สาวเอ็มเค ร้องขอความเป็นธรรม
สาวเอ็มเค ร้องขอความเป็นธรรมกองปราบ
สาวพนักงาน “เอ็มเค” นำคลิปภาพวงจรปิดขณะเจรจาต่อรองและคลิปขณะเข้าทำการตรวจค้น เข้าร้องขอความเป็นธรรม กองปราบ กรณีกลุ่มชายฉกรรจ์อ่างตัวว่าเป็นตำรวจเข้ามาคุกคามข่มขู่
วันนี้ (31 มี.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่ กองบังคับการปราบปราม ถนนพหลโยธิน นางสาวศิรินทิพย์ ปึงอนะวัฒน์ อายุ 38 ปี เข้าพบ พ.ต.ต.ปราโมทย์ ศุขศรีไพศาล สว.สอบสวน กก.1 บก.ป. เพื่อยื่นเรื่องร้องทุกข์ขอความเป็นธรรม กรณีถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ซึ่งอ้างตัวเป็นตำรวจชุดสืบสวน สน.วัดพระยาไกร ข่มขู่รีดไถเงินเพื่อแลกกับการไม่ถูกดำเนินคดี โดยนำหลักฐานเป็นคลิปวิดีโอขณะเจรจาต่อรองและคลิปขณะเข้าทำการตรวจค้นมามอบให้กับพนักงานสอบสวนประกอบการพิจารณา
โดย นางสาว ศรินทิพย์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อประมาณปี 2560 ขณะที่เธอและบุตรชาย กำลังนั่งพักผ่อนอยู่ในบ้านพักนั้น ได้มีกลุ่มชายฉกรรจ์จำนวน 4 คน อ้างตัวเป็นตำรวจชุดสืบสวน สน.วัดพระยาไกร บุกเข้ามาภายในบ้านพักแล้วถามหาตัว นายเอส แฟนเก่าของตนเอง พร้อมกับบอกว่านายเอส เป็นเอเย่นต์ค้ายาเสพติด จากนั้นก็เข้าทำการตรวจค้นภายในบ้านโดยที่ไม่มีการแสดงหมายค้นให้กับตน ไม่นานนักชายฉกรรจ์ทั้ง 4 คนก็บอกกับตนว่าพบยาเสพติดซุกซ่อนอยู่ในบ้าน ซึ่งตนเองก็ได้อธิบายไปว่าไม่ทราบว่าเป็นของใครและเข้ามาอยู่ในบ้านได้อย่างไร เพราะตนเองไม่ทราบจริงๆและไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติดดังกล่าว แต่ทางชายฉกรรจ์ทั้ง 4 คนไม่ฟัง ก่อนจับลูกชายของตนใส่กุญแจมือ ก่อนจะข่มขู่ว่าหากไม่อยากถูกดำเนินคดีให้นำเงินมาให้จำนวน 4 แสนบาท ด้วยความกลัว จึงได้พยายามหายืมเงินจากคนรอบข้างมาให้กับชายฉกรรจ์กลุ่มนี้ก่อนจำนวน 65,000 บาท กลุ่มบุคคลดังกล่าวจึงยอมปล่อยตัวลูกชายออกมา แต่เรื่องยังไม่จบ เพราะหลังจากนั้นกลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าวยังคงคอยมาข่มขู่รีดไถเงินที่เหลืออีกจนถึงปัจจุบัน อย่างไรก็ตามหลังเกิดเรื่อง ตนเองเคยนำเรื่องดังกล่าวเข้าร้องเรียนต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ และหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง แต่เรื่องก็เงียบหายไปในวันนี้จึงได้มายื่นเรื่องกับทางกองปราบเพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรม
เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนกองปราบได้ทำการสอบปากคำผู้ร้องไว้ก่อน เพื่อนำไปพิจารณาควบคู่กับพยานหลักฐาน จากนั้นจะรวบรวมเรื่องราวทั้งหมดส่งต่อให้กับผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป
