นายกสมาคมฯ เป็นประธานแถลงข่าวนัดชิงชนะเลิศ ช้าง เอฟเอ คัพ
#ชัดทุกกระแส
นายกสมาคมฯ เป็นประธานแถลงข่าวนัดชิงชนะเลิศ ช้าง เอฟเอ คัพ
วันที่ 31 ตุลาคม 2562 เวลา 14.00 น.
ณ ห้องเมต้า 1 สโมสรราชพฤกษ์ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) โดยเครื่องดื่มตราช้าง ได้จัดงานแถลงข่าวความพร้อม ก่อนเกม ช้าง เอฟเอ คัพ 2019 รอบชิงชนะเลิศ ระหว่าง ราชบุรี มิตรผล เอฟซี พบ การท่าเรือ เอฟซี ขึ้น
งานแถลงข่าวครั้งนี้ ได้รับเกียรติจาก พล.ต.อ. ดร. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฯ เป็นประธาน พร้อมด้วย คุณสุรพล อุทินทุ ผู้อำนวยการสำนักประสานงานภายนอก บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) โดยเครื่องดื่มตราช้าง, คุณสมชัย ศุภวิฑิตพัฒนา ผู้จัดการแผนกกิจกรรมการตลาดพิเศษ ฝ่ายการตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด, เดวิด เอลเลเรย์ ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคของ IFAB และตัวแทนของแต่ละสโมสร เข้าร่วมงาน
ซึ่ง พล.ต.อ. ดร. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง กล่าวว่า “สวัสดีแขกผู้มีเกียรติ และสื่อมวลชนทุกท่าน การแข่งขันฟุตบอลถ้วยรายการ ช้าง เอฟเอ คัพ มีการจัดแข่งขันต่อเนื่องเป็นประจำทุกฤดูกาล โดยความร่วมมือระหว่าง สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์, บริษัท ไทยลีก จำกัด และ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตเครื่องดื่มตราช้าง”
“สำหรับการแข่งขันรายการนี้ เป็นการแข่งขันแบบแพ้คัดออก หรือน็อกเอ้าท์ ไม่มีที่ยืนสำหรับทีมที่แพ้ ทีมที่ผ่านเข้ามาถึงรอบชิงชนะเลิศได้ ต้องชนะมาโดยตลอด สำหรับสโมสรที่ผ่านเข้าชิงชนะเลิศ ฟุตบอลถ้วยรายการ ช้าง เอฟเอ คัพ 2019 คือ สโมสรราชบุรี มิตรผล และ สโมสรการท่าเรือ เอฟซี โดยจะแข่งกันในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2562 เวลา 19.00 น. ณ สนาม บีจี ปทุม สเตเดี้ยม”
“นี่เป็นครั้งแรก ที่จะมีการนำระบบ VAR เข้ามาช่วยผู้ตัดสินในการทำหน้าที่อย่างเต็มรูปแบบ และมีมาตรฐาน ผ่านการรับรองของ IFAB ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของสมาคมฯ ในการนำเทคโนโลยี VAR และเป็นเรื่องที่น่าภูมิใจ ที่เราเป็นชาติแรกในการนำ VAR เข้ามาใช้เป็นชาติแรกในภูมิภาคอาเซียน และในฤดูกาล 2020 เราจะนำมาใช้ในการแข่งขัน โตโยต้า ไทยลีก ด้วย เพื่อให้การแข่งขันมีความบริสุทธิ์ ยุติธรรม และช่วยให้การตัดสินของผู้ตัดสินมีความน่าเชื่อถือ และทำให้แฟนบอลสบายใจกับการตัดสินของกรรมการมากขึ้น”
