ผู้แทนพระองค์ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเยี่ยมผู้ประสบภัยท่อส่งก๊าซระเบิด
ผู้แทนพระองค์ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเยี่ยมผู้ประสบภัยท่อส่งก๊าซระเบิด ปตท.เยียวยาผู้เสียชีวิตคนละ 5 ล้าน
วันนี้ (วันศุกร์ที่ 23 ต.ค.63) เวลา 11.00 น. พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชุมพล พุ่มพวง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ, พ.ต.อ.ศุภณัฏฐ์ เจริญเรืองสกุล รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ, พ.ต.อ.ปกปภพ บดีพิทักษ์ รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ, นายวันชัย คงเกษม ผวจ.สมุทรปราการ ,นายชัยพจน์ จรูญพงศ์ รอง ผวจ.สมุทรปราการ ร่วมให้การต้อนรับ พร้อมทั้งอำนวยความสะดวกด้านการจราจร และรักษาความปลอดภัย ให้กับพล.อ.กัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี เดินทางมาร่วมกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เชิญสิ่งของพระราชทานมอบแก่ประชาชนผู้ประสบอุบัติภัย ในเหตุการณ์ท่อส่งแก๊สระเบิด
ทั้งนี้ ท่านองคมนตรี ได้ตรวจสอบความเสียหาย พร้อมตรวจเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บ ที่กำลังรักษาตัวอยู่และกำชับให้หน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องคอยช่วยเหลือผู้ประสบเหตุดังกล่าว ทุกช่องทาง ณ โรงเรียนวัดเปร็งราษฎร์บำรุง อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ
ทางด้าน กระทรวงพลังงาน ผู้บริหาร ปตท. สภาวิศวกร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงเหตุท่อส่งก๊าซระเบิด ที่ต.เปร็ง อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 3 คน บาดเจ็บกว่า 60 คน อาคารบ้านเรือน รถยนต์ และรถจักรยานยนต์ รวมถึงทรัพย์สินอื่นๆได้รับความเสียหายจำนวนมาก เหตุเกิดเวลา 12.30 น. วันที่ 22 ต.ค. ที่ผ่านมา
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี เเละรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นยังไม่ทราบสาเหตุที่เเน่ชัด เพราะมีสาเหตุเป็นไปได้หลายประการ เรื่องนี้ต้องใช้เวลาในการสอบสวนหาสาเหตุ ซึ่งได้พูดคุยกับผู้บริหาร ปตท.เเล้ว ทราบว่ามีการปรับปรุงตรวจสอบท่อเเละระบบอยู่สม่ำเสมอ ระบบทุกอย่างมีมาตรฐาน
ด้าน นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เเละกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. กล่าวว่า ขอเเสดงความเสียใจกับผู้สูญเสีย ซึ่งมาตรการหลังจากเกิดเหตุ มีการปิดพื้นที่ ปิดวาล์วส่งก๊าซทั้งหมด ตอนนี้จึงไม่มีก๊าซเข้ามาเพิ่มเเล้ว ขณะเดียวกันก็ได้ส่งเจ้าหน้าที่วัดปริมาณก๊าซในพื้นที่ เเละพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปะทุขึ้นอีก สาเหตุต้องรอผู้เชี่ยวชาญมาวิเคราะห์อีกครั้ง
ส่วนในเรื่องการเยียวยา ได้ส่งทีมงานสำรวจความเสียหาย จะเยียวยา ทั้งบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับความเสียจนไม่สามารถอาศัยอยู่ได้ จะจะซ่อมเเซมให้ เเละจัดหาที่อยู่ที่เหมาะสมระหว่างซ่อมเเซม สำหรับการรับผิดชอบ ในส่วนของผู้เสียชีวิต จะเยียวยารายละ 5,000,000 บาท ผู้ป่วยสาหัส รายละ 500,000 บาท ผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษาตัวที่โรงพยาบาล รายละ 200,000 บาท และผู้ป่วยที่กลับบ้านได้ รายละ 50,000 บาท
ขณะที่ ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ นายกสภาวิศวกรเเห่งประเทศไทย กล่าวว่าท่อส่งก๊าซของ ปตท.ถือว่าได้มาตรฐาน ซึ่งวางตามเเนวของสายไฟฟ้าเเรงสูง ตามภาพที่เห็นมีการระเบิดด้านบน เเสดงให้เห็นว่าในท่อมีเเรงดันสูงมากในการส่งก๊าซไปยังที่ต่างๆ ซึ่งเหตุที่เกิดขึ้นยังไม่สามารถระบุสาเหตุได้ เเต่จากภาพที่ปรากฎ เปลวไฟขนาดใหญ่ลุกโชนอยู่บนอากาศ เนื่องจากก๊าซที่มีน้ำหนักเบา ได้พุ่งขึ้นไปกระทบกับสายไฟฟ้าเเรงสูง ทำให้กิดประกายไฟลุก โดยปกติการวางท่อนี้จะต้องเป็นเขตพื้นที่ปลอดภัย ไม่มีที่อยู่อาศัยหรือการขุดเจาะ เเต่กรณีนี้ไม่ทราบสาเหตุว่าเกิดอะไรขึ้น
อย่างไรก็ตาม ปตท.ต้องหาคำตอบให้ได้ 3 ข้อ คือ 1.อายุการใช้งานของท่อเเละความชำรุดของอุปกรณ์ 2.สิ่งที่ไปกระทบทำให้ท่อเกิดความฉีกขาดมาจากสาเหตุใด และ 3.กระทรวงพลังงานเเละผู้ที่เกี่ยวข้อง ต้องออกมาเปิดเผยว่าลักษะท่อเเบบนี้ ในประเทศไทยมีการวางอยู่จุดใดบ้าง มีการบำรุงรักษาอย่างไร เเละมีการป้องกันอย่างไรเพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอยเเบบนี้
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น