ปิดฉาก!!! ศึกปันจักสีลัตเอเชีย ไทยซิว1ทอง4เงิน9ทองแดง
#ชัดทุกกระแส
ปิดฉาก!!! ศึกปันจักสีลัตเอเชียไทยซิว1ทอง4เงิน9ทองแดง
ปิดฉากการแข่งขันปันจักสีลัตชิงแชมป์เอเชีย ครั้งที่ 5 ระหว่างวันที่ 25-30 ธันวาคม 2562 ณเมืองหยานจี๋ มณฑลจี้หลิน สาธารณรัฐประชาชนจีน ภายในโรงแรมเอ็มดีเอ็ม สกีรีสอร์ท เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.ที่ผ่านมา นักกีฬาไทยลงแข่งขันชิงเหรียญทองทั้งหมด 3 รุ่นด้วยกัน มาดูที่ประเภทหญิงรุ่นโอเพ่น สุวิชาดา พรุเพชรแก้ว ลงเล่นกับ ฟาม ไฮ อันห์ นักกีฬาปันจักสีลัตจากเวียดนาม เริ่มยกแรก ฟาม ไฮ อันห์ เป็นฝ่ายทำคะแนนได้ดีกว่าออกอาวุธจะแจ้งจนคะแนนนำ สุวิชาดา 4-1 เข้าสู่ยกสอง นักกีฬาไทยเริ่มเปลี่ยนเกมยกแข้งกันการเตะของเวียดนาม ก่อนปล่อยหมัดชุดและตามด้วยเตะเข้าชายโครง จนทำให้ ฟาม ไฮ อันห์ หายใจไม่ทันก่อนไทยจะไล่ทำคะแนนตีตื่นเป็น 2-3 มายกสุดท้าย สุวิชาดา ยังเดินเกมตามแผนของโค้ชทำแต้มไล่บี้มาเหลือตามแค่ 2-3 คะแนนจากกรรมการ 5 คน ก่อนใกล้หมดเวลา ฟาม ไฮ อันห์ มาได้จังหวะทุ่มทำคะแนนจนสุวิชาดา ปันจักสีลัตไทยพ่ายไป 2-3 คะแนน คว้าเหรียญเงินมาครองเป็นคนที่สอง
ต่อด้วยรุ่น 70-75 กก.หญิง "บีม" พรรณธิญากร พิมพิสาร ที่ใช้เวลา 2 สัปดาห์ลดน้ำหนักกว่า 11 กก.ต่อสู้กับ เหงียน เฮือง ธิ ตุย จากเวียดนาม ปรากฎว่า นักปันจักสีลัตจากเวียดนามที่เล่นได้แข็งแกร่งกว่าเป็นฝ่ายเอาชนะ พรรณธิญากร ที่ออกอาการเหนื่อยเร็วจากการลดน้ำหนักไปแบบสบาย 5-0 คะแนน คว้าเหรียญเงินที่ 3 ให้ทัพไทย
มาถึงคนสุดท้าย ประเภทชาย "เจ้าเล็ก" วรัชญ์ บัวลม รุ่น 75-80 กก.ที่ผันตัวเองจากเล่นเทควันโดมาเล่นปันจักสีลัตเจอกับของแข็ง พบเทย์ ฟาม ฟาน จากเวียดนาม ปรากฏว่าการต่อสู้ทั้ง 3 ยกนั้นไทยเป็นรองตลอดพยายามเตะทำแต้มไล่เวียดนามให้ทัน ก่อนวรัชญ์พ่ายไป 0-5 คะแนน คว้าเหรียญเงินที่ 4 ให้กับทัพนักกีฬาไทย
สรุปการแข่งขันปันจักสีลัตชิงแชมป์เอเชีย ครั้งที่ 5 ทัพปันจักสีลัตไทยคว้ามาได้ 1 เหรียญทอง 4 เหรียญเงิน 9 เหรียญทองแดง รับเงินรางวัลจากกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติประมาณ 2.1 ล้านบาท โดยได้จากเหรียญทอง 4 แสนบาท เหรียญเงิน 2 แสนบาท และเหรียญทองแดง 1 แสนบาท
ส่วนรางวัล 1 เหรียญทอง ได้จาก สุรชาติ เปาะมะ จากรุ่น 45-50 กก. 4 เหรียญเงิน ได้จาก วรัชญ์ บัวลม รุ่น 75-80 กก., พิมพิราช ต้นเขียว รุ่น 80-85 กก., น.ส.พรรณทิญากร พิมพิสาร รุ่น 70-75 กก. และน.ส.สุวิชาดา พรุเพชรแก้ว รุ่นโอเพ่น
ในส่วน 9 เหรียญทองแดง ได้จาก ประเภทชาย จักรกฤษณ์ ประสพสิน รุ่น 50-55 กก., เทวัญ แสงเงิน รุ่น 55_60 กก., พรเทพ พูลแก้ว รุ่น 65-70 กก. และ กูอิเบอเฮม กูบาฮา รุ่น 70-75 กก. ประเภทหญิง ได้จาก น.ส. ฟิรดาวส์ ดุรอแม รุ่น 45-50 กก., มาริญา สะและโสะ รุ่น 50-55 กก., ปภาวิณี เกื้อก่อบุญ รุ่น 55-60 กก., เจนจิรา หว้านเครือ รุ่น 60-65 กก. และนุชจรี คงเพชร รุ่น 65-70 กก.