“ส่วนทีมชนะเลิศ จะได้รับรางวัลในการแข่งขันเป็นจำนวน 5 ล้านบาท พร้อมกับสิทธิ์ในการเข้าร่วมการแข่งขัน เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบคัดเลือก รอบ 2 ส่วนทีมรองชนะเลิศ จะได้รับเงินรางวัล 1 ล้านบาท”
“ต้องขอขอบคุณทุกภาคส่วน ที่ผลักดันให้เกิดการแข่งขันรายการนี้ ผมขอเรียนทุกท่านเลยว่า ถ้าเป็นไปได้ ในวันแข่งขันรายการนี้ มร. จานนี่ อินฟานติโน่ ประธานของฟีฟ่า จะมาร่วมชมการแข่งขันรายการนี้ และอาจจะมาเป็นผู้มอบถ้วยการแข่งขันรายการนี้ เพราะท่านจะมาลงนาม MOU กับชาติในอาเซียน ในการประชุม Asian Summit ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีที่เกิดขึ้นกับฟุตบอลไทย”
“สุดท้ายนี้ ต้องขอบคุณ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตเครื่องดื่มตราช้าง ที่ให้การสนับสนุนสมาคมฯ ไว้อีกครั้งหนึ่งครับ ขอบคุณครับ”
ด้าน คุณสุรพล อุทินทุ กล่าวว่า “เรียนแขกผู้มีเกียรติ และสื่อมวลชนทุกท่าน วันเสาร์นี้ก็เป็นโค้งสุดท้ายแล้ว การท่าเรือ กับ ราชบุรี มิตรผล ก็มาชิงแชมป์กัน นี่เป็นการแข่งขันฟุตบอลรายการสุดท้ายของปีนี้ นี่เป็นถ้วยที่ทั้งสองทีมตั้งหน้าตั้งตารอ เพื่อเป็นถ้วยอีกใบที่ทั้งสองทีมอยากเก็บไว้กับสโมสร ทั้งสองทีมไม่ได้เจอเส้นทางที่ง่ายเลย กว่าจะมาถึงรอบชิงชนะเลิศ โดยเฉพาะท่าเรือที่ผ่านทีมยักษ์ใหญ่มา 3 ทีม ราชบุรีเองก็ไม่ได้เจอเส้นทางที่ง่ายเช่นกัน นี่จะเป็นการแข่งขันที่สนุกแน่นอน และเราอาจได้รับเกียรติจากประธานฟีฟ่า ที่จะมามามอบถ้วยรายการนี้ ซึ่งถือเป็นประวัติศาสตร์ของฟุตบอลไทย ที่จะมีบุคคลในระดับโลกเข้ามา”
“นอกจากนี้ เราเองก็มีกิจกรรม ไม่ว่าจะเป็นคลินิกฟุตบอลเยาวชน ที่เราจะมีการคัดตัวนักฟุตบอล รวมถึงเป็นมาสคอตจูงมือกับนักฟุตบอล ซึ่งเยาวชนเหล่านี้จะได้รับแรงกระตุ้นเพื่อเป็นนักกีฬาที่ดีในอนาคต”
“ผมหวังว่าการแข่งขันรายการนี้ คงจะเป็นการแข่งขันที่สนุกที่สุดในปีนี้ ก็อยากให้ทุกคนเชียร์กันให้เต็มที่ หลังจบรายการนี้ ก็อยากให้ทุกท่านรวมใจกันเชียร์ทีมชาติไทยของเรา ในวันที่ 14 และ 19 พฤศจิกายน ผมก็ขอเป็นกำลังใจให้ทั้งสองทีม ขอให้เล่นกันอย่างยุติธรรม สู้กันให้เต็มที่ เราก็พร้อมที่จะแสดงความยินดีกับผู้ชนะ ที่จะได้รับเงินรางวัล 5 ล้านบาท ได้ตั๋วเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบคัดเลือก รอบ 2 และได้สิทธิ์ไปแข่งในไทยแลนด์ แชมเปี้ยนส์ คัพ กับเชียงราย ยูไนเต็ด ครับ ขอบคุณครับ”
ขณะที่ โรเบิร์ต โปรคูเรอร์ ผู้จัดการทีมของ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี กล่าวว่า “การท่าเรือเองเป็นทีมที่อาจได้เปรียบเล็กน้อย เพราะพวกเขาเพิ่งพลาดการคว้าแชมป์ลีกมา พวกเขาอาจมุ่งมั่นในถ้วยนี้ มีทรัพยากรที่ดีกว่าเรา แต่เราเองก็อยากจะได้แชมป์รายการนี้ เพื่อเป็นของขวัญให้กับแฟนบอลของเรา”
