เอซีซีมอบส.จักรยานฯจัดศึกสองล้อถนนเอเชีย

เอซีซีมอบส.จักรยานฯจัดศึกสองล้อถนนเอเชียชิงชัยที่ จ.ระยอง 14-20 มิ.ย.66

สมาพันธ์จักรยานแห่งเอเชีย (เอซีซี) ให้ความไว้วางใจสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ ภายใต้การนำของ พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมฯ จึงมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันจักรยานประเภทถนนชิงแชมป์เอเชีย 2023 กำหนดชิงชัยระหว่างวันที่ 14-20 มิ.ย.2566 ที่อ่างเก็บน้ำดอกกราย จ.ระยอง ซึ่งเป็นช่วงฤดูผลไม้ของจังหวัดระยองพอดี โดย “เสธ.หมึก” เผยเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว พร้อมทั้งกระตุ้นเศรษฐกิจให้แก่จังหวัดระยองได้เป็นอย่างดี

“เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า จากการประชุมคณะกรรมการบริหาร (Management Committee) ของสมาพันธ์จักรยานแห่งเอเชีย หรือ เอซีซี ที่โรงแรมไฮแอต รีเจนซี กรุงดูชานเบ ประเทศทาจิกิสถาน เมื่อวันที่ 26 มีนาคม ซึ่งสมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้มอบหมายให้ นายณัฐพงศ์ โลหิตนาวี ในฐานะฝ่ายเทคนิคของสมาคมฯ เป็นผู้แทนเข้าร่วมประชุมเพื่อนำเสนอการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันจักรยานระดับชิงแชมป์เอเชีย 2 รายการประกอบด้วย จักรยานประเภทถนนชิงแชมป์เอเชีย 2023 และจักรยานประเภทบีเอ็มเอ็กซ์ ชิงแชมป์เอเชีย 2024 

พลเอกเดชา กล่าวว่า จากการรายงานของ นายณัฐพงศ์ แจ้งมาว่า ที่ประชุมเอซีซี ให้ความไว้วางใจสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ ภายใต้การนำของ พลเอกเดชา ที่เป็นนักพัฒนา และได้ทุ่มเททำงานเพื่อวงการจักรยานของทวีปเอเชียมาอย่างต่อเนื่อง จึงมีมติอย่างเป็นเอกฉันท์เห็นชอบให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันจักรยานประเภทถนนชิงแชมป์เอเชีย 2023 ซึ่งสมาคมกีฬาจักรยานฯ เสนอจัดการแข่งขันที่จังหวัดระยอง ระหว่างวันที่ 14-20 มิถุนายน 2566 เนื่องจากมีความพร้อมในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นสนามแข่งขัน บุคลากร ไปจนถึงสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐาน และการคมนาคม

พลเอกเดชา กล่าวอีกว่า การที่สมาคมกีฬาจักรยานฯ เลือกจัดในเดือนมิถุนายน เนื่องจากเป็นช่วงเวลาฤดูผลไม้ของจังหวัดระยอง ที่มีผลไม้ชื่อดังและรสชาติดี ไม่ว่าจะเป็นทุเรียน เงาะ มังคุด สละ ออกสู่ตลาด อันจะช่วยในการกระตุ้นเศรษฐกิจของระยองในอีกทางหนึ่ง นอกเหนือจากการท่องเที่ยวที่ระยองมีแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากมาย สำหรับเส้นทางการแข่งขันในประเภทไทม์ไทรอัล จะใช้เส้นทางเลียบชายฝั่งทะเลหาดแม่รำพึง ระยะทาง 15 กม. ต่อรอบ ส่วนประเภทโรดเรซ จะใช้เส้นทางรอบ ๆ อ่างเก็บน้ำดอกกราย ระยะทางรอบละ 36 กม. ซึ่งอ่างเก็บน้ำดอกกรายก็เป็นอีกหนึ่งในแลนด์มาร์คสำคัญของจังหวัดที่กำลังจะพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญต่อไปในอนาคต 

นายกสองล้อไทย เจ้าของฉายา “หมึกต้นแบบ” กล่าวต่อไปว่า จากเดิม เอซีซี เคยมีมติให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันจักรยานประเภทถนนชิงแชมป์เอเชีย 2021 ที่กำหนดจัดแข่งขันช่วงเดือนสิงหาคม 2564 ที่อ่างเก็บน้ำดอกกราย จังหวัดระยอง เช่นเดียวกัน แต่ในช่วงเวลาดังกล่าวเกิดปัญหาโรคไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาดอย่างหนักไปทั่วทุกภูมิภาคของทวีปเอเชีย หลาย ๆ ชาติไม่สามารถส่งนักกีฬาเดินทางมาแข่งขันได้ ที่ประชุมใหญ่สามัญเอซีซี จึงลงมติว่าให้ยกเลิกการแข่งขันไปก่อน ซึ่งการที่ประเทศไทยได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันในปี 2566 เท่ากับว่านำแผนการแข่งขันเดิมมาดำเนินการแข่งขันอีกครั้ง โดยใช้เส้นทางแข่งขันเดิมภายในจังหวัดระยอง

