“สองล้อ” วางแผนพัฒนาศูนย์ฝึกภูมิภาค

“สองล้อ” วางแผนพัฒนาศูนย์ฝึกภูมิภาค

สร้างนักปั่นดาวรุ่งมาเสริมรุ่นพี่ทีมชาติ

“สองล้อ” วางแผนพัฒนาและยกระดับศูนย์ฝึกจักรยานภูมิภาคของสมาคมกีฬาจักรยานฯ ทั้ง 4 แห่ง “พิษณุโลก-ลพบุรี-พะเยา-สุราษฎร์ธานี” เพื่อสร้างนักปั่นรุ่นใหม่ขึ้นมาเสริมรุ่นพี่ทีมชาติไทยอย่างต่อเนื่อง จนมีนักปั่นดาวรุ่งเกิดขึ้นมากมาย โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจาก “นายเอกชัย เศวตสมภพ” และ บริษัท ซีโน-แปซิฟิค เทรดดิ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด ที่เชื่อมั่นการบริหารจัดการของสมาคมกีฬาจักรยานฯ ที่ได้ทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจจนประสบความสำเร็จในฬาซีเกมส์, เอเชี่ยนเกมส์ รวมไปถึง “โตเกียว 2020” ที่ประเทศญี่ปุ่น และ “ปารีส 2024” ที่ประเทศฝรั่งเศส ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้

“เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า สมาคมกีฬาจักรยานฯ มีแผนที่จะพัฒนาและยกระดับมาตรฐานศูนย์ฝึกจักรยานภูมิภาคของสมาคมฯ ที่ปัจจุบันมีอยู่ 4 แห่ง ประกอบด้วย ศูนย์ฝึกฟิชเชอร์แมนเฟรนด์ กองบิน 46 พิษณุโลก ดูแลโดย “โค้ชเนิ่ม” ส.อ.เนิ่ม ชมภูศรี, ศูนย์ฝึกจักรยาน Prime 19 จังหวัดพะเยา ดูแลโดย “โค้ชแซม” นายพิทักษ์ ยวงข้าว, ศูนย์ฝึกจักรยานฟิชเชอร์แมนเฟรนด์ วัดดงน้อย จังหวัดลพบุรี ดูแลโดย “โค้ชโจ้” พ.ต.ท.จิระศักดิ์ นนทะแก้ว และศูนย์ฝึกจักรยานฟิชเชอร์แมนเฟรนด์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ดูแลโดย “โค้ชเกียรติ” ส.อ.ธนาชัย ฉันท์ฉายา เพื่อให้ศูนย์ฝึกจักรยานทั้ง 4 แห่งทำหน้าที่เสมือนเป็นอะคาเดมี่นักปั่น สร้างนักปั่นรุ่นใหม่ของไทยขึ้นมาเสริมรุ่นพี่ทีมชาติไทยไม่ให้ขาดตอน

พลเอกเดชา กล่าวว่า ในระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา สมาคมฯ ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจาก นายเอกชัย เศวตสมภพ อุปนายกสมมคมกีฬาจักรยานฯ และ บริษัท ซีโน-แปซิฟิค เทรดดิ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด ในการพัฒนาบุคลากรของศูนย์ฝึกไปจนถึงเงินสนับสนุนเข้าร่วมการแข่งขัน ทำให้นักปั่นรุ่นยุวชนและเยาวชนที่อยู่ในศูนย์ในนามทีมจักรยานฟิชเชอร์แมนเฟรนด์ และ Prime 19  จนมีนักปั่นดาวรุ่งหลายรายอย่าง นายทักษ์ แก้วน้อย, น.ส.กัญญารัตน์ หน่อแก้ว หรือนักกีฬาที่มีแววว่าจะขึ้นมาทดแทนรุ่นพี่ในอนาคตอันใกล้อย่าง “น้ำ” น.ส.นัฐนันท์ นนทะแก้ว, น.ส.สุพิชชา วรวงศ์ หรือ ด.ช.กฤตณัฐ แก้วน้อย

“จากความสำเร็จตามเป้าหมายในรอบหลายปีที่ผ่านมา สมาคมกีฬาจักรยานฯ ก็ได้วางแผนต่อเนื่องเพื่อให้แต่ละศูนย์สามารถดำเนินการสร้างนักกีฬารุ่นใหม่ต่อ ๆ ไป ในขณะเดียวกัน ก็จะพยายามหาพื้นที่ในภูมิภาคอื่น เพื่อขยายศูนย์ฝึกจักรยานออกไป โดยเฉพาะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเดิมเคยมีศูนย์ฝึกจักรยานสกลนคร ซึ่งได้สร้างนักปั่นไทยไปจนถึงระดับแชมป์เอเชียอย่าง ร้อยเอกหญิง จันทร์เพ็ง นนทะสิน และสร้างชื่อเสียงเอาไว้มากมายมาแล้ว รวมถึงเพิ่มการสนับสนุนสร้างบุคลากรในระดับผู้ฝึกสอนของแต่ละศูนย์ให้มีความรู้ความสามารถเพิ่มขึ้นในทุกมิติที่จำเป็นสำหรับกีฬาจักรยานไม่ว่าจะเป็นเรื่องเทคโนโลยีการฝึกซ้อม วิทยาศาสตร์การกีฬา หรือสหวิทยาการที่จำเป็นต้องใช้ในแขนงต่าง ๆ” พลเอกเดชา กล่าว