“เกมนี้เราไม่กดดันครับ มันเป็นความท้าทาย เราทำผลงานได้ดีในการเจอทีมใหญ่ในถ้วยนี้ ผมมองว่าพวกเขาอาจจะกดดันมากกว่าเรา”
“ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร เราก็จะมีมิตรภาพต่อกัน ในสนามเราเต็มที่ แต่นอกสนามเราคือเพื่อนกัน เจอกันวันเสาร์นะครับ”
ส่วนทาง ฟิลิป โรลเลอร์ กัปตันทีมของ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี กล่าวว่า “ผมมั่นใจในเกมนี้ครับ ท่าเรือเองต้องการจะได้ถ้วยนี้ เราคงจะเล่นได้อย่างสบายมากกว่า และคงสนุกกับเกมได้มากกว่าครับ”
ด้าน สระราวุฒิ ตรีพันธ์ หัวหน้าผู้ฝึกสอนของ การท่าเรือ เอฟซี กล่าวว่า “นี่เป็นเกมสุดท้ายของฤดูกาล นักบอลทุกคนก็พร้อมจะทำตามความฝัน นี่เป็น 10 ปีที่รอคอยกับถ้วยนี้ ส่วนนักเตะก็มีกลิ้ง (ศิวกร จักขุประสาท)คนเดียวที่โดนแบน ที่เหลือก็ไม่มีปัญหา พร้อมลงสนามครับ”
“ตอนนี้ทีมงานของเรา ทั้งผม โค้ชโชค นักเตะ ก็พร้อมสำหรับเกมนี้เต็มที่ นี่เป็นถ้วยที่เรารอมา 10 ปี เราจะทำเต็มที่เพื่อถ้วยนี้ ส่วนเรื่องความกดดัน ผมย้ำเสมอตั้งแต่มารับงานว่า ความกดดันจะทำให้เราทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น”
“เราหวังว่าเกมนี้จะสู้กันให้สนุก เราไม่รู้ใครกดดันกว่ากัน แต่เราเต็มที่แน่ เพราะเราจะทำเพื่อ 10 ปีที่รอคอยครับ”
ขณะที่ ดาบิด โรเชล่า กัปตันทีมของ การท่าเรือ เอฟซี กล่าวว่า “เราผ่านมาแล้วทั้งเชียงราย เมืองทอง แม้เกมกับราชบุรีจะเป็นอีกเกมที่ยาก แต่เราพร้อมร้อยเปอร์เซ็นต์แน่นอน”
“มันจะเป็นเกมที่ดีแน่ เราไม่กดดัน เราจะสนุกกับเกม และเสียงเชียร์ของแฟนบอลท่าเรือ จะเป็นพลังที่ดีให้กับเราแน่”
สำหรับ เดวิด เอลเลเรย์ ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคของ IFAB กล่าวถึงการใช้งาน VAR ในเกมนี้ว่า “สวัสดีครับ ในฐานะตัวแทนของ IFAB นี่เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ผมได้รับการเชิญมาในรอบชิงชนะเลิศรายการนี้ ทาง IFAB มีความยินดี ผมอยากแสดงความยินดีกับนายกสมาคมฯ และไทยลีก ที่จะมี VAR มาใช้งานอย่างเป็นทางการเป็นเกมแรก การใช้งาน VAR เป็นเกมแรก เป็นการแสดงให้เห็นว่าไทยนั้นนำหน้าชาติเพื่อนบ้านที่ยังไม่ได้ใช้ VAR และไทยอยู่ในระดับเทียบเท่ากับญี่ปุ่น ที่มีการนำ VAR มาใช้ในเจลีกแล้ว”