ภายหลังจบการแข่งขัน อาจารย์นักรบ ทองแดง ผู้จัดการทีมประธานเทคนิคสมาคมกีฬาปันจักสีลัตแห่งประเทศไทย เผยว่า การแข่งขันปันจักสีลัตชิงแชมป์เอเชีย ครี้งที่ 5 นี้ถือว่าทีมไทยนั้นไม่ได้ตามเป้าที่หวังเอาไว้ 3 ทอง จากที่ทางผมและท่านนายกสมาคม นายภาณุ อุทัยรัตน์ ตั้งเอาไว้ แต่ก็มีหลายปัจจัยที่ทำให้ทีมไทยไม่ประสบความสำเร็จไม่ว่าจะเป็นเรื่องสนามแข่งขันไม่ได้มาตรฐาน การตัดสินที่มีผู้ตัดสินมีเพียงไม่กี่ชาติ แถมมีการส่งผู้ตัดสินลงทำการตัดสินในชาติที่ทีมตัวเองลงเล่นหลายราย แต่ก็ไม่ใช่ขอแก้ตัวต้องยอมรับว่าผิดหวังและจะกลับไปปรับปรุงแก้ไขเกมของไทยใหม่ เพื่อให้มีผลงานที่ดีขึ้นกว่าเดิม พร้อมต้องขอโทษพี่น้องประชาชนคนไทยที่ทำไม่ได้ตามเป้า แต่เราก็ยังถือว่าโชคดีได้ 1 เหรียญทอง 4 เหรียญเงินกับ 9 เหรียญทองแดงกลับมาฝากคนไทยในช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ พ.ศ.2563 ครับ
ปิดฉาก!!! ศึกปันจักสีลัตเอเชียไทยซิว1ทอง4เงิน9ทองแดง
ปิดฉากการแข่งขันปันจักสีลัตชิงแชมป์เอเชีย ครั้งที่ 5 ระหว่างวันที่ 25-30 ธันวาคม 2562 ณเมืองหยานจี๋ มณฑลจี้หลิน สาธารณรัฐประชาชนจีน ภายในโรงแรมเอ็มดีเอ็ม สกีรีสอร์ท เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.ที่ผ่านมา นักกีฬาไทยลงแข่งขันชิงเหรียญทองทั้งหมด 3 รุ่นด้วยกัน มาดูที่ประเภทหญิงรุ่นโอเพ่น สุวิชาดา พรุเพชรแก้ว ลงเล่นกับ ฟาม ไฮ อันห์ นักกีฬาปันจักสีลัตจากเวียดนาม เริ่มยกแรก ฟาม ไฮ อันห์ เป็นฝ่ายทำคะแนนได้ดีกว่าออกอาวุธจะแจ้งจนคะแนนนำ สุวิชาดา 4-1 เข้าสู่ยกสอง นักกีฬาไทยเริ่มเปลี่ยนเกมยกแข้งกันการเตะของเวียดนาม ก่อนปล่อยหมัดชุดและตามด้วยเตะเข้าชายโครง จนทำให้ ฟาม ไฮ อันห์ หายใจไม่ทันก่อนไทยจะไล่ทำคะแนนตีตื่นเป็น 2-3 มายกสุดท้าย สุวิชาดา ยังเดินเกมตามแผนของโค้ชทำแต้มไล่บี้มาเหลือตามแค่ 2-3 คะแนนจากกรรมการ 5 คน ก่อนใกล้หมดเวลา ฟาม ไฮ อันห์ มาได้จังหวะทุ่มทำคะแนนจนสุวิชาดา ปันจักสีลัตไทยพ่ายไป 2-3 คะแนน คว้าเหรียญเงินมาครองเป็นคนที่สอง
ต่อด้วยรุ่น 70-75 กก.หญิง "บีม" พรรณธิญากร พิมพิสาร ที่ใช้เวลา 2 สัปดาห์ลดน้ำหนักกว่า 11 กก.ต่อสู้กับ เหงียน เฮือง ธิ ตุย จากเวียดนาม ปรากฎว่า นักปันจักสีลัตจากเวียดนามที่เล่นได้แข็งแกร่งกว่าเป็นฝ่ายเอาชนะ พรรณธิญากร ที่ออกอาการเหนื่อยเร็วจากการลดน้ำหนักไปแบบสบาย 5-0 คะแนน คว้าเหรียญเงินที่ 3 ให้ทัพไทย