นายกสองล้อไทย กล่าวอีกว่า จากการทำงานอย่างต่อเนื่องของสมาคมกีฬาจักรยานฯ ร่วมกับคีย์แมนของแต่ละศูนย์ดังกล่าว ส่งผลให้ปัจจุบันสมาคมกีฬาจักรยานฯ มีฐานนักกีฬาระดับเพื่อความเป็นเลิศมากขึ้น ในขณะที่สโมสรใหญ่ในสมาคมกีฬาจักรยานฯ ก็มีโอกาสที่จะได้คัดเลือกนักกีฬาดาวรุ่งรุ่นใหม่เข้าสู่สังกัดเพื่อสร้างชื่อเสียงให้ต้นสังกัดในอนาคตต่อไป ปรัชญาในการพัฒนานักกีฬาของแต่ละศูนย์ฝึก นอกเหนือจากจะเน้นหนักไปที่การพัฒนาฝีมือในเชิงกีฬาแล้ว ก็จะเน้นให้นักปั่นรุ่นใหม่ให้ความสำคัญในเรื่องการมีวินัยในการฝึกซ้อมและความประพฤติ เพื่อให้เป็นแบบอย่างที่ดีแก่นักกีฬารุ่นต่อ ๆ ไป

“จะเห็นได้ว่า ในระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา เมื่อเรามีนักกีฬาจักรยานเพิ่มมากขึ้น ก็ส่งผลต่อการยกระดับมาตรฐานนักปั่นไทยในระดับนานาชาติ เพราะปัจจุบันนักปั่นทีมชาติไทยสามารถทดแทนกันได้ ไม่ว่าจะเป็นชุดใหญ่ที่มีจำนวนเพียงพอ ในขณะที่ก็ยังมีชุดอายุต่ำกว่า 23 ปี ที่พร้อมจะขึ้นมาทดแทนโดยไม่ทำให้มาตรฐานของทีมลดลง และเชื่อว่าในอนาคต นักปั่นรุ่นใหม่ที่อายุเริ่มเข้าสู่ระดับเยาวชน 17-18 ปี ก็จะถูกเพิ่มเข้ามาในทำเนียบนักปั่นทีมชาติไทยต่อไป” พลเอกเดชา กล่าว

พลเอกเดชา กล่าวเสริมว่า การดำเนินการของศูนย์ฝึกจักรยานในแต่ละแห่ง ใช้งบประมาณจำนวนมากในแต่ละปี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอุปกรณ์การฝึกซ้อมและการแข่งขัน ค่าใช้จ่ายส่งทีมเข้าร่วมการแข่งขัน แต่ในขณะเดียวกันผลสัมฤทธิ์ของโครงการจะไปปรากฏในอนาคต ส่งผลให้การจัดหาผู้สนับสนุนเป็นไปอย่างยากลำบาก ซึ่งในประเด็นดังกล่าวก็ต้องยกย่องผู้สนับสนุนอย่าง นายเอกชัย เศวตสมภพ และ บริษัท ซีโน-แปซิฟิค เทรดดิ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด ที่เล็งเห็นถึงความสำคัญในการสร้างฐานนักกีฬาเข้าสู่ทำเนียบทีมชาติไทย แม้ว่าจะต้องอาศัยเวลา ความอดทน และต้องใช้งบประมาณเป็นจำนวนมากก็ตาม แต่ก็ยังให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง และยืนยันว่าจะยังคงให้การสนับสนุนสมาคมกีฬาจักรยานฯ ต่อไป เพราะมีความเชื่อมั่นการบริหารจัดการของสมาคมกีฬาจักรยานฯ ที่ได้ทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจจนประสบความสำเร็จในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์, เอเชี่ยนเกมส์ รวมไปถึงในอนาคตอันใกล้นี้ คือ โอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 32 “โตเกียว 2020” ที่ประเทศญี่ปุ่น และ “โร้ด ทู ปารีส” โอลิปิกเกมส์ ครั้งที่ 33 “ปารีส 2024” ที่ประเทศฝรั่งเศส.