“อย่างที่ทราบ เทคโนโลยี VAR ไม่ได้ทำมาให้ใช้ให้การตัดสินถูกต้องทุกครั้ง แต่จะใช้ลดให้มีข้อผิดพลาดที่มีผลต่อการแข่งขันให้น้อยที่สุด เราจะใช้ในเหตุการณ์ที่มันสำคัญต่อเกมจริงๆ สิ่งสำคัญคือ VAR จะทำให้เกมมีความยุติธรรมมากที่สุด และจะไม่ลดความสนุกสนานของการแข่งขันฟุตบอลไป สุดท้ายผู้ตัดสินในสนามจะเป็นผู้ตัดสินใจครั้งสุดท้ายในการแข่งขันแต่ละเกม และ VAR จะเป็นเพียงสิ่งที่ช่วยเหลือการตัดสินใจของผู้ตัดสินเท่านั้น”
“การได้รับอนุญาตเป็นขั้นตอนที่ยาวนาน ซึ่งสมาคมฯ ก็ทราบ เราเริ่มการอบรมตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา ทาง IFAB ก็ทราบว่า สมาคมฯ จะพร้อมใช้ VAR ในไทยลีกทุกเกมของฤดูกาลหน้า”
“หากผู้เล่นเล่นไม่ดีในวันเสาร์ พวกเขาก็จะไม่โดนแบนทันที การทำงานของ VAR ในวันเสาร์ก็เช่นกัน หากมีข้อผิดพลาด เราก็อยากให้เข้าใจว่านี่เป็นการใช้งานครั้งแรก แต่เราก็จะพยายามทำเต็มที่ที่สุด เพื่อไม่ให้มีข้อผิดพลาดนั้น”
ขณะที่กติกาการแข่งขันนัดชิงชนะเลิศนี้ ในเวลาปกติ แข่งขัน 90 นาที ครึ่งละ 45 นาที พักครึ่ง 15 นาที หากเสมอกัน ต่อเวลาพิเศษออกไปอีก 30 นาที โดยแบ่งเป็น 2 ครึ่ง ครึ่งละ 15 นาที ไม่มีการพัก และถ้าหากยังเสมอกันอีก จะมีการดวลจุดโทษแบบ ABAB
สำหรับการเปลี่ยนตัวนักกีฬา ในเวลาแข่งขันปกติ 90 นาที สามารถเปลี่ยนตัวนักกีฬาสำรองได้ 3 คน และสามารถเปลี่ยนตัวนักกีฬาเพิ่มได้อีก 1 คน ในช่วงต่อเวลาพิเศษ หากทีมยังใช้โควต้าเปลี่ยนตัวสำรองไม่ครบ 3 คน ในช่วงเวลาปกติ 90 นาที แล้วมีการต่อเวลาพิเศษ สามารถเปลี่ยนตัวให้ครบโควต้า 3 คน และเพิ่มอีก 1 คน ในช่วงต่อเวลาพิเศษได้
ในส่วนของการฝึกซ้อม ทางฝ่ายจัดการแข่งขันจะเปิดให้ผู้สื่อข่าวเข้ารับชมการฝึกซ้อมของทั้งสองทีม ที่สนาม บีจี สเตเดี้ยม ในวันศุกร์ที่ 1 พฤศจิกายน 2562 โดยฝั่งราชบุรี มิตรผล เอฟซี จะฝึกซ้อมในเวลา 17.00-18.00 น. ส่วนการท่าเรือ เอฟซี จะฝึกซ้อมในเวลา 19.00-20.00 น.
โดยการแข่งขันฟุตบอล ช้าง เอฟเอ คัพ 2019 รอบชิงชนะเลิศ จะแข่งขันกันที่สนามบีจี สเตเดี้ยม จังหวัดปทุมธานี ในเวลา 19.00 น. และสำหรับแฟนบอลที่เดินทางไปรับชมเกมฟุตบอลด้วยรถส่วนตัว สามารถนำรถของท่านไปจอดได้ที่มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพได้ ส่วนแฟนบอลท่านใดที่ไม่สะดวก สามารถรับชมการถ่ายทอดสดได้ ผ่านทางช่อง True4U, True Sport 2 และ True Sport HD 2
ทั้งนี้ การแข่งขัน ช้าง เอฟเอ คัพ 2019 รอบชิงชนะเลิศ จะแข่งขันกันในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2562 โดยทีมที่ชนะเลิศรายการนี้ จะได้รับเงินรางวัล 5 ล้านบาท และยังได้รับสิทธิ์ไปลงแข่งขันฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบคัดเลือก รอบ 2 ในปี 2020
นายกสมาคมฯ เป็นประธานแถลงข่าวนัดชิงชนะเลิศ ช้าง เอฟเอ คัพ
วันที่ 31 ตุลาคม 2562 เวลา 14.00 น.