มาถึงคนสุดท้าย ประเภทชาย "เจ้าเล็ก" วรัชญ์ บัวลม รุ่น 75-80 กก.ที่ผันตัวเองจากเล่นเทควันโดมาเล่นปันจักสีลัตเจอกับของแข็ง พบเทย์ ฟาม ฟาน จากเวียดนาม ปรากฏว่าการต่อสู้ทั้ง 3 ยกนั้นไทยเป็นรองตลอดพยายามเตะทำแต้มไล่เวียดนามให้ทัน ก่อนวรัชญ์พ่ายไป 0-5 คะแนน คว้าเหรียญเงินที่ 4 ให้กับทัพนักกีฬาไทย
สรุปการแข่งขันปันจักสีลัตชิงแชมป์เอเชีย ครั้งที่ 5 ทัพปันจักสีลัตไทยคว้ามาได้ 1 เหรียญทอง 4 เหรียญเงิน 9 เหรียญทองแดง รับเงินรางวัลจากกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติประมาณ 2.1 ล้านบาท โดยได้จากเหรียญทอง 4 แสนบาท เหรียญเงิน 2 แสนบาท และเหรียญทองแดง 1 แสนบาท
ส่วนรางวัล 1 เหรียญทอง ได้จาก สุรชาติ เปาะมะ จากรุ่น 45-50 กก. 4 เหรียญเงิน ได้จาก วรัชญ์ บัวลม รุ่น 75-80 กก., พิมพิราช ต้นเขียว รุ่น 80-85 กก., น.ส.พรรณทิญากร พิมพิสาร รุ่น 70-75 กก. และน.ส.สุวิชาดา พรุเพชรแก้ว รุ่นโอเพ่น
ในส่วน 9 เหรียญทองแดง ได้จาก ประเภทชาย จักรกฤษณ์ ประสพสิน รุ่น 50-55 กก., เทวัญ แสงเงิน รุ่น 55_60 กก., พรเทพ พูลแก้ว รุ่น 65-70 กก. และ กูอิเบอเฮม กูบาฮา รุ่น 70-75 กก. ประเภทหญิง ได้จาก น.ส. ฟิรดาวส์ ดุรอแม รุ่น 45-50 กก., มาริญา สะและโสะ รุ่น 50-55 กก., ปภาวิณี เกื้อก่อบุญ รุ่น 55-60 กก., เจนจิรา หว้านเครือ รุ่น 60-65 กก. และนุชจรี คงเพชร รุ่น 65-70 กก.
ภายหลังจบการแข่งขัน อาจารย์นักรบ ทองแดง ผู้จัดการทีมประธานเทคนิคสมาคมกีฬาปันจักสีลัตแห่งประเทศไทย เผยว่า การแข่งขันปันจักสีลัตชิงแชมป์เอเชีย ครี้งที่ 5 นี้ถือว่าทีมไทยนั้นไม่ได้ตามเป้าที่หวังเอาไว้ 3 ทอง จากที่ทางผมและท่านนายกสมาคม นายภาณุ อุทัยรัตน์ ตั้งเอาไว้ แต่ก็มีหลายปัจจัยที่ทำให้ทีมไทยไม่ประสบความสำเร็จไม่ว่าจะเป็นเรื่องสนามแข่งขันไม่ได้มาตรฐาน การตัดสินที่มีผู้ตัดสินมีเพียงไม่กี่ชาติ แถมมีการส่งผู้ตัดสินลงทำการตัดสินในชาติที่ทีมตัวเองลงเล่นหลายราย แต่ก็ไม่ใช่ขอแก้ตัวต้องยอมรับว่าผิดหวังและจะกลับไปปรับปรุงแก้ไขเกมของไทยใหม่ เพื่อให้มีผลงานที่ดีขึ้นกว่าเดิม พร้อมต้องขอโทษพี่น้องประชาชนคนไทยที่ทำไม่ได้ตามเป้า แต่เราก็ยังถือว่าโชคดีได้ 1 เหรียญทอง 4 เหรียญเงินกับ 9 เหรียญทองแดงกลับมาฝากคนไทยในช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ พ.ศ.2563 ครับ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น