งริมแม่น้ำโขง ต.หว้านใหญ่ อ.หว้านใหญ่ จ.มุกดาหาร ตรวจพบปลายข้าวสารเหนียวบรรจุกระสอบ มีเมืองกำเนิดต่างประเทศ โดยไม่พบเอกสารหลักฐานการผ่านพิธีการศุลกากรโดยถูกต้อง จำนวน 32 กระสอบ น้ำหนักกระสอบละ 50 กิโลกรัม น้ำหนักรวม 1,600 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 50,000 บาท
ทั้งนี้ สถิติการตรวจจับสินค้าเกษตรในเดือนธันวาคม 2563 มีจำนวนคดี ทั้งสิ้น 43 คดี มูลค่ากว่า 3.8 ล้านบาท
1.3 การจับกุมถุงน้ำดีกระบือ
เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2563 กรมศุลกากรทำการ ได้ออกลาดตระเวนเพื่อป้องกันและปราบปรามการลักลอบหนีศุลกากร ณ จุดสุ่มเสี่ยง และเฝ้าระวังบริเวณริมแม่น้ำโขง จนกระทั่งมาถึงบริเวณริมตลิ่งแม่น้ำโขง ต.หว้านใหญ่ จ.มุกดาหาร พบถุงน้ำดีกระบือแช่แข็งบรรจุกล่องกระดาษ มีเมืองกำเนิดต่างประเทศ จำนวน 31 กล่อง กล่องละ 20 กิโลกรัม น้ำหนักรวม 620 กิโลกรัม โดยไม่พบเอกสารหลักฐานการผ่านพิธีการศุลกากรโดยถูกต้อง รวมมูลค่าทั้งสิ้นประมาณ 136,400 บาท
ซึ่งเนื้อกระบือแช่แข็งดังกล่าว ได้นำไปทำลายโดยการฝังกลบจนเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ณ บริเวณด่านกักกันสัตว์มุกดาหาร ตำบลคำอาฮวน อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2563
ทั้งนี้ สถิติการตรวจจับเนื้อโค กระบือ และชิ้นส่วนอื่น ๆ ในเดือนธันวาคม 2563 มีจำนวนคดี ทั้งสิ้น 3 คดี มูลค่ากว่า 183,400 บาท
(2) กรมศุลกากรเปลี่ยนวิสัยทัศน์ พันธกิจใหม่ ต้อนรับปี 2564
ในปีพุทธศักราช 2564 กรมศุลกากรได้เปลี่ยนวิสัยทัศน์ พันธกิจใหม่ เพื่อให้สามารถขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านการจัดเก็บภาษีศุลกากรให้ทันสมัยในระดับสากล โดยมีเนื้อหาดังนี้
1. วิสัยทัศน์กรมศุลกากร
องค์กรศุลกากรชั้นนำ ที่มุ่งส่งเสริมความยั่งยืนของเศรษฐกิจและความปลอดภัยของสังคม ด้วยนวัตกรรมและบริการที่เป็นเลิศ
2. พันธกิจกรมศุลกากร
2.1 อำนวยความสะดวกทางการค้าและส่งเสริมระบบโลจิสติกส์ของประเทศ
2.2 ส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศด้วยมาตรการทางศุลกากรและข้อมูลการค้าระหว่างประเทศ
2.3 เพิ่มขีดความสามารถในการปกป้องสังคมให้ปลอดภัยด้วยระบบควบคุมทางศุลกากร
2.4 จัดเก็บภาษีอากรอย่างเป็นธรรม โปร่งใส และมีประสิทธิภาพ
-3-
(3) กรมศุลกากรขอเชิญชวน ชำระค่าภาษีอากรผ่านระบบ Bill Payment เพื่อลดความเสี่ยงในการได้รับเชื้อไวรัส COVID -19 พร้อมอำนวยความสะดวกสำหรับผู้ประกอบการในการยื่นสำเนาหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าได้
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่ขยายวงกว้างขึ้น
กรมศุลกากรจึงขอเชิญชวนผู้ประกอบการให้ชำระค่าภาษีอากร ค่าธรรมเนียม รายได้อื่น และ/หรือเงินประกันทางอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบ e-Payment เพื่อลดความเสี่ยงในการได้รับเชื้อไวรัส COVID -19 ผ่านธนาคารที่เข้าร่วมโครงการ ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) และ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) โดยสามารถชำระผ่านระบบ Internet Banking Mobile Banking ATM และเคาน์เตอร์ธนาคาร นอกจากนี้ผู้ประกอบการยังสามารถชำระผ่านตัวแทนรับชำระ (หรือ Non-bank) จำนวน 2 ราย ได้แก่ บริษัท เคาน์เตอร์เซอร์วิส จำกัด (7-11) และ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน)
นอกจากนี้ กรมศุลกากรยังอำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการสามารถใช้สำเนาภาพถ่ายหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าเพื่อขอใช้ผ่อนผันในการปฏิบัติพิธีการศุลกากรยกเว้นอากรและลดอัตราศุลกากร ภายใต้เขตการค้าเสรี โดยจะต้องยื่นต้นฉบับรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าตัวจริง ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ตรวจปล่อยสินค้าออกจากอารักขาศุลกากร หากไม่สามารถนำต้นฉบับมาแสดงภายในกำหนดเวลาดังกล่าว เนื่องจากติดปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) ให้ยื่นคำร้องล่วงหน้าก่อนครบกำหนดระยะเวลาดังกล่าวไม่น้อยกว่า 7 วันทำการ เพื่อทำการขยายระยะเวลา ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวมีผลจนกระทั่ง วันที่ 31 มีนาคม 2564
ท่านสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ประกาศกรมศุลกากรที่ 203/2563 เรื่อง การแสดงหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า สำหรับผู้นำของเข้าที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ประกาศ ณ วันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2563 หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนกรมศุลกากร : 1164 ในเวลาราชการ
(4) กรมศุลกากรขยายเวลาการอนุญาตตัวแทนออกของและผู้ปฏิบัติงานเกี่ยวกับการออกของ
เนื่องจากจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่กำลังแพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้ หลายจังหวัดถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มพื้นที่เสี่ยง อาจทำให้เกิดการระบาดของโรคดังกล่าวแบบวงกว้าง (Super Spread) ได้ กรมศุลกากรจึงได้มีการขยายเวลาการอนุญาตตัวแทนออกของ / ผู้ปฏิบัติงานเกี่ยวกับการออกของที่จะหมดอายุตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2564 - 30 มิ.ย. 2564 ให้หมดอายุในวันที่ 30 มิ.ย. 2564 โดยสามารถยื่นคำขอต่ออายุได้ใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. 2564 เป็นต้นไป ทั้งนี้ เป็นไปตามประกาศกรมศุลกากรที่ 204/2563 ซึ่งท่านสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ตามประกาศข้างต้น และ/หรือติดต่อได้ที่ ฝ่ายทะเบียนตัวแทนออกของ ส่วนทะเบียนและสิทธิพิเศษ กองมาตรฐานพิธีการและราคาศุลกากร หมายเลขโทรศัพท์ 02 667 6000 หรือ 02 667 7000 ต่อ 20-4634 หรือ 20-4636
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น