ณ ห้องเมต้า 1 สโมสรราชพฤกษ์ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) โดยเครื่องดื่มตราช้าง ได้จัดงานแถลงข่าวความพร้อม ก่อนเกม ช้าง เอฟเอ คัพ 2019 รอบชิงชนะเลิศ ระหว่าง ราชบุรี มิตรผล เอฟซี พบ การท่าเรือ เอฟซี ขึ้น
งานแถลงข่าวครั้งนี้ ได้รับเกียรติจาก พล.ต.อ. ดร. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฯ เป็นประธาน พร้อมด้วย คุณสุรพล อุทินทุ ผู้อำนวยการสำนักประสานงานภายนอก บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) โดยเครื่องดื่มตราช้าง, คุณสมชัย ศุภวิฑิตพัฒนา ผู้จัดการแผนกกิจกรรมการตลาดพิเศษ ฝ่ายการตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด, เดวิด เอลเลเรย์ ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคของ IFAB และตัวแทนของแต่ละสโมสร เข้าร่วมงาน
ซึ่ง พล.ต.อ. ดร. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง กล่าวว่า “สวัสดีแขกผู้มีเกียรติ และสื่อมวลชนทุกท่าน การแข่งขันฟุตบอลถ้วยรายการ ช้าง เอฟเอ คัพ มีการจัดแข่งขันต่อเนื่องเป็นประจำทุกฤดูกาล โดยความร่วมมือระหว่าง สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์, บริษัท ไทยลีก จำกัด และ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตเครื่องดื่มตราช้าง”
“สำหรับการแข่งขันรายการนี้ เป็นการแข่งขันแบบแพ้คัดออก หรือน็อกเอ้าท์ ไม่มีที่ยืนสำหรับทีมที่แพ้ ทีมที่ผ่านเข้ามาถึงรอบชิงชนะเลิศได้ ต้องชนะมาโดยตลอด สำหรับสโมสรที่ผ่านเข้าชิงชนะเลิศ ฟุตบอลถ้วยรายการ ช้าง เอฟเอ คัพ 2019 คือ สโมสรราชบุรี มิตรผล และ สโมสรการท่าเรือ เอฟซี โดยจะแข่งกันในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2562 เวลา 19.00 น. ณ สนาม บีจี ปทุม สเตเดี้ยม”
“นี่เป็นครั้งแรก ที่จะมีการนำระบบ VAR เข้ามาช่วยผู้ตัดสินในการทำหน้าที่อย่างเต็มรูปแบบ และมีมาตรฐาน ผ่านการรับรองของ IFAB ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของสมาคมฯ ในการนำเทคโนโลยี VAR และเป็นเรื่องที่น่าภูมิใจ ที่เราเป็นชาติแรกในการนำ VAR เข้ามาใช้เป็นชาติแรกในภูมิภาคอาเซียน และในฤดูกาล 2020 เราจะนำมาใช้ในการแข่งขัน โตโยต้า ไทยลีก ด้วย เพื่อให้การแข่งขันมีความบริสุทธิ์ ยุติธรรม และช่วยให้การตัดสินของผู้ตัดสินมีความน่าเชื่อถือ และทำให้แฟนบอลสบายใจกับการตัดสินของกรรมการมากขึ้น”
“ส่วนทีมชนะเลิศ จะได้รับรางวัลในการแข่งขันเป็นจำนวน 5 ล้านบาท พร้อมกับสิทธิ์ในการเข้าร่วมการแข่งขัน เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบคัดเลือก รอบ 2 ส่วนทีมรองชนะเลิศ จะได้รับเงินรางวัล 1 ล้านบาท”