“นอกเหนือจากการแข่งขันจักรยานประเภทถนนชิงแชมป์เอเชีย 2023 ที่ไทยได้รับฉันทามติให้เป็นเจ้าภาพดังกล่าวแล้ว ที่ประชุมยังได้มีมติเลือกเจ้าภาพจักรยานชิงแชมป์เอเชีย 2023 ประเภทอื่น ๆ ดังนี้ ประเภทลู่ ประเทศมาเลเซีย ได้เป็นเจ้าภาพ, ประเภทเสือภูเขา ประเทศอินเดีย เป็นเจ้าภาพ และประเภทบีเอ็มเอ็กซ์ ประเทศฟิลิปปินส์ เป็นเจ้าภาพ ส่วนการแข่งขันในปี 2024 นั้น ที่ประเทศไทยเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันจักรยานประเภทบีเอ็มเอ็กซ์ชิงแชมป์เอเชีย 2024 ที่ประชุมมีมติไปพิจารณาคัดเลือกกันในการประชุมกรรมการบริหารครั้งต่อไป คาดว่าจะมีการประชุมในช่วงที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันจักรยานประเภทถนนชิงแชมป์เอชีย 2023 ในเดือนมิถุนายน ปีหน้า ที่จังหวัดระยอง” พลเอกเดชา กล่าวเสริม

สำหรับผลการแข่งขันจักรยานประเภทถนนชิงแชมป์เอเชีย 2022 ระหว่างวันที่ 25-29 มีนาคม ที่กรุงชานดูเบ ประเทศทาจิกิสถาน ผลการแข่งขันของนักปั่นไทยมีดังนี้ วันที่ 25 มีนาคม รายการไทม์ไทรอัล รุ่นเยาวชนหญิง น.ส.จิตราพร สายสิงห์ ได้อันดับที่ 4, รุ่นเยาวชนชาย นายติณพัฒน์ เมืองเดช ได้อันดับที่ 5, วันที่ 26 มีนาคม รายการไทม์ไทรอัล รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีหญิง น.ส.กมลรดา ขาวปลอด ได้อันดับที่ 4 และรุ่นประชาชนหญิง สิบตรีหญิง เพชรดารินทร์ สมราช ได้อันดับที่ 7

“โค้ชตั้ม” วิสุทธิ์ กสิยะพัท หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย เปิดเผยว่า จากผลงานของนักปั่นไทยถึงแม้จะไม่ติดอันดับ 1 ใน 3 แต่ทุกคนก็ทำเวลาได้อย่างน่าพอใจ ไม่ได้โดนทิ้งขาดจากผู้ที่ได้แชมป์ ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง โดยเฉพาะในรุ่นเยาวชนทั้ง ติณพัฒน์ และจิตราพร ต่างก็ทำเวลาได้ดี ขณะที่รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีหญิง กมลรดา สามารถน็อครอบนักปั่นจากเวียดนามได้สำเร็จ ส่วนรุ่นประชาชนหญิง เพชรดารินทร์ แพ้เวียดนามแค่ไม่กี่วินาที อุปสรรคของนักปั่นไทยชุดนี้คือสภาพอากาศที่หนาวเย็นมาก อุณหภูมิต่ำกว่า 10 องศาเซลเซียส แถมยังมีฝนตกลงมาอีก แต่หากมองในภาพรวมถือว่าน่าพอใจ ซึ่งเรายังมีเวลาปรับแก้ไขจุดบกพร่องต่าง ๆ ก่อนที่จะถึงช่วงการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ที่เวียดนาม อย่างไรก็ตาม คู่แข่งที่น่ากลัวของเราไม่ใช่เจ้าภาพเวียดนามแล้ว แต่เป็นนักปั่นจากอินโดนีเซีย ที่ทำเวลาได้ดีมาก ต้องจับตามองและหาข้อมูลให้ดี

ส่วนโปรแกรมการแข่งขันที่เหลือจะเป็นรายการโรดเรซ วันที่ 28 มีนาคม รายการโรดเรซบุคคล รุ่นเยาวชนชาย นายกฤตณัฐ แก้วน้อย, นายติณพัฒน์ เมืองเดช, นายธนวัฒน์ แสนตา, นายนนทกร นนทะแก้ว และ รุ่นเยาวชนหญิง น.ส.พลอยปภัส ศรีใสไพ, น.ส.จิตราพร สายสิงห์, น.ส.อภิชยา หันทยุง, น.ส.สุพิชชา วรวงศ์, วันที่ 29 มีนาคม รายการโรดเรซ บุคคล รุ่นประชาชนหญิง สิบตรีหญิง เพชรดารินทร์ สมราช กับ สิบตรีหญิง ชนิภรณ์ บัตริยะ และรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีหญิง น.ส.กมลรดา ขาวปลอด กับ น.ส.นัฐนันท์ นนทะแก้ว.