สาวพนักงาน “เอ็มเค” นำคลิปภาพวงจรปิดขณะเจรจาต่อรองและคลิปขณะเข้าทำการตรวจค้น เข้าร้องขอความเป็นธรรม กองปราบ กรณีกลุ่มชายฉกรรจ์อ่างตัวว่าเป็นตำรวจเข้ามาคุกคามข่มขู่
วันนี้ (31 มี.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่ กองบังคับการปราบปราม ถนนพหลโยธิน นางสาวศิรินทิพย์ ปึงอนะวัฒน์ อายุ 38 ปี เข้าพบ พ.ต.ต.ปราโมทย์ ศุขศรีไพศาล สว.สอบสวน กก.1 บก.ป. เพื่อยื่นเรื่องร้องทุกข์ขอความเป็นธรรม กรณีถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ซึ่งอ้างตัวเป็นตำรวจชุดสืบสวน สน.วัดพระยาไกร ข่มขู่รีดไถเงินเพื่อแลกกับการไม่ถูกดำเนินคดี โดยนำหลักฐานเป็นคลิปวิดีโอขณะเจรจาต่อรองและคลิปขณะเข้าทำการตรวจค้นมามอบให้กับพนักงานสอบสวนประกอบการพิจารณา
โดย นางสาว ศรินทิพย์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อประมาณปี 2560 ขณะที่เธอและบุตรชาย กำลังนั่งพักผ่อนอยู่ในบ้านพักนั้น ได้มีกลุ่มชายฉกรรจ์จำนวน 4 คน อ้างตัวเป็นตำรวจชุดสืบสวน สน.วัดพระยาไกร บุกเข้ามาภายในบ้านพักแล้วถามหาตัว นายเอส แฟนเก่าของตนเอง พร้อมกับบอกว่านายเอส เป็นเอเย่นต์ค้ายาเสพติด จากนั้นก็เข้าทำการตรวจค้นภายในบ้านโดยที่ไม่มีการแสดงหมายค้นให้กับตน ไม่นานนักชายฉกรรจ์ทั้ง 4 คนก็บอกกับตนว่าพบยาเสพติดซุกซ่อนอยู่ในบ้าน ซึ่งตนเองก็ได้อธิบายไปว่าไม่ทราบว่าเป็นของใครและเข้ามาอยู่ในบ้านได้อย่างไร เพราะตนเองไม่ทราบจริงๆและไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติดดังกล่าว แต่ทางชายฉกรรจ์ทั้ง 4 คนไม่ฟัง ก่อนจับลูกชายของตนใส่กุญแจมือ ก่อนจะข่มขู่ว่าหากไม่อยากถูกดำเนินคดีให้นำเงินมาให้จำนวน 4 แสนบาท ด้วยความกลัว จึงได้พยายามหายืมเงินจากคนรอบข้างมาให้กับชายฉกรรจ์กลุ่มนี้ก่อนจำนวน 65,000 บาท กลุ่มบุคคลดังกล่าวจึงยอมปล่อยตัวลูกชายออกมา แต่เรื่องยังไม่จบ เพราะหลังจากนั้นกลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าวยังคงคอยมาข่มขู่รีดไถเงินที่เหลืออีกจนถึงปัจจุบัน อย่างไรก็ตามหลังเกิดเรื่อง ตนเองเคยนำเรื่องดังกล่าวเข้าร้องเรียนต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ และหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง แต่เรื่องก็เงียบหายไปในวันนี้จึงได้มายื่นเรื่องกับทางกองปราบเพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรม
เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนกองปราบได้ทำการสอบปากคำผู้ร้องไว้ก่อน เพื่อนำไปพิจารณาควบคู่กับพยานหลักฐาน จากนั้นจะรวบรวมเรื่องราวทั้งหมดส่งต่อให้กับผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น