“ต้องขอขอบคุณทุกภาคส่วน ที่ผลักดันให้เกิดการแข่งขันรายการนี้ ผมขอเรียนทุกท่านเลยว่า ถ้าเป็นไปได้ ในวันแข่งขันรายการนี้ มร. จานนี่ อินฟานติโน่ ประธานของฟีฟ่า จะมาร่วมชมการแข่งขันรายการนี้ และอาจจะมาเป็นผู้มอบถ้วยการแข่งขันรายการนี้ เพราะท่านจะมาลงนาม MOU กับชาติในอาเซียน ในการประชุม Asian Summit ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีที่เกิดขึ้นกับฟุตบอลไทย”
“สุดท้ายนี้ ต้องขอบคุณ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตเครื่องดื่มตราช้าง ที่ให้การสนับสนุนสมาคมฯ ไว้อีกครั้งหนึ่งครับ ขอบคุณครับ”
ด้าน คุณสุรพล อุทินทุ กล่าวว่า “เรียนแขกผู้มีเกียรติ และสื่อมวลชนทุกท่าน วันเสาร์นี้ก็เป็นโค้งสุดท้ายแล้ว การท่าเรือ กับ ราชบุรี มิตรผล ก็มาชิงแชมป์กัน นี่เป็นการแข่งขันฟุตบอลรายการสุดท้ายของปีนี้ นี่เป็นถ้วยที่ทั้งสองทีมตั้งหน้าตั้งตารอ เพื่อเป็นถ้วยอีกใบที่ทั้งสองทีมอยากเก็บไว้กับสโมสร ทั้งสองทีมไม่ได้เจอเส้นทางที่ง่ายเลย กว่าจะมาถึงรอบชิงชนะเลิศ โดยเฉพาะท่าเรือที่ผ่านทีมยักษ์ใหญ่มา 3 ทีม ราชบุรีเองก็ไม่ได้เจอเส้นทางที่ง่ายเช่นกัน นี่จะเป็นการแข่งขันที่สนุกแน่นอน และเราอาจได้รับเกียรติจากประธานฟีฟ่า ที่จะมามามอบถ้วยรายการนี้ ซึ่งถือเป็นประวัติศาสตร์ของฟุตบอลไทย ที่จะมีบุคคลในระดับโลกเข้ามา”
“นอกจากนี้ เราเองก็มีกิจกรรม ไม่ว่าจะเป็นคลินิกฟุตบอลเยาวชน ที่เราจะมีการคัดตัวนักฟุตบอล รวมถึงเป็นมาสคอตจูงมือกับนักฟุตบอล ซึ่งเยาวชนเหล่านี้จะได้รับแรงกระตุ้นเพื่อเป็นนักกีฬาที่ดีในอนาคต”
“ผมหวังว่าการแข่งขันรายการนี้ คงจะเป็นการแข่งขันที่สนุกที่สุดในปีนี้ ก็อยากให้ทุกคนเชียร์กันให้เต็มที่ หลังจบรายการนี้ ก็อยากให้ทุกท่านรวมใจกันเชียร์ทีมชาติไทยของเรา ในวันที่ 14 และ 19 พฤศจิกายน ผมก็ขอเป็นกำลังใจให้ทั้งสองทีม ขอให้เล่นกันอย่างยุติธรรม สู้กันให้เต็มที่ เราก็พร้อมที่จะแสดงความยินดีกับผู้ชนะ ที่จะได้รับเงินรางวัล 5 ล้านบาท ได้ตั๋วเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบคัดเลือก รอบ 2 และได้สิทธิ์ไปแข่งในไทยแลนด์ แชมเปี้ยนส์ คัพ กับเชียงราย ยูไนเต็ด ครับ ขอบคุณครับ”
ขณะที่ โรเบิร์ต โปรคูเรอร์ ผู้จัดการทีมของ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี กล่าวว่า “การท่าเรือเองเป็นทีมที่อาจได้เปรียบเล็กน้อย เพราะพวกเขาเพิ่งพลาดการคว้าแชมป์ลีกมา พวกเขาอาจมุ่งมั่นในถ้วยนี้ มีทรัพยากรที่ดีกว่าเรา แต่เราเองก็อยากจะได้แชมป์รายการนี้ เพื่อเป็นของขวัญให้กับแฟนบอลของเรา”
“เกมนี้เราไม่กดดันครับ มันเป็นความท้าทาย เราทำผลงานได้ดีในการเจอทีมใหญ่ในถ้วยนี้ ผมมองว่าพวกเขาอาจจะกดดันมากกว่าเรา”
“ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร เราก็จะมีมิตรภาพต่อกัน ในสนามเราเต็มที่ แต่นอกสนามเราคือเพื่อนกัน เจอกันวันเสาร์นะครับ”
ส่วนทาง ฟิลิป โรลเลอร์ กัปตันทีมของ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี กล่าวว่า “ผมมั่นใจในเกมนี้ครับ ท่าเรือเองต้องการจะได้ถ้วยนี้ เราคงจะเล่นได้อย่างสบายมากกว่า และคงสนุกกับเกมได้มากกว่าครับ”
ด้าน สระราวุฒิ ตรีพันธ์ หัวหน้าผู้ฝึกสอนของ การท่าเรือ เอฟซี กล่าวว่า “นี่เป็นเกมสุดท้ายของฤดูกาล นักบอลทุกคนก็พร้อมจะทำตามความฝัน นี่เป็น 10 ปีที่รอคอยกับถ้วยนี้ ส่วนนักเตะก็มีกลิ้ง (ศิวกร จักขุประสาท)คนเดียวที่โดนแบน ที่เหลือก็ไม่มีปัญหา พร้อมลงสนามครับ”
“ตอนนี้ทีมงานของเรา ทั้งผม โค้ชโชค นักเตะ ก็พร้อมสำหรับเกมนี้เต็มที่ นี่เป็นถ้วยที่เรารอมา 10 ปี เราจะทำเต็มที่เพื่อถ้วยนี้ ส่วนเรื่องความกดดัน ผมย้ำเสมอตั้งแต่มารับงานว่า ความกดดันจะทำให้เราทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น”
“เราหวังว่าเกมนี้จะสู้กันให้สนุก เราไม่รู้ใครกดดันกว่ากัน แต่เราเต็มที่แน่ เพราะเราจะทำเพื่อ 10 ปีที่รอคอยครับ”
ขณะที่ ดาบิด โรเชล่า กัปตันทีมของ การท่าเรือ เอฟซี กล่าวว่า “เราผ่านมาแล้วทั้งเชียงราย เมืองทอง แม้เกมกับราชบุรีจะเป็นอีกเกมที่ยาก แต่เราพร้อมร้อยเปอร์เซ็นต์แน่นอน”
“มันจะเป็นเกมที่ดีแน่ เราไม่กดดัน เราจะสนุกกับเกม และเสียงเชียร์ของแฟนบอลท่าเรือ จะเป็นพลังที่ดีให้กับเราแน่”
สำหรับ เดวิด เอลเลเรย์ ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคของ IFAB กล่าวถึงการใช้งาน VAR ในเกมนี้ว่า “สวัสดีครับ ในฐานะตัวแทนของ IFAB นี่เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ผมได้รับการเชิญมาในรอบชิงชนะเลิศรายการนี้ ทาง IFAB มีความยินดี ผมอยากแสดงความยินดีกับนายกสมาคมฯ และไทยลีก ที่จะมี VAR มาใช้งานอย่างเป็นทางการเป็นเกมแรก การใช้งาน VAR เป็นเกมแรก เป็นการแสดงให้เห็นว่าไทยนั้นนำหน้าชาติเพื่อนบ้านที่ยังไม่ได้ใช้ VAR และไทยอยู่ในระดับเทียบเท่ากับญี่ปุ่น ที่มีการนำ VAR มาใช้ในเจลีกแล้ว”
“อย่างที่ทราบ เทคโนโลยี VAR ไม่ได้ทำมาให้ใช้ให้การตัดสินถูกต้องทุกครั้ง แต่จะใช้ลดให้มีข้อผิดพลาดที่มีผลต่อการแข่งขันให้น้อยที่สุด เราจะใช้ในเหตุการณ์ที่มันสำคัญต่อเกมจริงๆ สิ่งสำคัญคือ VAR จะทำให้เกมมีความยุติธรรมมากที่สุด และจะไม่ลดความสนุกสนานของการแข่งขันฟุตบอลไป สุดท้ายผู้ตัดสินในสนามจะเป็นผู้ตัดสินใจครั้งสุดท้ายในการแข่งขันแต่ละเกม และ VAR จะเป็นเพียงสิ่งที่ช่วยเหลือการตัดสินใจของผู้ตัดสินเท่านั้น”
“การได้รับอนุญาตเป็นขั้นตอนที่ยาวนาน ซึ่งสมาคมฯ ก็ทราบ เราเริ่มการอบรมตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา ทาง IFAB ก็ทราบว่า สมาคมฯ จะพร้อมใช้ VAR ในไทยลีกทุกเกมของฤดูกาลหน้า”
“หากผู้เล่นเล่นไม่ดีในวันเสาร์ พวกเขาก็จะไม่โดนแบนทันที การทำงานของ VAR ในวันเสาร์ก็เช่นกัน หากมีข้อผิดพลาด เราก็อยากให้เข้าใจว่านี่เป็นการใช้งานครั้งแรก แต่เราก็จะพยายามทำเต็มที่ที่สุด เพื่อไม่ให้มีข้อผิดพลาดนั้น”
ขณะที่กติกาการแข่งขันนัดชิงชนะเลิศนี้ ในเวลาปกติ แข่งขัน 90 นาที ครึ่งละ 45 นาที พักครึ่ง 15 นาที หากเสมอกัน ต่อเวลาพิเศษออกไปอีก 30 นาที โดยแบ่งเป็น 2 ครึ่ง ครึ่งละ 15 นาที ไม่มีการพัก และถ้าหากยังเสมอกันอีก จะมีการดวลจุดโทษแบบ ABAB
สำหรับการเปลี่ยนตัวนักกีฬา ในเวลาแข่งขันปกติ 90 นาที สามารถเปลี่ยนตัวนักกีฬาสำรองได้ 3 คน และสามารถเปลี่ยนตัวนักกีฬาเพิ่มได้อีก 1 คน ในช่วงต่อเวลาพิเศษ หากทีมยังใช้โควต้าเปลี่ยนตัวสำรองไม่ครบ 3 คน ในช่วงเวลาปกติ 90 นาที แล้วมีการต่อเวลาพิเศษ สามารถเปลี่ยนตัวให้ครบโควต้า 3 คน และเพิ่มอีก 1 คน ในช่วงต่อเวลาพิเศษได้
ในส่วนของการฝึกซ้อม ทางฝ่ายจัดการแข่งขันจะเปิดให้ผู้สื่อข่าวเข้ารับชมการฝึกซ้อมของทั้งสองทีม ที่สนาม บีจี สเตเดี้ยม ในวันศุกร์ที่ 1 พฤศจิกายน 2562 โดยฝั่งราชบุรี มิตรผล เอฟซี จะฝึกซ้อมในเวลา 17.00-18.00 น. ส่วนการท่าเรือ เอฟซี จะฝึกซ้อมในเวลา 19.00-20.00 น.
โดยการแข่งขันฟุตบอล ช้าง เอฟเอ คัพ 2019 รอบชิงชนะเลิศ จะแข่งขันกันที่สนามบีจี สเตเดี้ยม จังหวัดปทุมธานี ในเวลา 19.00 น. และสำหรับแฟนบอลที่เดินทางไปรับชมเกมฟุตบอลด้วยรถส่วนตัว สามารถนำรถของท่านไปจอดได้ที่มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพได้ ส่วนแฟนบอลท่านใดที่ไม่สะดวก สามารถรับชมการถ่ายทอดสดได้ ผ่านทางช่อง True4U, True Sport 2 และ True Sport HD 2
ทั้งนี้ การแข่งขัน ช้าง เอฟเอ คัพ 2019 รอบชิงชนะเลิศ จะแข่งขันกันในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2562 โดยทีมที่ชนะเลิศรายการนี้ จะได้รับเงินรางวัล 5 ล้านบาท และยังได้รับสิทธิ์ไปลงแข่งขันฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบคัดเลือก รอบ 2 ในปี 2020
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น